กรมพัฒน์ฯ 'ไขข้อข้องใจ' สหกรณ์ร้านค้าและค้าส่งค้าปลีกไทยต้องทำไงถึงแข็งแรง

กรมพัฒน์ฯ 'ไขข้อข้องใจ' สหกรณ์ร้านค้าและค้าส่งค้าปลีกไทยต้องทำไงถึงแข็งแรง
จัดติวเข้ม มีเมนเทอร์ส่วนตัว และพารุ่นเล็กดูงานรุ่นใหญ่เค้าทำกันอย่างไร?
 
                กระทรวงพาณิชย์ จัดโครงการพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ประเดิมวันแรกที่การจัดกิจกรรมยกระดับสหกรณ์ไทย-สร้างค้าปลีกไทยเข้มแข็ง ต่อด้วยการยกทัพนักธุรกิจเจ้าของร้านค้าส่ง-ปลีก และสหกรณ์ร้านค้าไปดูงานร้านค้าส่ง-ปลีกยักษ์ใหญ่ของประเทศ ณ ศูนย์มิตรแท้โชห่วย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด สร้างไอเดียปรับตัวด้วยเทคโนโลยี ช่วยแบ่งเบาความยุ่งยากในการทำธุรกิจให้ขยายฐานการเติบโตได้คล่องตัว บริหารจัดการเป็นเลิศ
                 นายวิเชียร ชวลิต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และประธานการเปิดกิจกรรมยกระดับสหกรณ์ไทย-สร้างค้าปลีกไทยเข้มแข็ง กล่าวว่า ในวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2561) กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้จัดงานกิจกรรมยกระดับสหกรณ์ไทย-สร้างค้าปลีกไทยเข้มแข็ง ระหว่างวันที่ 22-23 มีนาคม 2561 ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นโครงการภายใต้การพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน นับเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สร้างโอกาสการเติบโตที่มั่นคงให้กับธุรกิจที่เป็นฐานรากทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่าง 'ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก' และการรวมกลุ่มของคนในชุมชนภายใต้ชื่อ 'สหกรณ์ร้านค้า' จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ปี 2559 พบว่า เกือบครึ่งของ SMEs ในประเทศประกอบธุรกิจประเภทค้าส่งค้าปลีกคิดเป็นร้อยละ 41.67 ของจำนวน SMEs ทั้งหมด ซึ่งการเติบโตของธุรกิจประเภทนี้จะเป็นดัชนีที่สะท้อนให้เห็นถึงความอยู่ดีกินดีของประชาชน เกี่ยวข้องไปถึงธุรกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศด้วย
                 ที่ปรึกษาฯ กล่าวต่อว่า "กระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญถึงการพัฒนาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยให้สามารถยกระดับยืนบนมาตรฐานได้มาโดยตลอด โดยส่งเสริมธุรกิจร้านค้าส่งค้าปลีกไทยในการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคซึ่งเป็นสินค้าพื้นฐานในชีวิตประจำวันของประชาชน เน้นให้มีการบริหารจัดการที่ดีตามมาตรฐานคุณภาพ และจัดหาสินค้าได้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคลดการสั่งสินค้ามากเกินความจำเป็นซึ่งก่อให้เกิดต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการนำเครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่างๆ มาช่วยค้าขายได้อย่างมีประสิทธิภาพลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายในงานวันนี้ เริ่มจากการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง 'ความท้าทายโลก : ประเด็นด้านเทคโนโลยี-วิกฤตหรือโอกาสสำหรับค้าส่งค้าปลีกไทย' เป็นการนำเสนอให้ผู้ประกอบธุรกิจได้เห็นถึงสภาวะการเปลี่ยนแปลงในภาคธุรกิจระดับโลกด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยการบริหารจัดการและสร้างการแข่งขัน หากร้านค้าไม่เกิดการตื่นตัวหรือปรับตัวก็จะทำให้จากโอกาสที่จะเกิดขึ้นก็อาจกลายเป็นวิกฤตได้"
                 "นอกจากนี้ยังมีการสัมมนาให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ หัวข้อ จุดประกายความคิด สู่ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเทคโนโลยี, การแนะนำโครงการพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน โดยนำเสนอแนวคิด หลักปฏิบัติ และแนวทางการพัฒนาตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ และการเสวนา หัวข้อ 'ทำอย่างไร? ให้เป็นโชวห่วยมืออาชีพ' และสำหรับกิจกรรมในวันที่ 23 มีนาคม 2561 จะพาผู้เข้าร่วมสัมมนาไปร่วมกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และถ่ายทอดประสบการณ์การบริหารจัดการธุรกิจ ณ ศูนย์มิตรแท้โชห่วย บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด ซึ่งเป็นร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้เกิดมุมมองใหม่ด้านการทำธุรกิจที่เป็นมืออาชีพ อาทิ เรียนรู้การบริหารจัดการร้านค้า ทั้งสินค้าประเภทอุปโภคบริโภค และอาหารสดที่ต้องใช้ความชำนาญในการบริหารสินค้าคงคลังเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียต้นทุน การบริการจัดการด้านโลจิสติกส์ และด้านชีวอนามัย เป็นต้น การดูงานในครั้งนี้เกิดจากเสียงสะท้อนที่แท้จริงจากผู้เข้าร่วมโครงการที่ผ่านมาที่ต้องการเรียนรู้ถึงวิธีการดำเนินธุรกิจจากร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นบริษัทชั้นนำเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สำหรับนำมาปรับใช้กับร้านค้าของตนเองให้พร้อมที่จะเติบโตไปเป็นมืออาชีพได้ในอนาคต"
                  "สำหรับโครงการภายใต้การพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ไม่เพียงแต่การสัมมนาและ ดูงานเท่านั้น ยังติดตามการปรับตัวของธุรกิจที่เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และคำปรึกษาตลอดโครงการ พร้อมลงพื้นที่ ณ ร้านค้าเพื่อจะได้ปรับเปลี่ยนร้านได้ตรงกับสภาพแวดล้อมจริงภายใต้เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพทั้ง 8 ด้าน ประกอบไปด้วย 1) การรวมกลุ่มและวางแผนเชิง กลยุทธ์ 2) ลูกค้าและตลาด 3) สารสนเทศ และการวิเคราะห์ 4) ทรัพยากรบุคคล 5) การจัดการกระบวนการทางธุรกิจ และโลจิสติกส์ 6) การจัดร้านค้า และจัดวางสินค้า 7) อนามัย และความปลอดภัยในสถานประกอบการค้าส่งค้าปลีก และ 8) ผลลัพธ์ทางธุรกิจ โดยจะดำเนินการครอบคลุมทั้ง 4 ภูมิภาค กระทรวงได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะมีสหกรณ์ร้านค้า และร้านค้าส่งค้าปลีก ได้รับการพัฒนาสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพเป็นต้นแบบจำนวนไม่น้อยกว่า 35 ร้านค้า เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับร้านค้าอื่นก่อนขยายผลการส่งเสริมพัฒนาต่อไป" ที่ปรึกษาฯ กล่าวในท้ายที่สุด
 
********************************
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                                       ฉบับที่ 66 / 22 มีนาคม 2561