กรมพัฒนาธุรกิจฯ MOU เจาะกลุ่มพัฒนาสตรี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างธุรกิจให้คึกคัก สร้างรายได้ที่มั่นคงให้ชุมชน ประเดิมปัตตานีที่แรก
กรมพัฒนาธุรกิจฯ MOU
เจาะกลุ่มพัฒนาสตรี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
สร้างธุรกิจให้คึกคัก
สร้างรายได้ที่มั่นคงให้ชุมชน ประเดิมปัตตานีที่แรก
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เล็งสร้างกลุ่มสตรี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เดินเครื่องเศรษฐกิจในท้องถิ่นให้เติบโต
จัดพิธีลงนาม MOU ร่วมกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จังหวัดปัตตานี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) วาง 3 แนวทางสร้างธุรกิจ คือ
ปั้นธุรกิจให้แข็งแรง เพิ่มช่องทางขายของ
และโยงใยเครือข่ายธุรกิจ พร้อมกิจกรรมในงานอีกเพียบ ทั้งการอบรมสร้างความรู้การทำธุรกิจแบบมืออาชีพ
การถ่ายทอดกระบวนการผลิตของดีในปัตตานี
และการเจรจาจับคู่ธุรกิจร่วมกับนักธุรกิจรายใหญ่ของไทย มั่นใจหลังจบกิจกรรมสร้างยอดขายให้กลุ่มสตรีฯ ได้ทันที
และพร้อมต่อยอดไปสู่โครงการพัฒนาธุรกิจต่างๆ ของกรมฯ ในอนาคตได้ต่อไป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "ในวันนี้
(1 มีนาคม 2567) กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดพิธีลงนามบันทึกความร่วมมือ (MOU) และกิจกรรมการส่งเสริมสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสตรี
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงแรม ซี.เอส. จังหวัดปัตตานี เป็นความร่วมมือระหว่าง 3
หน่วยงาน ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
จังหวัดปัตตานี โดยนางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ศอ.บต.) โดยพ.ต.ท. วรรณพงษ์ คชรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาทักษะการทำธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มสตรี 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจใน
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมาก โดยในพื้นที่มีการรวมกลุ่ม ซึ่งถือเป็นเครือข่ายทางธุรกิจกันอยู่แล้วทำให้ง่ายต่อการเข้าถึงและพัฒนา
อธิบดี กล่าวต่อว่า แนวทางพัฒนากลุ่มสตรีฯ ประกอบไปด้วย 3
ด้านคือ 1) ปั้นธุรกิจให้แข็งแรง สร้างความรู้ด้านการตลาด
ตั้งแต่เริ่มต้นวิธีก่อร่างสร้างธุรกิจของ SMEs,
ทำอย่างไรให้สินค้า/บริการเข้าไปสู่ตลาดออนไลน์ได้ ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายสินค้าที่หลากหลายและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในวงกว้างไม่รู้จบ
รวมถึงการบริหารระบบหลังบ้านให้เป็นมืออาชีพคือสิ่งที่ SMEs ยังมีข้อจำกัด กรมฯ
จะเชิญผู้เชี่ยวชาญไปให้ความรู้ด้านบริหารและการจัดการบัญชีให้มีมาตรฐานด้วย
ประกอบกับสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าด้วยการพัฒนารูปแบบ Packaging ให้ดึงดูดน่าสนใจ
สื่อสารถึงสินค้าได้อย่างชัดเจน 2) เพิ่มช่องทางขายของ
สร้างโอกาสทางการค้าดึง 'ของดี' ในท้องถิ่นของ
3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีอยู่จำนวนมากให้เป็น 'ของเด่น' ในประเทศ พร้อมด้วยการกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดให้เหมาะสมกับธุรกิจแต่ละประเภท
และ 3) โยงใยเครือข่ายธุรกิจ เมื่อธุรกิจสามารถดำเนินไปอย่างมืออาชีพและมีช่องทางการขายที่หลากหลายแล้ว
การทำธุรกิจในยุคนี้จะต้องมีการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงกับผู้ผลิตวัตถุดิบ
ร้านค้าส่งที่จะช่วยกระจายสินค้า หรือแม้กระทั่งธุรกิจในประเภทเดียวกันเองก็สามารถรวมตัวกันเพื่อเกื้อกูลกันทางธุรกิจได้นั่นเอง
นอกจากพิธีลงนาม MOU
ในข้างต้นแล้ว ยังมีกิจกรรมให้ความรู้แก่กลุ่มสตรีฯ
และเจ้าของธุรกิจที่อยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด
โดยเป็นการอบรมในเรื่องการทำตลาดออนไลน์ และสอนการจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์
(Display) ให้ดึงดูดลูกค้า
รวมถึงกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าจากกลุ่มสตรี 3
จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 30 ราย อาทิ เช่น ผ้าบาติก เครื่องจักสาน
ขนมโบราณ โรตีกรอบ ชุดข้าวยำพร้อมทาน น้ำบูดู ลูกหยีแปรรูป ข้าวเกรียบปลา
และเกลือสมุนไพร เป็นต้น กิจกรรมสาธิตวิธีการผลิตสินค้าเด่นของปัตตานีอย่างกลุ่มสตรีรายาบาติก และสมุนไพรไทย จากศยาสมุนไพร ทั้งนี้
ยังมีกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business
Matching) ร่วมกับนักธุรกิจ
(Trader) รายใหญ่ของไทย อาทิ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด บริษัท
บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด
และสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ภายหลังจบกิจกรรมคาดว่าจะเกิดการซื้อขายขึ้น
พร้อมสร้างออเดอร์ให้กับกลุ่มสตรีฯ ได้ทันที
อีกทั้ง
ในอนาคตกรมฯ จะขยายความสำเร็จนี้ไปสู่การสร้าง
Digital Village by DBD ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
ซึ่งเป็นโครงการภายใต้การส่งเสริมของกรมฯ
ที่สร้างชุมชนออนไลน์จากการดึงศักยภาพของผู้ผลิตในท้องถิ่น
ประกอบกับเผยแพร่อัตลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ผ่านสินค้าที่ผลิตและจำหน่ายบนตลาดออนไลน์
การส่งเสริมธุรกิจในพื้นที่
3 จังหวัดภาคใต้ถือเป็นภารกิจที่กรมฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ได้ปรับลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนธุรกิจทุกประเภทลง
50% ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ เป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ถึงวันที่ 31
ธันวาคม พ.ศ. 2569 ซึ่งมี 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมอยู่ด้วย
เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น และดึงดูดนักลงทุนให้เข้าสู่พื้นที่มากขึ้น โดยการ MOU
ครั้งนี้จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจในท้องถิ่นสามารถสร้างรายได้ให้กับตนเอง
ดูแลครอบครัวให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ที่สำคัญจะเป็นกุญแจไขอนาคตทางเศรษฐกิจเชื่อมโยงกับการค้าผ่านชายแดนนำสินค้าไทยส่งออกสู่ต่างประเทศตามมา" อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย
#SuperDBD
#กระทรวงพาณิชย์
***************************************
ที่มา
: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฉบับที่ 33 / วันที่ 1 มีนาคม 2567