"นภินทร" ชูไอเดียหนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เตรียมปักหมุดส่งสินค้าไทยไปจีน นำทีมพาณิชย์ลงพื้นที่ eWTP เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ฉะเชิงเทรา

"นภินทร" ชูไอเดียหนุนธุรกิจอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เตรียมปักหมุดส่งสินค้าไทยไปจีน

นำทีมพาณิชย์ลงพื้นที่ eWTP เขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ฉะเชิงเทรา

รมช.พณ. และผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นำคณะกระทรวงพาณิชย์เยี่ยมชมเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (eWTP Thailand Duty Free Zone) จังหวัดฉะเชิงเทรา และอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทยนำสินค้าไปจำหน่ายต่างประเทศผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เตรียมปักหมุดส่งสินค้าไทยไปจีน

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนและนายภัณฑิล จงจิตรตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ ได้นำทีมร่วมกับผู้แทนของสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงพื้นที่เยี่ยมชมเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (eWTP Thailand Duty Free Zone) ณ อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยเป็นเขตปลอดอากรกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งแรกในประเทศไทย ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของกรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ที่อำนวยความสะดวกในด้านการนำเข้าและส่งออกครบวงจร ให้บริการประกอบด้วย ด้านศุลกากร ด้านการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า และด้านการนำเข้าและส่งออก ที่สามารถรองรับการให้บริการในรูปแบบการเช่าพื้นที่เพื่อเป็นโกดังเก็บสินค้ารอนำเข้าและส่งออกในรูปแบบคลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) และรอการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน (Stock first, order later) ที่ออกแบบการทำงานให้สามารถส่งสินค้าถึงผู้ประกอบการปลายทางได้ภายใน 14 วัน โดยมีระบบ e-Seal เพื่อตรวจสอบการเดินทางของสินค้าในรูปแบบออนไลน์ - Public Service Platform (PSP)

นายนภินทร เสริมว่า มีนโยบายที่จะให้ไทยได้ใช้ประโยชน์จาก eWTP ของจีนเช่นกัน ซึ่งปัจจุบันจีนมี eWTP อยู่ 10 แห่งทั่วโลก โดยมี 4 แห่งในจีน ได้แก่ เมืองหางโจวและเมืองอี้อูในมณฑลเจ้อเจียง มณฑลไห่หนาน และฮ่องกง ส่วนในประเทศอื่นๆ ได้มีการจัดตั้ง eWTP ในอีก 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย เบลเยียม เม็กซิโก เอธิโอเปีย และรวันดา ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการไทยสามารถส่งออกสินค้าไปยังจีนได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสาระสำคัญของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมุ่งเน้นเพื่อยกระดับความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านอุตสาหกรรม ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในการขยายตลาดทั้งระดับประเทศและระดับโลกด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เสริมสร้างความร่วมมือในการสร้างขีดความสามารถทางวิชาการ ร่วมมือกันพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล ส่งเสริมกลไกด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน และด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ รวมทั้ง ศึกษาแง่มุมความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการสร้างสภาพแวดล้อมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนผลักดันผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ที่สำคัญในประเทศจีน เพื่อส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศจีนผ่านบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าว รวมถึงยังได้เตรียมศึกษาแนวทางความเป็นไปได้ในการใช้งาน eWTP ในหลายประเทศ เพื่อส่งเสริมการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างประเทศของไทย โดยใช้ประโยชน์ด้านศุลกากรและคลังสินค้าทัณฑ์บนที่สะดวกมากขึ้น รมช. พณ. กล่าวทิ้งท้าย

สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมการใช้นวัตกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5961 และ www.dbd.go.th

#SuperDBD

******************************

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์                                ฉบับที่ 17 / วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567