ธุรกิจไทยใสสะอาด...มุ่งสู่ธรรมาภิบาลเต็มขั้น หลังตรวจเข้มพบทำผิดน้อยลง เหตุธุรกิจกลับใจ หวั่น!! ติด Black List
ธุรกิจไทยใสสะอาด...มุ่งสู่ธรรมาภิบาลเต็มขั้น
หลังตรวจเข้มพบทำผิดน้อยลง เหตุธุรกิจกลับใจ หวั่น!! ติด Black List
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยสถิติผลการตรวจสอบบัญชีและงบการเงินของ ธุรกิจย้อนหลัง 3 ปี พบธุรกิจไทยสะอาด สดใสมากขึ้น หลังจากที่กรมฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบและเอาผิดอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็น การระบุหมายเหตุ การขึ้นบัญชีดำ และส่งต่อข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม เอาผิดด้วย เชื่ออนาคตธุรกิจไทยจะดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและกลายเป็นธุรกิจสีขาวทั้งหมด!!
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า แม้ว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะได้พัฒนาระบบการจดทะเบียนและอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจได้โดยสะดวกและง่ายมากยิ่งขึ้นจากในอดีตที่ผ่านมา โดยตัดลดขั้นตอนและการยื่นเอกสารที่ไม่จำเป็นออกไปทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น แต่อีกด้านหนึ่งเมื่อธุรกิจได้ก่อร่างเป็นนิติบุคคลเรียบร้อยแล้ว กรมฯ ยังต้องส่งเสริมให้ดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลควบคู่กับการสอดส่องและควบคุมดูแลธุรกิจที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องกฎหมาย
ในปี 2559 กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีแผนจะดำเนินการตรวจสอบบัญชีและงบการเงินของธุรกิจ กว่า 300,000 ราย ซึ่งจากข้อมูลในช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจที่เคยกระทำผิดกฎหมายในปีที่ผ่านมา ได้ปรับปรุงแก้ไขการดำเนินธุรกิจที่ผิดพลาดให้กลับเข้าสู่ระบบธรรมาภิบาลมากขึ้น ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ 'กรมฯ บังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจัง' และเอาผิดธุรกิจที่ละเมิดกฎหมายให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมอาทิ 'การระบุหมายเหตุ' ในหนังสือรับรองเพื่อเตือนให้ผู้ที่จะดำเนินธุรกิจร่วมกับนิติบุคคล รายดังกล่าวได้มีข้อสังเกตและต้องระมัดระวังมากยิ่งขึ้น 'การขึ้นทะเบียน Black List' ของกรมฯ ปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 7,841 ราย โดยกรมฯ จะติดตามความเคลื่อนไหวของธุรกิจดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโทษสูงสุดของการกระทำผิดกฎหมายบัญชีคือ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตลอดจนการ 'ส่งต่อข้อมูล' ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมสรรพากร สำนักงานปปช. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป สำหรับธุรกิจที่ฝ่าฝืนคำสั่งสารวัตรใหญ่บัญชี/สารวัตรบัญชีในการตรวจสอบบัญชีธุรกิจช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และได้ดำเนินคดีไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 42,183 ราย แบ่งเป็นปี 2556 จำนวน 12,466 ราย ปี 2557 จำนวน 12,859 ราย และปี 2558 จำนวน 16,858 ราย
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบกลุ่มธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนสูงเกินกว่า 5 ล้านบาท และต้องแสดง Bank Statement ต่อนายทะเบียนยืนยันสถานะทางการเงินภายในระยะเวลาที่กำหนดเพื่อเป็นการสร้างความโปร่งใสในการประกอบธุรกิจ พบว่า มีธุรกิจบางส่วนที่ยังขัดขืนไม่แสดงหลักฐานเกี่ยวกับทุนจดทะเบียนดังกล่าว ซึ่งกรมฯ จะต้องเข้าไปตรวจสอบการจัดทำบัญชีของธุรกิจเหล่านั้น และหากรายใดยังคงฝ่าฝืนคำสั่งสารวัตรบัญชีก็จะต้องดำเนินการทางกฎหมายที่เข้มข้นต่อไป ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูล หรืองบการเงินของนิติบุคคลได้จากเว็บไซด์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th หัวข้อ "คลังข้อมูลธุรกิจ" และสำหรับ Application DBD e-Service ยังเพิ่มเติมบริการตรวจค้นข้อมูลร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ อีกด้วย
-------------------------------------------------
ที่มา : กองตรวจสอบบัญชีธุรกิจ ฉบับที่ 49 / 12 เมษายน 2559