เกาะติด "จับคู่กู้เงิน" จุรินทร์ ตามใกล้ชิด ยอดกู้พุ่งกว่า 3,000 ราย "ออมสิน" สูงสุด ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ เดินหน้าต่อ "ช่วยร้านอาหารฝ่าโควิด"

เกาะติด "จับคู่กู้เงิน" จุรินทร์ ตามใกล้ชิด ยอดกู้พุ่งกว่า 3,000 ราย "ออมสิน" สูงสุด ทั้งออฟไลน์-ออนไลน์ เดินหน้าต่อ "ช่วยร้านอาหารฝ่าโควิด"

วันที่ 14 มิถุนายน 2564 เวลา 14.00 น.

                                           นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ผู้บริหารสถาบันการเงิน ติดตามความคืบหน้าโครงการ "จับคู่กู้เงิน" สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร ชั้น 4 สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์

                                      โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ใช้เวลาเดินสำรวจติดตามสอบถามสถาบันการเงินที่ให้ความร่วมมือกับโครงการเกี่ยวกับความคืบหน้าและเงื่อนไขที่โครงการอย่างละเอียด บรรยากาศระหว่างนั้นผู้บริหารธนาคารได้ให้ความร่วมมือในการตอบคำถามรวมทั้งประจำแต่ละบูธเพื่อตอบข้อซักถามเงื่อนไขต่างๆที่ร้านอาหารทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาได้มาติดต่อที่กระทรวงพาณิชย์วันนี้

                                           ภายหลังจากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวสรุปว่า ความคืบหน้าโครงการจับคู่กู้เงิน สถาบันการเงินกับร้านอาหาร ที่กระทรวงพาณิชย์จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 7-20 มิถุนายน 2564 เพื่อให้ร้านอาหารทั่วประเทศซึ่งมีอยู่ประมาณ 120,000 ร้าน ที่จดทะเบียนบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ ของสถาบันการเงินต่างๆ กระทรวงพาณิชย์ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินประกอบด้วยธนาคารออมสิน ธนาคาร SME D Bank ธนาคารกรุงไทย ธนาคาร ธ.ก.ส. และบสย. เพื่อปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำและปลอดหลักทรัพย์ในบางกรณี รวมทั้งเงื่อนไขผ่อนปรนอื่นๆ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือร้านอาหารให้สามารถต่อลมหายใจต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์ในช่วงวิกฤติโควิด โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดห้องเพื่อให้ผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถมาพบกับทั้ง 5 สถาบันการเงินได้ที่นี่โดยตรง

                                          รวมทั้งสามารถเดินทางไปที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ หรือไปที่สถาบันการเงินทั้ง 5 แห่งโดยตรงที่สำนักงานสาขาทั่วประเทศเพื่อยื่นเรื่องขอกู้เงินตามโครงการจับคู่กู้เงินของกระทรวงพาณิชย์จะได้รับการดูแลเรื่องการให้ข้อมูลเงื่อนไขและรับเรื่องขอกู้

                                            นับตั้งแต่วันที่ 7-14 มิถุนายนเป็นเวลา 7 วันสถาบันการเงินต่างๆได้เปิดโอกาสให้ร้านอาหารขอกู้ได้ทั้งในรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์ มีการยื่นขอสินเชื่อดังนี้ ธนาคารออมสินมีผู้ยื่นขอกู้แล้วรวม 2,520 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 750 ล้านบาท ธนาคาร SME D Bank มีผู้ยื่นขอกู้ 146 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 64 ล้านบาท ธนาคารกรุงไทยมีผู้ยื่นขอกู้ 98 ราย วงเงินขอสินเชื่อรวม 43 ล้านบาท ธ.ก.ส.ยื่นขอกู้ 49 ราย วงเงินขอสินเชื่อ 22 ล้านบาท ส่วน บสย.มีผู้ยื่นขอ 188 ราย โดยมีผู้ติดต่อขอสินเชื่อรวม 3,001 รายวงเงินที่ขอสินเชื่อรวมกัน 880 ล้านบาท ส่วนสำหรับ บสย.ที่มีผู้ยื่นขอ 188 รายนั้นแจ้งว่ายินดีค้ำประกันให้ทุกรายที่ธนาคารปล่อยกู้ให้

                                              "และโครงการที่ออกบูธจะไปจบโครงการในวันที่ 20 มิถุนายน 2564 ที่จะถึงแต่ท่านสามารถไปที่สาขาต่างๆของสถาบันการเงินเหล่านี้ได้และในบางจังหวัดผมได้สั่งการให้มีการดำเนินการจัดสถานที่ขึ้นมาเป็นกรณีพิเศษเช่นเดียวกับที่จัดที่กระทรวงพาณิชย์ เช่น ที่จังหวัดภูเก็ตจากการไปตรวจราชการได้รับรายชื่อร้านอาหารรวม 300 กว่ารายที่ประสงค์จะยื่นขอกู้ จึงสั่งการให้พาณิชย์จังหวัดภูเก็ตจัดสถานที่เป็นกรณีเฉพาะให้พบกับ 5 สถาบันการเงินสาขาที่นั่นโดยตรง ได้รับแจ้งว่าจะดำเนินการตั้งแต่วันพุธที่ 16 มิถุนายนเป็นต้นไป และจะพิจารณาข้อมูลต่อไปว่าสุดท้ายได้มีการอนุมัติวงเงินไปเท่าไหร่เพราะต้องรอให้สถาบันการเงินนั้นนั้นได้มีเวลาพิจารณาโดยพูดคุยกันแล้วว่าจะพิจารณาให้สั้นที่สุดภายใน 1-2 สัปดาห์ โดยมีผู้ยื่นขอกู้ออนไลน์กับธนาคารออมสินถึง 2,326 ราย" นายจุรินทร์ กล่าว