พ.ย.61 ต่างชาติลงทุนไทยอีก 23 ราย มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 262 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 150 คน

พ.ย.61 ต่างชาติลงทุนไทยอีก 23 ราย
มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 262 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 150 คน
 
               นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2561 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 23 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าว จากประเทศญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ และสิงคโปร์ ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 262 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 150 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
                  สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
                 1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 11 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 167 ล้านบาท คือ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการด้านการบริหารจัดการ ติดต่อประสานงาน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขาย และขนส่งปิโตรเลียม บริการด้านการรับ-ส่งวัตถุดิบ เคมีภัณฑ์ บริการติดตั้ง ซ่อมแซมและบำรุงรักษา เครื่องมือแพทย์ บริการให้เช่าพื้นที่อาคารโรงงานบางส่วน พร้อมทั้งสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น ลักเซมเบิร์ก และหมู่เกาะเคย์แมน
                 2. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 8 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 38 ล้านบาท ได้แก่ บริการตรวจสอบและออกใบรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ บริหารจัดการและแก้ไขปัญหาทางด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กร บริการรับจ้างผลิตเคมีภัณฑ์ประเภทต่างๆ บริการชุบเคลือบลูกสูบ บริการติดตั้ง ทดสอบการทำงาน ซ่อมแซมบำรุงรักษา และปรับปรุงแก้ไขระบบผลิตและจ่ายไฟฟ้ากำลัง ให้เช่าถังเก็บน้ำมันเชื้อเพลิงบริการให้เช่าช่วงพื้นที่โกดังจัดเก็บสินค้า โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ฮ่องกง และ สหราชอาณาจักร
                3. ธุรกิจนายหน้า/ค้าปลีก จำนวน 4 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 57 ล้านบาท ได้แก่ นายหน้าจำหน่ายห้องเลเซอร์ เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องมือ ชิ้นส่วน และซอฟต์แวร์สำหรับการเชื่อม ตัดและขึ้นรูปโลหะ การค้าปลีกเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในงานขุดเจาะและงานก่อสร้าง การค้าปลีกเครื่องจักรสำหรับใช้ในการขึ้นรูปบรรจุภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรผนึกบรรจุภัณฑ์ เครื่องจักรสำหรับบรรจุด้วยระบบสุญญากาศ การค้าปลีกแม่พิมพ์ และอุปกรณ์จับยึดชิ้นงานที่ใช้ผลิตชิ้นส่วนยานพาหนะ ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และตัวอย่างชิ้นงานที่ขึ้นรูปแล้ว โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ สมาพันธรัฐสวิส และญี่ปุ่น
             การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้การพัฒนาสารหล่อเย็นสำหรับเครื่องยนต์ ชนิด Inorganic Additive Technology องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิค การพิมพ์หมึก Evoglide บนผิวลูกสูบ องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี การผลิต และการติดตั้ง ซ่อมแซมบำรุงรักษาระบบผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้ากำลัง (electrical power supply system) องค์ความรู้เกี่ยวกับเครื่องจักรในกลุ่มบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์การแพทย์ (MCP Training) องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการติดตั้ง ทดสอบ ปรับปรุงซ่อมแซมและบำรุงรักษาของเครื่องจักร อุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ เทคโนโลยีและชิ้นส่วนสำหรับการขึ้นรูปโลหะ เป็นต้น
             ทั้งนี้ ในเดือนพฤศจิกายน 2561 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลงจากเดือนก่อน 9 ราย คิดเป็นร้อยละ 28 ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 1,429 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 85 เนื่องจากเดือนตุลาคม 2561 มีผู้ได้รับอนุญาต ให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการรับค้ำประกันหนี้ และบริการออกแบบทางด้านวิศวกรรม จัดหา ก่อสร้าง ติดตั้งและทดสอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นต้น
              อนึ่งในเดือนมกราคม - พฤศจิกายน 2561 คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 252 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,733 ล้านบาท และเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง 10 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3,631 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 51 เนื่องจากในปี 61 มีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง อาทิ บริการออกแบบทางวิศวกรรมและติดตั้งเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและผลิตภัณฑ์คอนกรีต บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น
 
*********************
ที่มา : กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ                                      ฉบับที่ 19 / วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561