พาณิชย์' จับมือ สภาวิชาชีพบัญชี ร่วมขับเคลื่อน SMEs ไทย ให้รุ่งไกล

พาณิชย์' จับมือ สภาวิชาชีพบัญชี ร่วมขับเคลื่อน SMEs ไทย ให้รุ่งไกล
ใช้มาตรฐานรายงานทางการเงินปิดจุดอ่อนควบคุมรับ-จ่าย วิเคราะห์สภาพคล่องธุรกิจ
มั่นใจ! SMEs ไทยไปต่อได้หากมีรายงานทางการเงินที่ดี บ่งบอกตัวตนที่แท้จริง พร้อมกำหนดอนาคตกิจการ
 
                    กระทรวงพาณิชย์ จับมือ สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างความเข้มแข็งให้ SMEs ไทย แนะใช้รายงานทางการเงินที่ได้มาตรฐานปิดจุดอ่อนควบคุมรายรับ-รายจ่าย วิเคราะห์สภาพคล่องของธุรกิจทุกมิติ เชื่อ!! จุดอ่อนด้านบัญชี-รายงานทางการเงินทำให้ SMEs ไทยไปไม่ถึงฝั่งฝัน เตรียมใช้รายงานทางการเงินสร้างจุดแข็งให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ มั่นใจ!! SMEs ไทยไปต่อได้ หากมีรายงานทางการเงินที่ได้มาตรฐาน สามารถบ่งบอกได้ถึงตัวตนที่แท้จริง พร้อมกำหนดทิศทางอนาคตของกิจการได้
                   นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า "กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายส่งเสริมธุรกิจ SMEs ไทยให้มีความแข็งแกร่ง พร้อมแข่งขันในทุกเวทีการค้า จึงได้วางกรอบการพัฒนา SMEs ไทยอย่างเป็นระบบ พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการ SMEs ของไทยเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ"
                   "ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมกับ สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ไทย นำมาตรฐานการรายงานทางการเงินสำหรับกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม (Thai Financial Reporting Standards for SMEs : TFRS for SMEs) มาใช้ในการจัดทำงบการเงินสำหรับรอบ ปีบัญชี พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป โดยจะช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ เนื่องจาก สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ SMEs ของไทยไม่ประสบความสำเร็จ คือ จุดอ่อนด้านการจัดทำรายงานทางการเงินและระบบบัญชีที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ การละเลยในการจัดทำให้ถูกต้องตามหลักมาตรฐานสากล"
                   "มาตรฐานการรายงานทางการเงิน ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนให้ SMEs มีความเข้มแข็ง เปรียบเสมือนมาตรฐานกลางที่ใช้ในการจัดทำงบการเงินให้แสดงผลการดำเนินงาน ฐานะการเงิน หรือการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงินของ SMEs เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงิน ได้แก่ นักลงทุน ผู้ให้กู้ยืมเงิน และเจ้าหนี้การค้า" 
                   "นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงสภาพความเป็นจริงของกิจการ ความสามารถในการบริหารธุรกิจ ความมีประสิทธิภาพด้านการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ชัดเจน รวมทั้ง แสดงถึงความก้าวหน้าและความเป็นไปเป็นมาของธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการตรวจสอบและการเข้าร่วมลงทุนของนักลงทุนทั่วไป อีกทั้ง เป็นการง่ายต่อการนำเสนอธุรกิจเพื่อพิจารณาสินเชื่อจากสถาบันการเงินเมื่อต้องการแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ รายงานทางการเงินที่ดี ยังเป็นการประเมินศักยภาพของกิจการได้อีกทางหนึ่ง ทำให้เห็นถึงจุดแข็ง-จุดอ่อนหรือจุดบกพร่องต่างๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการกำหนดทิศทางหรือขยายธุรกิจในอนาคต"
                    "ทั้งนี้ หากมาตรฐานการรายงานทางการเงินของ SMEs มีความเป็นสากลและสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างของธุรกรรมทางการเงินของ SMEs ที่ปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น การควบรวมกิจการ การให้หุ้นแก่พนักงาน รวมถึง ข้อกำหนดให้จัดทำงบกระแสเงินสดที่จะมีผลบังคับใช้ในปี พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป จะทำให้กลุ่มผู้ใช้งบการเงินได้รับข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ดีขึ้น ส่งผลให้ SMEs ได้รับความเชื่อมั่น ทั้งจากสถาบันการเงิน ตลอดจนนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้มากขึ้น และสามารถเติบโตเป็นกิจการข้ามชาติได้ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ล้วนมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย"
                    "SMEs ไทยที่จะได้รับประโยชน์จากการนำ TFRS for SMEs มาใช้ คือ SMEs ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีตาม พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัด เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 500,000 ราย โดยแนวทางการส่งเสริมของกรมฯ ให้ SMEs นำ TFRS for SMEs มาใช้ในการจัดทำงบการเงิน ได้แก่ การเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านทางสื่อประชาสัมพันธ์ เช่น e-Learning, e-Magazine และสื่อประชาสัมพันธ์สาธารณะประเภทต่างๆ ตลอดจนจัดโครงการอบรม In-Class Training ให้แก่ SMEs และผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีได้รับทราบ และมีแผนสร้างความร่วมกับสำนักงานบัญชีเครือข่าย เช่น สำนักงานบัญชีคุณภาพ ฯลฯ เพื่อผลักดันให้ SMEs มีการจัดทำบัญชีถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชีต่อไป"
 
*****************************************
ที่มา : กองกำกับบัญชีธุรกิจ                                                                                                         ฉบับที่ 139 / 15 ธันวาคม 2559