กรมพัฒน์ฯ เปิดแผนยุทธศาสตร์อี-คอมเมิร์ซสร้างธุรกิจไทย เน้นพัฒนา 3 ด้าน - พัฒนาคน - กระตุ้นการใช้อี-คอมเมิร์ซ - อำนวยความสะดวกธุรกิจ

กรมพัฒน์ฯ เปิดแผนยุทธศาสตร์อี-คอมเมิร์ซสร้างธุรกิจไทย
เน้นพัฒนา 3 ด้าน - พัฒนาคน - กระตุ้นการใช้อี-คอมเมิร์ซ - อำนวยความสะดวกธุรกิจ
พร้อมเตรียมเปิดโครงการ อี-คอมเมิร์ซบิ๊กแบง : 3e เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ชุมชน
คาดปี '64 มูลค่าอี-คอมเมิร์ซในไทย แตะ 5 ล้านล้านบาท
 
                      กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดแผนยุทธศาสตร์อี-คอมเมิร์ซสร้างธุรกิจไทย สอดรับแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ เน้นการพัฒนา 3 ด้าน - พัฒนาคน - กระตุ้นการใช้อี-คอมเมิร์ซ - อำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ พร้อมเตรียมเปิดโครงการอี-คอมเมิร์ซบิ๊กแบง ใช้ 3e : e-Marketplace, e-Logistic, e-Portal เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่เอสเอ็มอีและชุมชน คาดปี 2564 มูลค่าอี-คอมเมิร์ซไทย แตะ 5 ล้านล้านบาท
                     นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์) ให้ความสำคัญกับอี-คอมเมิร์ซ โดยมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการส่งเสริมอี-คอมเมิร์ซ เร่งดำเนินการให้สอดคล้องกับการพัฒนาไทยแลนด์ 4.0 และรองรับการพัฒนาเทคโนโลยีและการขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ แก่ประเทศชาติอย่างสมดุลและยั่งยืน"
                    "กรมฯ ได้จัดทำ "แผนยุทธศาสตร์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สร้างธุรกิจไทย" (e-Commerce for Thai SMEs) ขึ้น ให้สอดรับกับแผนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (2560 - 2564) โดยได้กำหนดเป้าหมายที่จะเป็น "ศูนย์กลางการพัฒนาสู่ช่องทางอี-คอมเมิร์ซ" เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้แก่เอสเอ็มอีและชุมชนท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามแผนยุทธศาสตร์ฯ กรมฯ จะเน้นการพัฒนาสู่ความสำเร็จแบ่งเป็น 3 ด้าน ประกอบด้วย 1) ด้านการพัฒนาคน (Human) ได้แก่ การจัดอบรมให้ความรู้การพัฒนาเข้าสู่ช่องทางและสร้างกลยุทธ์สู่ความสำเร็จอี-คอมเมิร์ซ"
                   "2) ด้านการกระตุ้นการใช้อี-คอมเมิร์ซ (e-Commerce Booster) การจัดกิจกรรมกระตุ้นการซื้อขายผ่านช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ ด้วยการจัดการจัดกิจกรรมส่งเสริมการเข้าสู่การค้าออนไลน์ กิจกรรมเผยแพร่ร้านค้าออนไลน์ที่ ได้รับเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือจากกรมฯ และ 3) ด้านการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ (Ecosystem) เน้นการส่งเสริมพัฒนาด้านการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจผ่านช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ เนื่องจากเป็นองค์ประกอบหลักที่จะส่งผลต่อการขยายตัว และการเติบโตในภาพรวมของการประกอบธุรกิจ"
                    อธิบดีกล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากนี้ กรมฯ เตรียมเปิดโครงการอี-คอมเมิร์ซบิ๊กแบง (e-Commerce Big Bang) โดยใช้มาตรการ 3e พัฒนาสภาพแวดล้อมเพื่อเอื้ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ได้แก่ e-Marketplace : ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ส่งเสริมสินค้าของเอสเอ็มอีและชุมชนเข้าสู่ร้านค้าออนไลน์และเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีศักยภาพทางการตลาด และขยายร้านค้าชุมชนสู่การเป็นศูนย์กลางสั่งซื้อสินค้าต่างๆ ในตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่ออำนวยความสะดวกความต้องการบริโภคของชุมชน"
                    "e-Logistic การขนส่ง-กระจายสินค้าด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใช้เทคโนโลยีสร้างศูนย์รวมผู้ให้บริการ โลจิสติกส์ขนส่งและกระจายสินค้าในท้องถิ่น เช่น รถบรรทุกขนาดเล็กรับจ้าง รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง รถโดยสารประจำทางท้องถิ่น และเชื่อมโยงกับร้านค้าชุมชนให้เป็นศูนย์กระจายสินค้า รับฝากการขนส่งสินค้าให้แก่เอสเอ็มอีและชุมชน ส่งผลต่อการสร้างการเติบโตของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในท้องถิ่น ประหยัดต้นทุนและเวลา การขนส่งอย่างเหมาะสม และ e-Portal ศูนย์อำนวยความสะดวกการประกอบธุรกิจครบวงจร / ศูนย์กลางเชื่อมโยง
ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งเมื่อสภาพแวดล้อม (Ecosystem) มีความเหมาะสมในการประกอบธุรกิจย่อมส่งผลต่อการประกอบธุรกิจผ่านช่องทางอี-คอมเมิร์ซ ที่จะเป็นกลไกสำคัญในการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่เอสเอ็มอีและชุมชนอย่างทั่วถึง"
                     "เบื้องต้น กรมฯ ได้ดำเนินการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เอสเอ็มอี ภายใต้เครื่องหมาย DBD Registered และ DBD Verified จำนวนกว่า 30,000 เว็บไซต์ อีกทั้ง ได้ต่อยอดการพัฒนาการค้าออนไลน์ให้เข้าสู่มาตรฐานและสามารถขยายตลาดระดับประเทศ คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 54,000 ล้านบาทต่อปี และยังดำเนินการเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชนเศรษฐกิจฐานราก โดยการพัฒนาร้านค้าชุมชนให้เป็นร้านค้าชุมชนไฮบริด จำนวน 2,000 ร้านค้า คาดว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 3,600 ล้านบาทต่อปี รวมเป้าหมายการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวม 57,600 ล้านบาทต่อปี"
                       ทั้งนี้ ในปี 2559 ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทย มีมูลค่ารวม 2.5 ล้านล้านบาท โดยคาดว่ามูลค่าอี-คอมเมิร์ซไทย จะมีอัตราการขยายตัว ร้อยละ 100 ในปี 2564 หรือมีมูลค่ารวมประมาณ 5 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวแบบขั้นบันไดที่สูง และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซจะเป็นธุรกิจดาวเด่นที่น่าจับตามองตลอดทศวรรษนี้
 
***********************************
ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ/กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์                                                                      ฉบับที่ 19 / วันที่ 4 ธันวาคม 2560