พาณิชย์' ผนึกกำลัง ค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศและซัพพลายเออร์

พาณิชย์' ผนึกกำลัง ค้าส่ง-ค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศและซัพพลายเออร์
จัดโปรแรงต้อนรับหน้าฝน...คืนกำไรสู่สังคม...บรรเทาค่าครองชีพประชาชน
จัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" 2 ช่วง : 25 - 30 มิ.ย. 61 และ 11 - 15 ส.ค. 61
 
                    พาณิชย์' จับมือ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ซัพพลายเออร์ และร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นขนาดใหญ่ทั่วประเทศ จัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคครั้งใหญ่ 20-50% เพื่อบรรเทาค่าครองชีพแก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย พร้อมส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายใช้สอยในร้านโชวห่วยท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชุมชนระยะยาว ครั้งนี้ จัด 2 ช่วง : วันที่ 25 - 30 มิ.ย. 61 และวันที่ 11 - 15 ส.ค. 61 คาดจบงาน...มีเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า ครั้งละ 500 ล้านบาท
                    นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมมือกับร้านค้าส่งค้าปลีกขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย (ซัพพลายเออร์) สินค้าอุปโภค-บริโภค จัดงาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ต้อนรับหน้าฝน ครั้งนี้จัดขึ้น 2 ช่วง : ช่วงที่ 1 ระหว่างวันที่ 25 - 30 มิ.ย. 61 และช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 11 - 15 ส.ค. 61 โดยจะมีการลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคครั้งใหญ่ 20 - 50% เพื่อบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย พร้อมส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าส่ง-ค้าปลีกแบบดั้งเดิมในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจระดับชุมชนระยะยาว"
                     "งาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" จัดขึ้นภายใต้โครงการพัฒนาค้าส่งค้าปลีกไทยให้เข้มแข็งและยั่งยืน ปี 2561 ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค้าส่ง-ค้าปลีกขนาดกลางและขนาดใหญ่ในท้องถิ่น รวมถึง ผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภคจำนวนมาก โดยได้รับการสนับสนุนจากซัพพลายเออร์สินค้าอุปโภค-บริโภครายใหญ่ เช่น - พรอคเตอร์ แอนด์ แกรมเบิ้ล (P&G) - สหพัฒนพิบูลย์ - ผู้ผลิตน้ำมันพืชตราองุ่นและตรากุ๊ก - น้ำปลาตราคนแบกกุ้ง และข้าวหอมมะลิตราหงษ์ทอง เป็นต้น ไม่เพียงแต่สินค้าอุปโภค-บริโภคที่นำมาจำหน่ายเท่านั้น ผลิตภัณฑ์ที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอื่นๆ เช่น สินค้าโอทอปและสินค้าของเอสเอ็มอีที่มีแหล่งผลิตในท้องถิ่นก็จะนำเข้ามาจำหน่ายในร้านค้าส่งค้าปลีกด้วย ซึ่งจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งที่แท้จริงให้เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจชุมชน และก่อให้เกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตลอดจนเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทยในท้องถิ่นต่อไป ทั้งนี้ กิจกรรมที่จัดขึ้นจะส่งผลให้ประชาชนผู้บริโภคตระหนักถึงความสำคัญของธุรกิจค้าส่ง-ปลีกไทยแบบดั้งเดิมและสร้างความสนใจให้เกิดขึ้นกับคนสมัยใหม่ในการเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้าปลีกโชวห่วยท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าการจัดงานทั้งสองช่วงนี้จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้ไม่น้อยกว่า ครั้งละ 500 ล้านบาท"
                    "นอกจากนี้ ประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับประโยชน์จากการลดราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคในครั้งนี้ เนื่องจากร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่เป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่กระทรวงพาณิชย์ให้การสนับสนุนและติดตั้งเครื่อง EDC เรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถนำบัตรฯ มาจับจ่ายซื้อสินค้าได้ รวมถึงร้านค้าปลีกขนาดเล็กก็จะได้รับประโยชน์จากการซื้อสินค้าในราคาต้นทุนที่ลดลงจากร้านค้าส่งขนาดใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้สามารถนำไปจำหน่ายต่อให้กับผู้บริโภคได้ในราคาที่ถูกลง ดังนั้น งาน "ค้าส่งรวมใจ โชวห่วยไทยคู่สังคม" ครั้งนี้ จึงเปรียบเสมือนการยิงกระสุนนัดเดียวได้นก 3 ตัว นกตัวที่หนึ่งคือประชาชนได้ซื้อสินค้าดี ราคาประหยัด นกตัวที่สองคือ ร้านค้าของคนไทยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าเพิ่มขึ้น และนกตัวสุดท้าย คือ เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดการขับเคลื่อนและเติบโต ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ในท้องถิ่นมีความเป็นอยู่และชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน" รมว.พณ. กล่าวทิ้งท้าย
 
*************************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                   ฉบับที่ 104 / วันที่ 23 พฤษภาคม 2561