จับตา...นิติบุคคลเกือบ 3,000 ราย เปลี่ยนสถานะเป็น 'ร้าง' สาเหตุไม่ชำระบัญชี เงียบหาย ละเมิดกฎหมาย เตรียมขีดชื่อออก ป้องกันมิจฉาชีพ

จับตา...นิติบุคคลเกือบ 3,000 ราย เปลี่ยนสถานะเป็น 'ร้าง'

สาเหตุไม่ชำระบัญชี เงียบหาย ละเมิดกฎหมาย เตรียมขีดชื่อออก ป้องกันมิจฉาชีพ

     กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยประกาศจะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ตั้งในเขตกรุงเทพมหานครออกจากทะเบียน จำนวน 2,880 ราย สาเหตุไม่ดำเนินการชำระบัญชีให้เสร็จหลังจดทะเบียนเลิก พร้อมส่งจดหมายติดตามแล้ว 2 ครั้ง หากครบ 90 วัน ที่ออกประกาศยังไม่มีความเคลื่อนไหวขีดชื่อเป็นร้างทันที!! เว้นมีเหตุระงับขีดชื่อ ทั้งนี้ เตือนให้นิติบุคคลต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อลดภาระในการดำเนินธุรกิจ และสร้างประเทศไทยโปร่งใสในการทำธุรกิจ การขีดชื่อจะช่วยตัดวงจรการนำชื่อนิติบุคคลที่ไม่มีการดำเนินธุรกิจแล้วไปหลอกลวงประชาชนได้ แนะประชาชนควรตรวจสอบสถานะและข้อมูลนิติบุคคลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน

         นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2566 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร ได้ออกประกาศเรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน โดยในปี 2566 พบว่า มีนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครเข้าข่ายจะถูกขีดชื่อจำนวน 2,880 ราย ซึ่งการตรวจสอบในลักษณะนี้จะช่วยพัฒนาฐานข้อมูลนิติบุคคลของกรมฯ ให้เป็นปัจจุบัน ส่งผลให้ภาคธุรกิจสามารถค้นหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจหรือวิเคราะห์ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากไปกว่านั้นยังเป็นการหยุดยั้งไม่ให้มิจฉาชีพหรือผู้ไม่ประสงค์ดีนำนิติบุคคลที่ไม่มีการเคลื่อนไหวธุรกิจแล้วมาหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อว่าธุรกิจเหล่านี้มีตัวตนและยังคงดำเนินธุรกิจอยู่

         อธิบดี กล่าวต่อว่า "การขีดชื่อนิติบุคคลออกจากทะเบียนในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากข้อสันนิษฐานว่า นิติบุคคลนั้นไม่ได้ยื่นรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายใน 3 ปี นับตั้งแต่จดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท โดยเมื่อพ้น 90 วันนับตั้งแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลจำนวน 2,880 รายนี้ จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะมีการระงับขีดชื่อหรือแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น"

         "ถึงแม้ว่านิติบุคคลรายใดจะมีสถานะร้างหรือสิ้นสภาพนิติบุคคลไปแล้ว หุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วนกรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้นยังคงต้องมีความรับผิดชอบในนิติบุคคลนั้นอยู่ รวมถึงอาจคืนสู่ทะเบียนได้ภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน โดยการร้องขอต่อศาลนั้นเอง"

        "โอกาสนี้กรมฯ ฝากเตือนไปถึงนิติบุคคลจะต้องปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อลดภาระในการดำเนินธุรกิจทั้งการเสียเวลา ค่าใช้จ่าย และค่าปรับต่างๆ พร้อมสร้างบรรทัดฐานที่ดีด้านความโปร่งใสในการทำธุรกิจของประเทศไทย รวมไปถึงการปรับฐานข้อมูลนิติบุคคลที่ไม่มีสถานะในการทำธุรกิจแล้วในทุกๆ ปี จะช่วยตัดวงจรของการนำนิติบุคคลที่ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวทางธุรกิจนำชื่อไปแอบอ้างหลอกลวงประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทที่จะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th เลือกหัวข้อ 'คู่มือทำธุรกิจ' เลือก 'บริการข้อมูล' เลือก 'จดทะเบียนธุรกิจ' และเลือก 'ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน' สำหรับประชาชนที่ต้องการค้นหานิติบุคคลเพื่อศึกษาคู่ค้าหรือวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนสามารถตรวจสอบได้ที่ www.dbd.go.th เลือก DBD Datawarehouse+ หรือแอปพลิเคชัน DBD e-Service" อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย

#SuperDBD

 

***********************************

ที่มา : กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ                                    ฉบับที่ 109 / วันที่ 17 กรกฎาคม 2566