กรมพัฒน์ฯ จับมือพันธมิตร สนับสนุนสินค้าอุปโภค-บริโภคให้ร้านกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ เสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และเร่งรับชุดสินค้าก่อนหมดเขตสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น!
กรมพัฒน์ฯ จับมือพันธมิตร สนับสนุนสินค้าอุปโภค-บริโภคให้ร้านกองทุนหมู่บ้านทั่วประเทศ
เสริมเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง และเร่งรับชุดสินค้าก่อนหมดเขตสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้เท่านั้น!
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือพันธมิตรรายใหญ่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดชุดสินค้าอุปโภค-บริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน มูลค่ารวมกว่า 12 ล้านบาท ให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน 3,500 แห่งทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ "ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน" ส่งเสริมร้านค้าให้เข้มแข็ง เป็นรากฐานเศรษฐกิจชุมชน ลดค่าครองชีพให้ผู้บริโภค และเป็นช่องทางกระจายสินค้าชุมชน พร้อมกระตุ้นให้ร้านค้าที่มีสิทธิมารับชุดสินค้าโดยด่วนก่อนของหมด หลังมีร้านค้ามาใช้สิทธิแล้วเกินครึ่ง
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า "กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีนโยบายช่วยเหลือร้านค้าโชวห่วยรายย่อยในระดับชุมชนมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี และเป็นที่พึ่งของประชาชนทั้งช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และช่วงระยะการฟื้นฟู โดยกรมฯ ได้ดำเนินโครงการพัฒนาร้านค้าปลีกสู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ช่วยให้ร้านค้ามีการบริหารจัดการที่ดี นำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านค้าอย่างเหมาะสม และในวันนี้ (30 มิ.ย.64) กรมฯ ได้จัดโครงการ "ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน" ณ ห้องฉลาดลบเลอสรรค์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ และถ่ายทอดผ่านระบบ Zoom และช่องทาง Social Media ของกรมฯ เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เป็นร้านค้าโชวห่วยถึงการดำเนินงานของโครงการฯ รวมถึงการสนับสนุนสินค้าอุปโภคบริโภคให้กับร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ "เป็นร้านค้าของคนในชุมชน ดำเนินการโดยคนในชุมชน และทำเพื่อคนในชุมชน" กว่า 3,500 แห่งทั่วประเทศ โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรได้แก่ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าในราคาประหยัด แต่ยังส่งเสริมให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านกลุ่มนี้มีความเข้มแข็งและเป็นผู้นำเศรษฐกิจชุมชนที่แข็งแกร่ง ทำให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนและสินค้า OTOP ในพื้นที่มีช่องทางการกระจายสินค้า รวมถึงคนในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย"
อธิบดี กล่าวต่อว่า "ที่ผ่านมากรมฯ ได้ร่วมกับ สทบ. คัดเลือกร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่มีสิทธิรับสินค้าตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น เป็นร้านค้าโชวห่วยที่อยู่ในพื้นที่และมีความพร้อมในการมารับชุดสินค้า และร่วมกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ในการจัดหาสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีรายการสินค้าที่แม็คโครสมทบเพิ่มเติมคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,500 บาท ให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านได้รับประโยชน์สูงสุด รวมทั้งสิ้น 23 รายการ หนึ่งในนั้น คือ "ข้าวหอมมะลิ" ซึ่งกรมฯ ให้ความสำคัญกับการนำผลผลิตของกลุ่มผู้ประกอบการฐานรากมาเชื่อมโยงกับร้านค้าโชวห่วย เพื่อเน้นย้ำภาพลักษณ์และสะท้อนความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดระหว่างร้านค้าโชวห่วยกับเศรษฐกิจชุมชนและเกษตรกร โดยหลังเปิดให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านมารับสินค้าแล้วในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีผู้มารับสินค้าแล้วกว่า 2,000 ร้านค้า และกำลังจะเปิดให้ร้านค้ากองทุนหมู่บ้านที่ได้รับสิทธิและยังไม่ได้มารับสินค้า มารับสินค้าในเดือนกรกฎาคมนี้"
"ผมขอเรียนว่า โครงการฯ นี้เป็นความตั้งใจของกรมฯ แม็คโคร และสทบ.ในการให้ความช่วยเหลือร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน ในสภาวะที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์ โควิด-19 โดยได้บูรณาการความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้ท่านได้มารับชุดสินค้า ณ แม็คโครสาขาที่ใกล้ท่าน ซึ่งขณะนี้เหลือเพียง 1,500 ชุดที่ยังรอร้านค้าให้มารับสิทธิ จึงขอเชิญชวนร้านค้าโชวห่วยที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ ตรวจสอบสิทธิของท่านที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลข 0 2547 5986 (วันเวลาราชการ) และ โทร. 084 250 0329 (นอกเวลาราชการ) โดยนำเอกสาร/หลักฐานของร้านค้า ได้แก่ 1) สำเนาใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล 1 ฉบับ 2) สำเนารายชื่อคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน/ชุมชนเมือง ชุดปัจจุบัน ตามแบบฟอร์มที่สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกำหนดล่าสุด 1 ฉบับ และ 3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการกองทุนหมู่บ้าน/ชุมชนเมืองที่มาติดต่อรับชุดสินค้า 1 ฉบับ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องของเอกสารดังกล่าว เพื่อไปรับชุดสินค้า ณ แม็คโครสาขาที่กำหนดใกล้ร้านของท่าน ซึ่งเชื่อว่าโครงการ "ซื้อง่าย ถูกใจ ใกล้ชุมชน" จะมีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นหลังวิกฤติโควิด-19 และหวังว่าร้านค้ากองทุนหมู่บ้านจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความเป็นอยู่ที่ดีของคนในชุมชนด้วยการทำหน้าที่เป็นผู้กระจายสินค้าซึ่งรวมถึงสินค้าท้องถิ่นสู่มือของผู้บริโภค ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนให้เข้มแข็ง และก้าวไปข้างหน้าพร้อมกันอย่างยั่งยืน"
"หากท่านมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 0 2547 5986 สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 e-Mail : bizpromotion.dbd@gmail.com และ www.dbd.go.th" อธิบดี กล่าวทิ้งท้าย
#PoweredByDBD
*********************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ฉบับที่ 119 / วันที่ 30 มิถุนายน 2564