กรมพัฒน์ฯ บุกภูเก็ต ชมความสำเร็จ Digital Village ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางหวานพัฒนา ยอดขายออนไลน์'ส้มควาย'ของดีท้องถิ่น พุ่ง! เตรียมดึงวิสาหกิจชุมชนบ้านบางโรง เดินรอยตาม ใช้ Soft Power ชุมชน สร้างรายได้ สร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจฐานราก
กรมพัฒน์ฯ บุกภูเก็ต
ชมความสำเร็จ Digital Village ของกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางหวานพัฒนา
ยอดขายออนไลน์'ส้มควาย'ของดีท้องถิ่น พุ่ง! เตรียมดึงวิสาหกิจชุมชนบ้านบางโรง เดินรอยตาม
ใช้ Soft Power ชุมชน สร้างรายได้
สร้างความยั่งยืนให้เศรษฐกิจฐานราก
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า นำคณะลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตติดตามผลงานโครงการ
Digital
Village by DBD พบ 'กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางหวานพัฒนา' ภายหลังร่วมโครงการได้สร้างความสำเร็จ สามารถสร้างยอดขายผ่านออนไลน์ได้แบบสุดปัง! กว่า 30% ของรายได้
ดึง 'ส้มควาย' สินค้าพื้นที่โชว์ภูมิปัญญาท้องถิ่น
พร้อมด้วยงานหัตถกรรม ขนมพื้นบ้าน และสร้างการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักซึมซับผ่านกิจกรรมต่างๆ
แบบ Soft Power ประกอบกับคณะยังได้พูดคุยเชิงลึกรับทราบความต้องการเพื่อพัฒนาต่อไป
วางแผนปี 2567 ใช้นโยบาย BCG ลุย! เดินหน้าพัฒนาต่อกับ 'วิสาหกิจชุมชนบ้านบางโรง' พร้อมเข้าร่วมโครงการต่อคิวความสำเร็จเป็นชุมชนถัดไป
นายทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้
ตนพร้อมด้วยคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเพื่อติดตามผลการพัฒนา 'กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบางหวานพัฒนา' อำเภอกระทู้
จังหวัดภูเก็ต เป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรางวัลกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรดีเด่น
และรางวัลรองรองชนะเลิศอันดับที่ 2 ในปี 2564 และเข้าร่วมโครงการ
Digital Village ของกรมฯ โดยพบว่า ภายหลังเข้าร่วมโครงการกลุ่มแม่บ้านฯ
สามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้จำนวนมากในช่องทาง Facebook และไลฟ์สดเป็นหลัก โดยยอดขายผ่านทางช่องทางออนไลน์คิดเป็น 30% ของรายได้ ซึ่งกลุ่มแม่บ้านมีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่โดดเด่นประกอบด้วย 1)
ผลิตภัณฑ์แปรรูปส้มควาย ส้มควายแช่อิ่ม ส้มควายสามรส ส้มควายแก้ว
ส้มควายผงกึ่งสำเร็จรูป น้ำส้มควายพร้อมดื่ม
ซึ่งส้มควายเป็นผลไม้ของดีในท้องถิ่นภูเก็ตที่ภูมิปัญญาท้องถิ่นจะนำมาแปรรูปผลิตเป็นสมุนไพรไทยในรูปแบบต่างๆ
2) งานหัตถกรรมการเพ้นท์-ปักผ้าปาเต๊ะ 3) ผลิตภัณฑ์ขนมพื้นบ้าน และ 4) การท่องเที่ยวชุมชน
โดยผลิตภัณฑ์ยังได้รับเครื่องหมายรับรองคุณภาพ อาทิ เครื่องหมายฮาลาล และมอก.
เพื่อสร้างมาตรฐานและความมั่นใจในการส่งออกด้วย
อธิบดี
กล่าวต่อว่า "ทั้งนี้ จากการพูดคุยเชิงลึกได้รับทราบถึงความต้องการของกลุ่มแม่บ้านว่า
มีความสนใจในการต่อยอดความรู้ในการทำตลาดออนไลน์เพิ่มเติมอย่างการทำคลิปสั้น
เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ขยายตัวมากขึ้นเพราะปีนี้ผลผลิตส้มควายจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจึงต้องเร่งต่อยอดการตลาดให้กว้างขึ้น
โดยกรมฯ จะสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ให้ความรู้ต่อไป อย่างไรก็ดี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการพัฒนาผู้ประกอบการชุมชนให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชนใช้ Soft Power ดึงศักยภาพจากอัตลักษณ์ ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสานกับการทำการตลาดออนไลน์
สร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจ รวมไปถึงบริหารจัดการร้านค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มชั้นนำ
เช่น Facebook, Line
Shopping, TikTok Shop, และ Lazada เพื่อที่จะให้สินค้าชุมชนเข้าถึงผู้บริโภคในยุคดิจิทัลมากขึ้น
"จากนั้น คณะได้เดินทางต่อไปยังพื้นที่ 'วิสาหกิจชุมชนบ้านบางโรง' อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ได้พบกับประธานกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านบางโรง เพื่อดูการดำเนินงานของชุมชนและความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการ "Digital Village BCG ชุมชนออนไลน์นวัตกรรมรักษ์โลก" ในปี 2567 ต่อไป วิสาหกิจชุมชนบ้านบางโรงเป็นชุมชนเก่าแก่บนเกาะภูเก็ตที่มีความโดดเด่นด้านบริการท่องเที่ยววิถีชุมชน รวมทั้งมีสินค้าชุมชนสำคัญ อาทิ สบู่/โลชันสับปะรด ชีสทาร์ตสับปะรด น้ำพริกสับปะรด และผ้าใยสับปะรด ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ปัจจุบันได้ทำการตลาดออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ (www.bangrongconnect.com) และเพจ Facebook ท่องเที่ยวชุมชนบางโรง ซึ่งถือเป็นชุมชนที่มีความพร้อมจะต่อยอดช่องทางการตลาดออนไลน์ให้เป็นมืออาชีพต่อไป"
"กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการชุมชนอย่างต่อเนื่อง ยกระดับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนเข้าสู่ e-Commerce ผ่านโครงการ Digital Village by DBD เป็นปีที่ 5
นับตั้งแต่ปี 2562 ส่งผลให้เกิดชุมชนออนไลน์ต้นแบบแล้วถึง 76 ชุมชน จาก 50 จังหวัด
โดยโครงการช่วยเพิ่มมูลค่าการตลาดออนไลน์ให้กับชุมชน ประกอบกับพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าชุมชนผ่านทางตลาดออนไลน์ยุคใหม่
มากไปกว่านั้น
ยังสร้างศักยภาพด้านการค้าออนไลน์ให้พร้อมเป็นชุมชนต้นแบบความสำเร็จแก่ชุมชนอื่นๆ
ในประเทศไทย หลังจากนี้กรมฯ มีแผนจะส่งเสริมผู้ประกอบการชุมชน ให้มุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมรักษ์โลก
หรือ Green Innovation ซึ่งขานรับกับนโยบายเศรษฐกิจ BCG
(Bio-Circular-Green Economy) ของไทยและสอดคล้องกับเทรนด์การค้าโลก
เพื่อให้ผู้ประกอบการชุมชนสามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งเสริมภาพลักษณ์ และยกระดับรายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับชุมชนที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5959 สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th" อธิบดี
กล่าวทิ้งท้าย
#SuperDBD
****************************************
ที่มา :
กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ฉบับที่ 140
/ วันที่ 19 กันยายน 2566