พ.ค.63 มีการอนุญาตให้ต่างชาติลงทุนในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.ต่างด้าวฯ 20 ราย
พ.ค.63 มีการอนุญาตให้ต่างชาติลงทุนในไทย ภายใต้ พ.ร.บ.ต่างด้าวฯ 20 ราย
มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 442 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 1,574 คน
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เมื่อวันพุธที่ 27 พฤษภาคม 2563 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างชาติ 20 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทยภายใต้ พ.ร.บ.ต่างด้าวฯ โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และฮ่องกง ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 442 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 1,574 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกที่นำไปฉีดขึ้นรูปเพื่อผลิตเป็นชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น องค์ความรู้เกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ Website และ Mobile Application และองค์ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของตาข่ายป้องกันปลวก รวมทั้งวิธีการติดตั้งตาข่ายป้องกันปลวก ในบริเวณที่มีความยากและซับซ้อน ตลอดจนการตรวจสอบและซ่อมแซมตาข่ายป้องกันปลวก
สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 6 ราย โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สมาพันธรัฐสวิส หมู่เกาะเคย์แมน และเนเธอร์แลนด์ มีเงินลงทุนจำนวน 64 ล้านบาท อาทิ
- นายหน้าจัดจำหน่ายเครื่องกลึงอัตโนมัติ (CNC AUTOMATIC LATHE) และชิ้นส่วน
- บริการวิจัยและพัฒนาเม็ดพลาสติก และพลาสติก
- บริการบรรจุหีบห่อสินค้าอุปโภคและบริโภค
2. ธุรกิจนายหน้า ค้าปลีก ค้าส่ง จำนวน 9 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น นอร์เวย์ มาเลเซีย เยอรมนี สาธารณรัฐเซเซลส์ และสิงคโปร์ มีเงินลงทุนจำนวน 291 ล้านบาท อาทิ
- นายหน้าประกันชีวิตและประกันวินาศภัยประเภทการจัดการให้มีการประกันภัยโดยตรง
- ค้าปลีกอุปกรณ์ที่ใช้กับโปรแกรมติดตามการขนส่ง
- ค้าส่งสินค้าเคมีภัณฑ์ ตาข่ายป้องกันปลวก และอุปกรณ์สำหรับใช้กับระบบติดตาม และตรวจสอบสถานะของรถบรรทุก เป็นต้น
3.ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 5 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และมาเลเซีย มีเงินลงทุนจำนวน 87 ล้านบาท อาทิ
- บริการติดตั้ง ซ่อมแซม บำรุงรักษา การใช้งานสินค้าเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งอุปกรณ์และชิ้นส่วน
- บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการสร้างความรับรู้ต่อแบรนด์หรือสินค้า (Brand Awareness) และ ด้านการพัฒนาธุรกิจ (Business Development)
สำหรับเดือนพฤษภาคม 2563 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการทำงานของบริษัท
ในเครือในกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน และธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับ Digital Technology ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ดังตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
ในเครือในกลุ่มให้มีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน และธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับ Digital Technology ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ ดังตัวอย่างที่กล่าวมาข้างต้น
อนึ่งในเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2563 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 112 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 3,770 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้น 29 ราย คิดเป็นร้อยละ 35 โดยมีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจ อาทิ บริการวิจัยและพัฒนาเม็ดพลาสติก และพลาสติก บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการสร้างความรับรู้ต่อแบรนด์หรือสินค้า (Brand Awareness) และด้านการพัฒนาธุรกิจ (Business Development) และการค้าส่งสินค้าเคมีภัณฑ์ ตาข่ายป้องกันปลวก และอุปกรณ์สำหรับใช้กับระบบติดตาม และตรวจสอบสถานะของรถบรรทุก เป็นต้น
**********************************
ที่มา : กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ฉบับที่ 124 / วันที่ 12 มิถุนายน 2563