พาณิชย์ดันจันทบุรีเป็น 'HUB' ผลไม้แห่งเอเชีย

พาณิชย์ดันจันทบุรีเป็น 'HUB' ผลไม้แห่งเอเชีย
ใช้ อี-คอมเมิร์ซ สร้างมาตรฐานแบรนด์สินค้าผลไม้จันทบุรีผ่านเว็บ eastfruit
 
                 กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันจันทบุรีเป็นศูนย์กลางทางการค้าผลไม้ออนไลน์ ของภูมิภาคตะวันออกและประเทศ สร้างมาตรฐานแบรนด์สินค้าผลไม้จันทบุรีผ่านร้านค้าออนไลน์ภายใต้ชื่อ www.eastfruit.org โปรโมทผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น
                 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยถึง แนวทางการจัดตั้งตลาด Magnet Market และการเชื่อมโยงผลผลิตผลไม้ว่า กระทรวงพาณิชย์พร้อมสนับสนุนและขับเคลื่อนจังหวัดจันทบุรีให้เป็น "มหานครผลไม้ รวมถึงการจัดทำเว็บไซต์เพื่อจำหน่ายและโปรโมทผลไม้ของจันทบุรี คือ www.eastfruit.org
                  จากแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) ของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมให้เป็นผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซในการขยายตลาดเบื้องต้น พบว่าจังหวัดจันทบุรี มีมูลค่าการขายส่งผลไม้สูงถึง 3 หมื่นล้านบาทต่อปี ซึ่งหากรวมมูลค่าเพิ่มจากการทำตลาดแล้วจะสูงถึง 2 แสนล้านบาท เนื่องจากจันทบุรีมีผลไม้เมืองร้อนเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับโลก รวมถึงมีพรมแดนติดกับกัมพูชา และมีปริมาณการค้าชายแดนที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา จึงมีความเหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาผลผลิตด้านผลไม้ที่มีคุณภาพ สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร
                 สำหรับแนวทางการส่งเสริมของกระทรวงฯ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเข้าไปส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-คอมเมิร์ซ แก่ชาวสวน และกลุ่ม Biz Club จังหวัดจันทบุรี เพื่อพัฒนาตลาดผลไม้อย่างครบวงจร จัดจำหน่ายทั้งในระบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงระบบโลจิสติกส์ นอกจากนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เปิดตัวโครงการ Offline 2 Online @ จันทบุรี สู่ www.eastfruit.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่กรมฯ ได้จัดทำขึ้น เพื่อเป็นตลาดกลางผลไม้ออนไลน์ พร้อมส่งมอบให้จังหวัดจันทบุรีใช้เป็นศูนย์กลางทางการค้าผลไม้ออนไลน์ของจังหวัดจันทบุรีและภูมิภาคตะวันออก ในการโปรโมทผลไม้ไทยให้เป็นที่รู้จักทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น
                นายสนธิรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา และจันทบุรี เพิ่มเติม เพื่อกำหนดแนวทางและรูปแบบการพัฒนาให้มีความเหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภทสามารถพัฒนาทักษะและขยายโอกาสทางการตลาดด้วยระบบการค้าออนไลน์แบบครบวงจรได้เช่นเดียวกัน โดยใช้โมเดลของจังหวัดจันทบุรีเป็นต้นแบบ
                ทั้งนี้ โครงการ Offline 2 Online เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริม พัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มรากหญ้าทั่วประเทศ ให้เข้าสู่ระบบ อี-คอมเมิร์ซโดยเน้นการพัฒนาเกี่ยวกับเทคนิคการตลาดออนไลน์ การสร้างเรื่องราวให้สินค้า การบริหารจัดการการซื้อขายผ่านระบบออนไลน์
                สำหรับผู้สนใจที่ต้องการรับการพัฒนาและขยายตลาดผ่านช่องทาง อี-คอมเมิร์ซ สามารถสมัครได้ที่ http://bit.ly/dbdoff2on หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1570 โทรศัพท์หมายเลข 097-923-9656 หรือ 0-2547-5361 email :offline2online2017@gmail.com และ www.dbd.go.th
 
********************************
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                                                 ฉบับที่ 70 / 27-28 พฤษภาคม 2560