พาณิชย์ ร่วมหารือสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าส่งค้าปลีก

พาณิชย์ ร่วมหารือสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่าย และร้านค้าส่งค้าปลีก เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจยกระดับความร่วมมือสร้างความเข้มแข็งกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ พร้อมกำหนดจัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" อย่างยิ่งใหญ่
 
                                     กระทรวงพาณิชย์ ร่วมหารือสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่ของไทย และร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบที่อยู่ในการส่งเสริม เชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจยกระดับความร่วมมือให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้น ผนึกกำลังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน พร้อมกำหนดจัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ระหว่างวันที่ 27 เม.ย - 5 พ.ค. 2562 อย่างยิ่งใหญ่
 
                                    นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้หารือร่วมกับสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ของประเทศ จำนวน 27 ราย และตัวแทนร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบทั่วประเทศที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ ในการกำหนดแนวทางความร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายให้มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นเพื่อร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้มีความเข้มแข็ง ช่วยลดค่าครองชีพและเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชน ตลอดจนกำหนดจัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" อย่างยิ่งใหญ่ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเป็นกลไกสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดการหมุนเวียน รวมถึง เร่งยกระดับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้มีความแข็งแกร่งทั้งในส่วนของการประกอบธุรกิจ และการขยายช่องทางการตลาดเพื่อเพิ่มรายได้และลดต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยใช้ระบบอี-คอมเมิร์ซเข้ามาช่วยบริหารจัดการ"
 
                                เบื้องต้นผลการหารือสรุปว่า "1) ปัจจุบันบริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทย ได้ให้ความสำคัญกับช่องทางค้าส่งค้าปลีกแบบดั้งเดิมมากขึ้น ทั้งการจัดส่งสินค้าให้ร้านค้าโดยตรงในราคาพิเศษ การจัดโปรโมชั่นพิเศษบริเวณร้านค้า การช่วยตกแต่งร้านค้าให้มีความทันสมัยเพื่อดึงดูดผู้บริโภค รวมทั้ง การจัดคอร์สอบรมต่างๆ เพื่อเพิ่มยอดขายให้ร้านค้า ทำให้เกิดการกระจายความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจไปสู่ภูมิภาคมากขึ้นตามลำดับ อีกทั้ง ผู้ประกอบการค้าส่งค้าปลีกได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น เช่น การนำโปรแกรม POS มาช่วยบริหารจัดการร้านค้า การขยายช่องทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ ฯลฯ เป็นต้น ทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของไทยมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยมีหน่วยงานภาครัฐได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานภาคเอกชน ได้แก่ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายรายใหญ่ของประเทศ ฯลฯ รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง"
 
                                "2) กำหนดจัดกิจกรรม "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" อย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 27 เมษายน - 5 พฤษภาคม 2562 ติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน โดยช่วงเวลาดังกล่าวเป็นเทศกาลเปิดเทอมของนักเรียนทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ซึ่งผู้ปกครองจะมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น กิจกรรมฯ จึงช่วยให้ผู้ปกครองสามารถลดค่าครองชีพจากการซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในราคาที่ถูกลง และนำเงินที่เหลือไปเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์การศึกษาให้แก่บุตรหลานต่อไป
                                เบื้องต้นมีสาขาของร้านค้าส่งค้าปลีกเข้าร่วมกิจกรรมฯ ไม่น้อยกว่า 1,100 ร้านค้าทั่วประเทศ รวมทั้ง บริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายจะลงพื้นที่ไปยังร้านค้าส่งค้าปลีกทั่วประเทศ เพื่อจัดกิจกรรมกระตุ้นการขายในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ กรมฯ และหน่วยงานพันธมิตรจะจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรมในวันที่ 22 เมษายน 2562 เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคได้รับทราบถึงช่วงเวลาการจัดกิจกรรม "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ที่กำลังจะเกิดขึ้น"
                               
                               "3) จะมีการนำสินค้าธงฟ้ามาเข้าร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าวด้วย เช่น ไข่ไก่ และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆที่มีความจำเป็น ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้ดำเนินการประสานกับกรมการค้าภายในเพื่อนำสินค้าธงฟ้ามาจำหน่ายในช่วงเวลาที่จัดกิจกรรมฯ ดังกล่าว และ 4) บริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายจะลดราคาเป็นพิเศษให้กับสินค้าที่ขายดีและได้รับความนิยมเพื่อทำให้กิจกรรมฯ ดังกล่าวประสบความสำเร็จ และช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง"
 
                               "5) กิจกรรม "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนระยะยาว ขอให้ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายจัดลงในแผนการตลาดประจำปีในทุกๆ ปี เพื่อง่ายต่อการบริหารจัดการและสะดวกต่อการดำเนินงานด้านการประชาสัมพันธ์ และ 6) สนับสนุนให้ใช้ถุงผ้าหรือถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable) ในการใส่สินค้าให้แก่ผู้บริโภค เนื่องจากมีต้นทุนไม่แตกต่างจากถุงพลาสติกทั่วไป ลดการใช้ถุงพลาสติกในระยะยาว ส่งผลให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อกิจกรรมฯ และผู้บริโภคได้มีส่วนร่วมในการรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งนี้ ร้านค้าส่งค้าปลีกได้เชิญชวนให้บริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการผลิตถุงพลาสติกที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ซึ่งร้านค้าส่งค้าปลีกยินดีที่จะให้บริษัทผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่ายนำตราสัญลักษณ์ของมาติดแสดงบนถุงฯ ดังกล่าวด้วย"
 
                                อธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ภารกิจสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ คือ การดูแลค่าครองชีพของประชาชนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ หัวใจสำคัญ คือ ไม่ให้ราคาสินค้าและบริการมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนเกินไป ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีการพัฒนาอย่างมั่นคง และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี โดยมาตรการหนึ่งที่กระทรวงพาณิชย์นำมาใช้ในการดูแลค่าครองชีพให้แก่ประชาชนก็คือ การจัดกิจกรรม "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ที่ได้ร่วมมือกับสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ผู้ผลิตผู้แทนจำหน่ายสินค้าอุปโภค-บริโภคของไทย และร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบทั่วประเทศที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงพาณิชย์ ในการนำสินค้าราคาประหยัดไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน รวมทั้ง เกิดการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องในโซ่อุปทานให้เกิดการเกื้อกูลทางการค้าซึ่งกันและกันอย่างเป็นระบบ"
 
******************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ                                                         ฉบับที่ 55 / วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562