กรมพัฒน์ฯ แนะ SMEs ไทยเข้าร่วมโครงการ Total Solutions for SMEs

กรมพัฒน์ฯ แนะ SMEs ไทยเข้าร่วมโครงการ Total Solutions for SMEs เพื่อติดอาวุธด้านเทคโนโลยี พร้อมรับมือเศรษฐกิจยุคดิจิทัล

                     กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับ ซอฟต์แวร์ไทย ชวน SMEs เข้าร่วมโครงการ Total Solutions for SMEs เลือกใช้ซอฟต์แวร์ในการบริหารจัดการธุรกิจที่ใช่...ตอบโจทย์ 3 ด้าน คือ Office Software, POS และบัญชี เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านบริหารจัดการธุรกิจ เปิดให้ใช้งานแล้วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ขั้นตอนการใช้งานง่ายๆ ผ่านทาง www.dbd.go.th ประเดิมนำร่องให้ใช้งานเฟสแรกแล้ว ก่อนต่อยอดเฟส 2 และ 3 ที่จะพา SMEs เข้าให้ถึงความสำเร็จต่อไป 
                    นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ที่ผ่านมากรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ร่วมมือกับ 7 หน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย (ATSI) สมาคม Thailand Tech Startup ผู้ประกอบการซอฟต์แวร์สำนักงาน (Office) ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารทหารไทย เพื่อรวบรวมซอฟต์แวร์การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจรให้บริการแบบไม่มีค่าใช้จ่าย ภายใต้ชื่อ "Total Solutions for SMEs" ประกอบไปด้วยโปรแกรมใน 3 ประเภทคือ 1) โปรแกรมจัดการเอกสาร (Office Software) สำหรับประยุกต์ใช้ด้านสำนักงานและการจัดการเอกสารด้านต่างๆ ของธุรกิจ 2) โปรแกรมงานขายหน้าร้าน (POS : Point of Sale) ช่วยให้การซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการหน้าร้านสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถบริหาร Stock สินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงข้อมูลด้านการจัดทำบัญชีและงบการเงิน และ 3) โปรแกรมบัญชี Online ที่จะเชื่อมโยงข้อมูลในธุรกิจแบบครบวงจร สามารถแปลงข้อมูลเป็นงบการเงินและนำส่งได้ทันที สำหรับซอฟต์แวร์ใน Total Solutions for SMEs นี้จะเน้นผู้ใช้งาน SMEs เป็นหลักเพื่อให้ธุรกิจขนาดเล็กสามารถนำเทคโนโลยีไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างเหมาะสม และก้าวข้ามจาก Traditional SMEs ไปสู่ SMART SMEs พร้อมรับ Digital Economy
                      อธิบดี กล่าวต่อว่า "ขณะนี้กรมฯ กำลังเปิดให้ธุรกิจที่สนใจสมัครและเข้าใช้งานในโปรแกรม Total Solutions for SMEs แล้ว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งมีขั้นตอนในการเข้าใช้งานง่ายๆ ใน 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1) เข้าเว็บไซต์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า http://www.dbd.go.th/ เลือกหัวข้อ Hot Service และ Total Solutions for SMEs 2) เข้าสู่หน้าแรกของระบบ ผู้ใช้งานสามารถดูรายชื่อซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับประเภทธุรกิจ (ปัจจุบันมี 16 ซอฟต์แวร์) 3) เข้าสู่ระบบ โดยใส่รหัสผู้ใช้งานและรหัสผ่านซึ่งเป็นรหัสเดียวกับระบบ e-Registration หรือ DBD e-Filing กรณีที่เป็น SMEs ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด (มีเงินทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท และรายได้ไม่เกิน 5 ล้านบาท) ระบบจะนำเข้าสู่แบบฟอร์มการรับสมัคร โดยกรอกข้อมูลธุรกิจ จากนั้นเลือกประเภทโปรแกรม ที่ต้องการใช้งาน(เลือกได้มากกว่า 1 ประเภท ประเภทละ 1 โปรแกรม) เลือกบริการที่ต้องการจากธนาคารพันธมิตร สุดท้ายแจ้งข้อมูลผู้ติดต่อเลือกรับรองข้อความและกดส่งข้อมูล"
                     "สำหรับการเปิดตัว โครงการ Total Solutions for SMEs ปัจจุบันเป็นการนำร่อง เฟสที่ 1 เน้นการสร้างโอกาสให้ SMEs เข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อประกอบธุรกิจโดยไม่ต้องใช้ต้นทุนใดๆ เพราะกรมฯ เข้าใจถึงปัญหาใหญ่ของ SMEs ที่ทำให้เข้าไม่ถึงเทคโนโลยีก็คือ เงินทุนที่ไม่เพียงพอ โดยที่ผ่านมาหาก SMEs ต้องการจะพัฒนาธุรกิจด้วยเทคโนโลยีจะต้องใช้เงินทุนจำนวนมากในการซื้อซอฟต์แวร์จากผู้ผลิตรายใหญ่ และบางครั้งระบบเหล่านั้นก็ไม่รองรับกับธุรกิจของตนเองทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณการบริหารธุรกิจไปอย่างเปล่าประโยชน์ รวมทั้งเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนและบริการทางการเงินของธนาคารอีก 4 แห่งที่เป็นพันธมิตรอีกด้วย สำหรับเฟสที่ 2 จะต่อยอดโปรแกรมด้าน POS และ บัญชีให้เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท (by Sector) อาทิ ร้านอาหาร ร้านซ่อมรถ ร้านซักรีด เป็นต้น โดยที่โปรแกรมทั้งหมดจะดำเนินการผ่านระบบคลาวด์ (Cloud Computing) ทำให้ธุรกิจสามารถติดตามการดำเนินธุรกิจของตนเองทั้งด้านรายได้ ค่าใช้จ่าย ต้นทุนได้แบบวันต่อวัน และเฟสที่ 3 สถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรสามารถพิจารณาสุขภาพของธุรกิจที่มาขอรับสินเชื่อได้ผ่านระบบ Cloud Computing ทำให้เพิ่มโอกาสแก่ SMEs ที่มีสุขภาพทางการเงินดีในการเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น และเกิดการแข่งขันระหว่างสถาบันการเงินในการเสนอดอกเบี้ยที่ต่ำลง ซึ่งจะส่งผลดีและประโยชน์แก่ SMEs ได้โดยตรง สำหรับเฟสที่ 2 และ 3 คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ประมาณกลางปี 2563" อธิบดี กล่าวในท้ายที่สุด
********************************
ที่มา : กองกำกับบัญชีธุรกิจ                                                      ฉบับที่ 48 / 4 กุมภาพันธ์ 2562