ธุรกิจบริการไทยอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!!! หลังนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับมาตรฐานธุรกิจมากขึ้น

ธุรกิจบริการไทยอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!!! หลังนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับมาตรฐานธุรกิจมากขึ้น
พร้อมจ่ายค่าบริการเต็มที่...หากคุณภาพบริการคับแก้ว
 
                 ธุรกิจบริการไทยอยู่เฉยไม่ได้แล้ว!!! หลังนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับมาตรฐานธุรกิจมากขึ้น พร้อมจ่ายค่าบริการเต็มที่ หากการบริการมีคุณภาพได้มาตรฐาน กรมพัฒน์ฯ ไม่รอช้าเปิดหลักสูตร "ยกระดับธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ" หวังยกระดับธุรกิจบริการสุขภาพของไทยให้เป็นที่ยอมรับ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน...เอาใจนักท่องเที่ยวไทย-เทศเต็มที่ ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ
                  นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสำคัญกับมาตรฐานคุณภาพธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจบริการที่เป็นธุรกิจเฉพาะตัวที่เน้นการเอาใจใส่ดูแลผู้ใช้บริการเป็นพิเศษ ความสะดวกสบายที่ได้รับจากการบริการ รวมถึง ความพิถีพิถันในการให้บริการ และการบริการที่เป็นมาตรฐานไม่ว่าจะเข้ามาใช้บริการกี่ครั้งก็จะได้รับการบริการที่ดีเหมือนกันทุกครั้ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะเป็นแรงกระตุ้นให้ผู้ใช้บริการพร้อมจ่ายค่าบริการเต็มที่หากได้รับความพึงพอใจจากการใช้บริการ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลที่จะให้ความสำคัญกับคุณภาพการบริการและความพึงพอใจที่ลูกค้าจะได้รับ ดังนั้น ธุรกิจบริการของไทยจึงจำเป็นต้องหันมาใส่ใจในเรื่องมาตรฐานคุณภาพการให้บริการและการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก นักท่องเที่ยวผู้ใช้บริการจะมองหาตราสัญลักษณ์หรือประกาศนียบัตรสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถการันตีถึงคุณภาพการบริการได้ในระดับหนึ่ง ทำให้สถานประกอบการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพฯ มีโอกาสที่ได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจให้กว้างมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้เป็นจำนวนมากด้วย"
                 "กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจบริการมาโดยตลอด โดยหนึ่งในธุรกิจบริการที่กรมฯ เร่งสร้างมาตรฐานคุณภาพฯ คือ ธุรกิจสปา ธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งทั้ง 3 ธุรกิจได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ดังนั้น กรมฯ จึงได้จัดอบรมโครงการ "ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ" ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพธุรกิจบริการที่มีมูลค่าสูง ปีงบประมาณ 2561 ขึ้น โดยกิจกรรมหลักของการอบรมประกอบด้วย 1) การอบรมให้ความรู้ด้านมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจ 2) การให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการ เพื่อพัฒนาเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานฯ โดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และ 3) ผู้ที่ผ่านการอบรมและผ่านเกณฑ์มาตรฐานฯ จะได้รับประกาศนียบัตรจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมทั้งผู้ประกอบการที่เป็น Best Practice จะได้รับโล่เกียรติคุณจากกกรมฯ เพิ่มอีก 1 รางวัล ทั้งนี้ การอบรมโครงการ "ยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการธุรกิจบริการสุขภาพสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ" กำลังเปิดรับสมัครผู้ประกอบการธุรกิจสปา ธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพ และธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เข้าร่วมรับการอบรมฯ จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2561 นี้ จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมฯ ได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 5954 โทรสาร 0 2547 5971 อีเมล : bizservicedbd@gmail.com สายด่วน 1570 หรือ www.dbd.go.th" อธิบดีกล่าวทิ้งท้าย
                    จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561) มีจำนวนธุรกิจสปาและธุรกิจนวดเพื่อสุขภาพที่จดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,141 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 6,747.37 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 555 ราย (คิดเป็นร้อยละ 48.65) และส่วนภูมิภาคจำนวน 586 ราย (คิดเป็นร้อยละ 51.35)
                    ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ มีจำนวนผู้ประกอบการที่จดทะเบียนนิติบุคคลทั้งสิ้น 233 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,385.77 ล้านบาท แบ่งเป็นกรุงเทพมหานคร จำนวน 109 ราย (คิดเป็นร้อยละ 46.79) และส่วนภูมิภาคจำนวน 124 ราย (คิดเป็นร้อยละ 53.21)
 
************************************************
ที่มา : กองธุรกิจบริการ                                                                                            ฉบับที่ 69 / วันที่ 28 มีนาคม 2561