ปรบมือรัวรัว..ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค-ชุมชนยิ้มกว้าง ยอดจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม-สินค้าชุมชน 5 วัน แตะ 3 ล้านบาท กรมพัฒน์ฯ พร้อมดันเป็นซอฟท์ พาวเวอร์ กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ

ปรบมือรัวรัว..ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค-ชุมชนยิ้มกว้าง

ยอดจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม-สินค้าชุมชน 5 วัน แตะ 3 ล้านบาท

กรมพัฒน์ฯ พร้อมดันเป็นซอฟท์ พาวเวอร์ กระตุ้นการท่องเที่ยว สร้างรายได้เข้าประเทศ

        กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สรุปยอดขาย งาน 'ช็อป ชิม เพลิน เดินชิลล์ Food Trucks & SME' ณ ไอคอนสยาม 5 วัน แตะ 3 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคิวซื้ออาหาร-เครื่องดื่ม-สินค้าชุมชนคึกคัก พ่อค้า-แม่ค้าฟู้ดทรัค และผู้ประกอบการสินค้าชุมชนยิ้มกว้างขอบคุณภาครัฐและพันธมิตรที่เปิดโอกาสให้สร้างรายได้และขยายตลาด ไม่รอช้า!! กรมพัฒน์ฯ พร้อมดัน 'ฟู้ดทรัค' เป็น 'ซอฟท์ พาวเวอร์' ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติบริโภคอาหาร-เครื่องดื่มสไตล์ไม่ซ้ำใคร เพิ่มกิมมิคเดินทางเข้าไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว...สร้างรายได้เข้าประเทศ  

       นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "งาน ช็อป ชิม เพลิน เดินชิลล์ Food Trucks & SME ที่จัดขึ้นโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและหน่วยงานพันธมิตร ณ ไอคอนสยาม ระหว่างวันที่ 22 - 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปิดฉากลงอย่างสวยงาม ภาพรวมการจัดงานได้รับการต้อนรับจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสนใจต่อคิวซื้ออาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าชุมชนภายในงานอย่างคึกคัก นอกจากความอร่อยที่ได้รับแล้ว บรรยากาศ สถานที่ และรูปแบบการขายสินค้ายังดึงดูดให้ผู้บริโภคอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเย็น-ค่ำซึ่งเป็นเวลาเลิกงาน และนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาช้อปปิ้งที่ไอคอนสยาม บรรยากาศการจัดงานจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน รื่นรมย์ ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็ได้ลิ้มชิมรสชาติอาหาร/เครื่องดื่มในสไตล์ที่ไม่ซ้ำใคร นับเป็นการสร้างสีสันของการทานอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง   

       หลังเสร็จสิ้นการจัดงาน กรมฯ ได้รวบรวมยอดจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าของผู้ประกอบการที่ร่วมงาน พบว่า การจัดงาน 5 วัน สามารถสร้างยอดขายโดยรวมสูงถึง 3 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 6 แสนบาท โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน แต่ละวันจะมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัคมาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม 20 ร้านค้า (65 ร้านฟู้ดทรัคสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนให้บริการตลอดการจัดงาน) และสินค้าชุมชน 9 ร้านค้า ทำให้สินค้ามีความหลากหลายน่าสนใจ นักท่องเที่ยวมีทางเลือกในการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ช่วยสร้างโอกาสและขยายตลาดให้ผู้ประกอบการได้ทดลองสถานที่จำหน่ายสินค้าใหม่ๆ สามารถนำไปประมวลผลเพื่อวางแผนและกำหนดจุดจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าชุมชนที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ สถาบันการเงินที่เข้าร่วมงาน ได้แก่ ธ.กรุงไทย ธ.กรุงศรีอยุธยา ธ.ออมสิน ธ.ทหารไทยธนชาต และ ธ.ยูโอบี ได้เปิดบูธให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการขอสินเชื่อ การจัดทำแผนธุรกิจประกอบการขอสินเชื่อ และแนะนำให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคนำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น รวมถึง ทีมนักประเมินราคาจากสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทยได้ให้คำปรึกษาแนะนำการประเมินราคาทรัพย์สินที่จะนำมาใช้เป็นหลักประกันประกอบการขอสินเชื่ออีกด้วย ตลอดการจัดงาน 5 วัน มีผู้ประกอบธุรกิจและผู้สนใจขอรับคำปรึกษาจำนวน 415 ราย เฉลี่ยวันละประมาณ 80 ราย โดยส่วนหนึ่งได้ต่อยอดขอสินเชื่อเพื่อขยายกิจการในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงรายละเอียดและขั้นตอนของการทำสัญญา   

          นางสาวเนาวรัตน์ มิ่งเจริญสุข ผู้บริหารฟู้ดทรัคทีมช้าง และผู้ประกอบการฟู้ดทรัค กล่าวว่า "ขอขอบคุณกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ไอคอนสยาม หน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนที่สนับสนุนและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัค/ผู้ประกอบการสินค้าชุมชนได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าตามสถานที่ต่างๆ เป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ได้เห็นตลาดและพฤติกรรมการบริโภค/ความต้องการของลูกค้าที่มีความหลากหลาย พร้อมนำความชื่นชอบในรสชาติและรูปแบบการนำเสนออาหาร/เครื่องดื่มที่มีความแตกต่างมาปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า เป็นการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการที่มีความสำคัญ ช่วยขยายตลาดและกลุ่มลูกค้าที่มีประสิทธิภาพ โดยตลอดการจัดงานทั้ง 5 วัน ผู้ประกอบการสามารถสร้างรายได้ที่เห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน ได้พบปะลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชื่นชอบการทานอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ฟู้ดทรัคและสตรีทฟู้ด ดูจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต่อคิวซื้ออาหารและเครื่องดื่มอย่างคึกคัก ตลอดจนลูกค้าชาวไทยได้เจรจาว่าจ้างรถฟู้ดทรัคที่จำหน่ายอาหารภายในงานฯ ไปจัดงานตามสถานที่ต่างๆ นับเป็นโอกาสที่ดีมากๆ สำหรับผู้ประกอบการ นอกจากนี้ ประเทศไทยมีเทศกาล กิจกรรม การจัดงานที่เป็นเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ประจำถิ่นสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีและรัฐบาลได้บรรจุลงในโปรแกรมการท่องเที่ยวของประเทศ ยิ่งมั่นใจว่า การประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการฟู้ดทรัคและสินค้าชุมชนจะกลับมาสดใสอีกครั้งอย่างแน่นอน

          อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้น กรมฯ เตรียมเดินหน้าผลักดันและขับเคลื่อนฟู้ดทรัคของไทยให้เป็น 'ซอฟท์ พาวเวอร์' ประเภทอาหาร ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติบริโภคอาหาร/เครื่องดื่มในรูปแบบที่ไม่ซ้ำใคร เพิ่มกิมมิคการเดินทางเข้าประเทศโดยมีฟู้ดทรัคเป็นจุดหมายปลายทางประเภทหนึ่ง ช่วยเพิ่มมูลค่าและจุดขายสำคัญที่สร้างการรับรู้ต่ออาหารและเครื่องดื่มของไทย ส่งผลต่ออิทธิพลทางความคิดที่โน้มน้าวให้เกิดความสนใจใคร่รู้ อยากสัมผัส และทดลอง สร้างแรงส่งให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกท่องเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น เป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวโดยตรง ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและต่างชาติส่งผลให้เกิดทัศนคติที่ดี มิตรภาพระหว่างคนโดยตรง เป็นช่องทางให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศไทยที่ลึกซึ้งขึ้น ขณะที่คนไทยก็จะได้รู้จักและเข้าใจชาวต่างชาติมากขึ้นด้วยเช่นกัน เกิดเครือข่ายระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติ เปิดช่องทางนำไปสู่บรรยากาศและโอกาสความร่วมมือและสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ร่วมกันต่อไป"

#SuperDBD

********************************************

ที่มา : กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ                                                ฉบับที่ 41 / วันที่ 10 มีนาคม 2566