กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชวนนิติบุคคลส่งงบการเงิน DBD e-filing แต่เนิ่นๆ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชวนนิติบุคคลส่งงบการเงิน DBD e-filing แต่เนิ่นๆ
เพื่อความคล่องตัว พร้อมแจงหลักเกณฑ์การยื่นงบการเงินปี 2560
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชวนนิติบุคคลมาอบรม DBD e-filing เพื่อเตรียมความรู้ สร้างความพร้อมก่อนลงสนามจริงส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2559 ทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยกรมฯ เดินหน้าปรับปรุงและขยายห้องอบรมให้รองรับกับความต้องการของนิติบุคคล พร้อมเปิดใช้ต้นปี 2560 ที่ใกล้จะถึงนี้ นอกจากนี้ยังประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นงบการเงิน เพื่อให้นิติบุคคลได้ศึกษาและเตรียมตัว ปลื้ม!! ปีที่ผ่านมามีนิติบุคคลส่งงบผ่าน DBD e-filing แล้วถึง 77% คาดเป้าหมายไว้จะมีผู้ใช้บริการครบ 100% คงมีให้เห็นกันเร็วๆ นี้
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมให้กับนิติบุคคลที่มีหน้าที่ต้องนำส่งงบการเงินประจำปี 2560 ต่อกรมฯ ทั้งนิติบุคคลที่มี 'รอบปีบัญชีตามปกติ' (รอบตามปีปฏิทิน 31 ธันวาคม) จะต้องนำส่งงบการเงิน ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 และนิติบุคคลใหม่ที่มี 'รอบปีบัญชีรอบปีแรกตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป จะต้องส่งงบการเงินตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ในช่วงปีที่ผ่านมากรมฯ ได้เปิดให้บริการยื่นคำขอ Username และ Password สำหรับเข้าใช้งานระบบ DBD e-filing (แทนการลงลายมือชื่อของนิติบุคคล) เพื่อนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งถือว่าเป็นเอกสารต้นฉบับ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับนิติบุคคลที่ยัง ไม่เคยส่งงบการเงินด้วยระบบนี้มาก่อนให้นำส่งงบการเงินแบบกระดาษได้ก่อนและต้องส่งผ่านระบบ DBD e-filing อีกครั้ง ภายใน 30 วัน โดยกรมฯจะให้บริการรับรองสำเนางบการเงินที่นำส่งด้วยระบบ DBD e-filing
กรมฯ ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ'Work Shop DBD e-filing' มาอย่างต่อเนื่อง และเดินหน้าสร้างความรู้จนสามารถนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ได้สำเร็จ เพื่อให้นิติบุคคลนำส่งงบการเงินได้ทุกที่ตลอด 24 ชั่วโมง จึงขอเชิญชวนนิติบุคคลเข้าร่วม Work Shop ณ ห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ชั้น 11 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ตั้งแต่ต้นปี 2560 เป็นต้นไป เพื่อให้นำส่งงบการเงินผ่านอิเล็กทรอนิกส์อย่าง เต็มรูปแบบ 100%
สำหรับสาระสำคัญของ "ประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นงบการเงินปี 2560" คือ 1) นิติบุคคลที่ยื่นงบการเงินปีที่ผ่านมาทางระบบ DBD e-filing แล้ว ต้องยื่นทางอิเล็กทรอนิกส์ต่อไป 2) ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีหรือนิติบุคคลตั้งใหม่ที่มีรอบปีบัญชีรอบปีแรกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป ต้องยื่นงบการเงินผ่านทางระบบ DBD e-filing ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด 3) กรณีบริษัทจำกัด นำส่งงบการเงินทางระบบ DBD e-filing ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้สามารถแยกนำส่งบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นได้ไม่ต้องนำส่งพร้อมกับงบการเงินประจำปี 4) กรณียังไม่ได้ส่งงบการเงินผ่าน DBD e-filing จะต้องนำส่งงบแบบกระดาษด้วยตนเองหรือทางไปรษณีย์ภายในระยะเวลาที่กำหนดและจะต้องส่งทาง DBD e-filing อีกครั้งภายใน 30 วัน จึงจะถือว่าเสร็จสมบูรณ์ตามกฎหมาย ทั้งนี้ หากในครั้งแรกได้ยื่นงบการเงินผ่านทางระบบ DBD e-filing อย่างถูกต้องสมบูรณ์แล้วให้ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการตามกฎหมาย โดยไม่จำเป็นต้องส่งงบแบบกระดาษซ้ำอีกครั้งและ 5) หากไม่นำส่งงบการเงินทาง DBD e-filing จะถูกระบุข้อความบนหน้า ส.บช.3 ว่า "นิติบุคคลนี้ยังไม่ได้ส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์"
จากข้อมูลสถิติการนำส่งงบการเงินรอบปีที่ผ่านมา ที่มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินรวมทั้งสิ้น 473,034 ราย พบว่ามีนิติบุคคลมากถึง 362,651 ราย (คิดเป็น 77%) ที่นำส่งงบการเงินด้วยระบบ e-Filing และมีนิติบุคคลเพียง 110,383 ราย (คิดเป็น 23%) ที่นำส่งงบการเงินด้วยวิธีการเดิม ซึ่งกรมฯ ต้องขอขอบคุณนิติบุคคลและผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีทุกรายที่ให้ความร่วมมือกับกรมฯ เป็นอย่างดีเสมอมา ทั้งนี้ การส่งงบการเงินด้วยระบบ e-Filing จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการเองที่ธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าถึงข้อมูลทางด้านการเงินของผู้ประกอบการผ่านการให้บริการและการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์คลังข้อมูลธุรกิจของกรมฯ เพื่อพิจารณาสินเชื่อทางธุรกิจได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว รวมถึงการพัฒนาประเทศที่ระบบ e-Filing จะเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันทางการค้าให้มีความเข็มแข็งทัดเทียมระดับสากล
สำหรับการนำส่งงบการเงินประจำปี 2560 นั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอเชิญชวนให้นิติบุคคลหรือผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีนำส่งงบการเงินด้วยระบบ e-Filing ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความหนาแน่น (overload) จากการใช้งานระบบ e-Filing ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายที่คาดว่าปีนี้จะมีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นจากปีที่แล้วเป็นจำนวนมาก สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4376-78, 0 2547 4385, 0 2547 4390-91
*******************************************************
ที่มา : กองข้อมูลธุรกิจ ฉบับที่ 122 / 18 ตุลาคม 2559