กรมพัฒน์ฯ ดันโมเดล BCG สร้างอนาคตธุรกิจชุมชน นำเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน คาดเงินสะพัดกว่า 32 ล้านบาท เกิดธุรกิจต้นแบบ 88 ราย
กรมพัฒน์ฯ ดันโมเดล BCG สร้างอนาคตธุรกิจชุมชน นำเศรษฐกิจไทยเติบโตยั่งยืน
คาดเงินสะพัดกว่า
32 ล้านบาท เกิดธุรกิจต้นแบบ 88 ราย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าดึงแนวคิด BCG 3 มิติ เศรษฐกิจชีวภาพ หมุนเวียน และสีเขียว สร้างสรรค์ธุรกิจชุมชนให้เติบโตยั่งยืน
เปิดบทเรียนออนไลน์หลักสูตร "BCG ธุรกิจสร้างรายได้ รักชุมชน
รักษ์โลก" ตัดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้
ศึกษาได้ตลอดเวลา พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมสกรีนเป็นธุรกิจชุมชนต้นแบบ SMART
Local BCG ได้ 88 ราย รวมถึงให้คำปรึกษาเชิงลึก รับสิทธิประโยชน์เข้าร่วมกิจกรรม
Business Matching และออกงานจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ BCG
ขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น คาดจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า
32 ล้านบาท กระตุ้นการเติบโตให้ธุรกิจชุมชนและประเทศต่อไป
นายทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดินหน้ายกระดับธุรกิจชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด BCG Economy Model พัฒนาธุรกิจให้สอดรับเทรนด์โลกใน 3 มิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ให้เกิดความคุ้มค่าควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อม
ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คำนึงถึงวัสดุที่นำมาใช้ในการผลิตต้องหมุนเวียนหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างเต็มวงจรชีวิตของวัสดุ
และด้านเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ในปี 2565 กรมฯ ได้เริ่มต้นจุดประกายธุรกิจชุมชนให้เห็นถึงความสำคัญในการยึดหลัก
BCG มาใช้บริหารธุรกิจ นำร่องพัฒนา SMART Local BCG จำนวน 14 ราย
อธิบดี กล่าวต่อว่า "สำหรับปี 2566 ได้ต่อยอดพัฒนาช่องทางการสร้างความรู้เรื่อง BCG ผ่านบทเรียนออนไลน์ในหลักสูตร "BCG ธุรกิจสร้างรายได้
รักชุมชน รักษ์โลก" เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจชุมชนสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด พร้อมกับสร้างธุรกิจชุมชนต้นแบบ DBD SMART
Local BCG ครบทั้ง 77 จังหวัด
โดยมีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้าน BCG และการตลาดมาคัดเลือกธุรกิจที่มีคุณสมบัติสอดคล้องกับเกณฑ์
SMART ได้แก่ เป็นสุดยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนในแต่ละพื้นที่
(Superlative), มีความทันสมัย สอดรับตลาดยุคใหม่
(Modern), มีเสน่ห์อัตลักษณ์ไทย ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น (Attractive), โดดเด่น มีเอกลักษณ์ สร้างสรรค์ เพิ่มมูลค่า มีรสนิยม (Remarkable) และมั่นใจได้ในคุณภาพมาตรฐาน (Trust) มีธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกในครั้งนี้จำนวน 88 ราย ประกอบไปด้วย 4
กลุ่มผลิตภัณฑ์คือ 1) อาหารและเครื่องดื่ม 2) ผ้าและเครื่องแต่งกาย 3) ของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก และ 4) สมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร
แบ่งเป็นธุรกิจ Bio Economy จำนวน 22
ราย ธุรกิจ Circular Economy จำนวน 29 ราย และธุรกิจ Green Economy จำนวน 37 ราย"
"สำหรับธุรกิจต้นแบบกรมฯ
ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเชิงลึกทั้งในรูปแบบ Onsite และ Online พร้อมกับจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้าง มากไปกว่านั้นยังได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการขยายตลาดในกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) กับกลุ่มผู้จัดจำหน่าย
กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านค้าส่ง/ค้าปลีก ร้านผลิตภัณฑ์ชุมชน
และหน่วยงานหรือองค์กรที่มีนโยบายสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน
คาดว่ากิจกรรมนี้จะดำเนินการในช่วงเดือนมิถุนายน 2566
ซึ่งจะช่วยสร้างยอดขายและช่องทางการจัดจำหน่ายให้ธุรกิจต้นแบบได้มากถึง 32 ล้านบาท
รวมถึงยังได้รับโอกาสเข้าร่วมออกงานจำหน่ายสินค้ากับพันธมิตรของกรมฯ ที่สอดรับกับการส่งเสริมธุรกิจ BCG โดยกิจกรรมแรกกำหนดจัดในเดือนกรกฎาคมนี้
ณ ลาน Eden ห้างสรรพสินค้า Central World ทั้งนี้ กรมฯ ได้สร้างธุรกิจต้นแบบ BCG รวมแล้วทั้งสิ้น
88 ราย ช่วยสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
ส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนให้มีความเข้มแข็ง มีศักยภาพในการแข่งขัน
พึ่งพาตนเองได้ ยกระดับมาตรฐานการครองชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนในชุมชนให้ดีขึ้นตามมา"
#SuperDBD
******************************
ที่มา
: กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน
ฉบับที่
80 / วันที่ 18 พฤษภาคม 2566