พาณิชย์' ร่วมหารือ 5 หน่วยงานหาแนวทางลดผลกระทบให้แก่เอสเอ็มอี

พาณิชย์' ร่วมหารือ 5 หน่วยงานหาแนวทางลดผลกระทบให้แก่เอสเอ็มอี
จากการใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS 9
 
                    พาณิชย์' หารือร่วมกับ 5 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางลดผลกระทบผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หากมี การบังคับใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงิน-กลุ่มเครื่องมือทางการเงิน หลังจากภาคธุรกิจมีความกังวลใจเป็นอย่างมากหากคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ผ่านมาตรฐานการรายงานทางการเงินดังกล่าว สถาบันการเงินอาจไม่พิจารณาปล่อยกู้ให้แก่ธุรกิจเอสเอ็มอี แต่หากไม่ออกมาตรฐานดังกล่าวก็อาจทำให้ไทยตกจากอันดับการประเมินโครงการภาคการเงิน โดยในการหารือเบื้องต้นเห็นควรออกแนวปฏิบัติเพื่อผ่อนคลายผลกระทบดังกล่าว ส่วนเรื่องวันบังคับใช้ที่เหมาะสม ทั้ง 6 หน่วยงานจะหารือร่วมกันอีกครั้ง ก่อนเสนอ กกบ.พิจารณาชี้ขาด
                    นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) ซึ่งมีอำนาจหน้าที่ในการให้ความเห็นชอบมาตรฐานการบัญชี เปิดเผยว่า "วันนี้ (วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม 2561) คณะอนุกรรมการศึกษามาตรการเพื่อลดผลกระทบจากการนำมาตรฐานการรายงานทางการเงิน-กลุ่มเครื่องมือทางการเงินไปปฏิบัติ ซึ่งแต่งตั้งโดย กกบ. ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิทางบัญชี ผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้แทนคณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย (กกร.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง (สศค.) ผู้แทน สภาวิชาชีพบัญชี และผู้แทนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประชุมหารือในวาระเร่งด่วนเพื่อพิจารณาแนวทางการลดผลกระทบจากการใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS 9"
                    "โดยผลการประชุมคณะอนุกรรมการฯ เห็นควรให้ ธปท. และสภาวิชาชีพบัญชี กำหนดแนวทางปฏิบัติภายใต้กรอบของ IFRS 9 เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และผ่อนคลายผลกระทบจากการนำ TFRS 9 มาใช้บังคับให้แก่สถาบันการเงิน และธุรกิจเอสเอ็มอี โดยที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องวันบังคับใช้ที่เหมาะสมในการประชุมครั้งถัดไป ก่อนเสนอให้ กกบ.พิจารณาชี้ขาด และในระหว่างนี้ให้สภาวิชาชีพบัญชีโดยคณะกรรมการกำหนดมาตรฐานการบัญชีจัดตั้งคลินิกบัญชีเฉพาะกิจสำหรับ TFRS 9 เพื่อให้คำปรึกษาและตอบข้อซักถาม"  
                    "นอกจากนี้ สภาวิชาชีพบัญชี จะรับเป็นเจ้าภาพหลักในการจัดอบรมให้กับผู้ทำบัญชี และนิติบุคคลที่จะต้องปฏิบัติฯ โดยเน้นรูปแบบการอบรมในลักษณะ Workshop เพื่อให้มีความเข้าใจหลักการของมาตรฐานการบัญชีให้มากขึ้น จะมีการจัดทำตัวอย่างในการสร้าง Business Model ให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนจะตั้งคลินิกบัญชีเฉพาะกิจเพื่อตอบคำถามในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการจัดทำรายงานทางการเงินตามมาตรฐานการบัญชี IFRS9 โดยมี ธปท. ก.ล.ต. กรมสรรพากร ตลอดจนผู้สอบบัญชีที่อยู่ในตลาดทุนร่วมเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้วย"
                     "รายงานทางการเงิน นับเป็นหัวใจสำคัญในการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก ซึ่งนักลงทุน ผู้บริหาร และผู้ประกอบการในตลาดทุนล้วนให้ความสนใจในบทวิเคราะห์งบการเงิน ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสดของกิจการที่ต้องการเข้าร่วมลงทุน ทั้งนี้ "รายงานทางการเงินที่ดี" ต้องมีรูปแบบที่อ่านและเข้าใจได้ง่าย สามารถสะท้อนรายการธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการซื้อ-ขายในแต่ละวัน หรือธุรกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ มีความโปร่งใส น่าเชื่อถือ และต้องมีรูปแบบตรงตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ เพื่อเป็นข้อมูลให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนในกิจการนั้นๆ ซึ่งประเทศไทยจะสามารถก้าวเข้าสู่...มาตรฐานการรายงานทางการเงินสากลอย่างเต็มรูปแบบด้วยความภาคภูมิ"
                    "มาตรฐานการรายงานทางการเงินสากลอย่างเต็มรูปแบบจะเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ หรือ IFRS : International Financial Reporting Standards ที่ใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการรายงานทางการเงินและส่งเสริมให้รายงานทางการเงินของประเทศไทยมีความน่าเชื่อถือในสายตาของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตไปข้างหน้าอย่างมั่นคง รองรับการเปิดการค้าเสรีของโลกที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน" ประธาน กกบ.กล่าวทิ้งท้าย
                   ทั้งนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี (กกบ.) มีอำนาจหน้าที่ตามมาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี พ.ศ.2547 คือ กำกับดูแลการดำเนินกิจการของสภาวิชาชีพบัญชีให้เป็นไปตามกฎหมายและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์สภาวิชาชีพบัญชี ให้ความเห็นชอบมาตรฐานการบัญชี รวมถึงอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ กกบ.
****************************************
ที่มา : กองกำกับบัญชีธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                      ฉบับที่ 98 / วันที่ 11 พฤษภาคม 2561