รมช.สินิตย์ เข้ม!! สั่งการ 'ตรวจนอมินี' ทั้งก่อนและหลังจัดตั้งนิติบุคคลปี '64 - '65 พบนิติบุคคลที่อาจกระทำผิดในลักษณะนอมินี 148 รายส่ง DSI สืบสวนสอบสวนเชิงลึก..ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
รมช.สินิตย์
เข้ม!! สั่งการ 'ตรวจนอมินี' ทั้งก่อนและหลังจัดตั้งนิติบุคคลปี '64 - '65 พบนิติบุคคลที่อาจกระทำผิดในลักษณะนอมินี 148 รายส่ง DSI
สืบสวนสอบสวนเชิงลึก..ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
รมช.สินิตย์ สั่งการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจนิติบุคคลเข้ม
ทั้งก่อนและหลังการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล
ป้องปรามธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี เผยปี 2564 -
2565 พบนิติบุคคลที่อาจกระทำผิดในลักษณะนอมินี
148 ราย จาก 3 ธุรกิจ *
ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว * ธุรกิจค้าที่ดิน อสังหาริมทรัพย์
การถือครองอสังหาริมทรัพย์ * ธุรกิจบริการ ...ส่ง DSI สืบสวนสอบสวนเชิงลึก
พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
นายสินิตย์
เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "การกระทำความผิดเกี่ยวกับการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว
(นอมินี) ส่วนใหญ่เกิดจากการที่มีคนไทยยอมรับผลประโยชน์ หรือสมยอม
หรือที่ปรึกษากฎหมายแนะนำให้หลีกเลี่ยงกฎหมาย นอมินีเป็นปัญหาใหญ่ระดับประเทศที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ของประเทศในวงกว้าง
หากไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้จะทำให้ไทยเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและสูญเสียรายได้เป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดแนวทางการป้องปรามธุรกิจที่มีลักษณะนอมินี ทั้งก่อนและหลังการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล
กล่าวคือ ก่อนจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคล กำหนดให้ส่งเอกสารที่ธนาคารออกให้เพื่อรับรองหรือแสดงฐานะการเงินของผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นคนไทยที่ลงทุนหรือถือหุ้นในนิติบุคคลร่วมกับคนต่างด้าว
เพื่อแสดงความน่าเชื่อถือว่าคนไทยที่ร่วมลงทุนมีฐานะทางการเงินที่สามารถลงทุนเองได้
และภายหลังจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะจัดทำข้อมูลนิติบุคคลกลุ่มเสี่ยง
และกำหนดเป็นแผนงานโครงการประจำปีเพื่อดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกต่อไป
ซึ่งบางกรณีอาจมีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(DSI) ตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว ฯลฯ เป็นต้น
กระทรวงพาณิชย์
โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีการดำเนินการตรวจสอบคนไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี)
หรือ มีการสนับสนุนให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542
การตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการถือหุ้นแทนคนต่างด้าวนั้น
ได้พิจารณาลักษณะพฤติกรรมและข้อบ่งชี้หลายด้าน
เช่น ธุรกิจที่มีคนต่างด้าวลงทุนหรือถือหุ้นไม่ถึงร้อยละ 50 แต่ให้คนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจกระทำการ หรือให้สิทธิการออกเสียงลงคะแนน
การจ่ายเงินปันผล การแบ่งคืนทุนเมื่อเลิกกิจการแก่คนต่างด้าวมากกว่าคนไทย
นอกจากนี้ แหล่งที่มาของเงินที่ใช้ในการประกอบธุรกิจเป็นการกู้ยืมจากคนต่างด้าว หรือมีการกู้ยืมหรือให้กู้ยืมเงินแก่คนต่างด้าว โดยมีเงื่อนไขที่ผิดปกติในทางการค้าหรือทางธุรกิจการเงินทั่วไป
เป็นต้น
ปี
2564 - 2565 กรมฯ ได้ตรวจสอบนิติบุคคลไทยที่มีคนต่างด้าวร่วมถือหุ้นที่อาจมีลักษณะนอมินี
โดยมีเป้าหมาย 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1) ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับท่องเที่ยว 2) ธุรกิจค้าที่ดิน
อสังหาริมทรัพย์ การถือครองอสังหาริมทรัพย์
และ 3) ธุรกิจบริการ ผลการตรวจสอบพบนิติบุคคลที่อาจกระทำผิดในลักษณะนอมินี จำนวนทั้งสิ้น 148 ราย (จ.ภูเก็ต 140 ราย
จ.เชียงใหม่ 4 ราย จ.สุราษฎร์ธานี 3 ราย และกรุงเทพมหานคร 1 ราย) โดยตรวจพบกรณีบุคคลมีชื่อเป็นผู้ถือครองหุ้นในหลายบริษัท
ซึ่งเมื่อประเมินความสามารถในการถือหุ้นหรือการลงทุนของผู้ถือหุ้นดังกล่าวแล้วเป็นที่น่าสงสัยว่าอาจมีการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว
กรมฯ ได้นำส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทำการสืบสวนสอบสวนในเชิงลึก ซึ่งขณะนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนการกระทำความผิดกลุ่มบุคคลดังกล่าว
และอีกกลุ่มหนึ่งมีพฤติกรรมอันน่าสงสัยว่ามีคนไทยให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน
หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมและสรุปผลก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับปี
2566 กรมฯ ได้มีการกำกับดูแลและตรวจสอบธุรกิจที่มีลักษณะนอมินีอย่างต่อเนื่อง
และจะตรวจสอบธุรกิจที่ปัจจุบันเป็นข่าวพบกลุ่มชาวต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย
โดยอาศัยนอมินีคนไทยเพิ่มเติมด้วย ซึ่งนอกจากจะมีการตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมายแล้ว
ยังได้เสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับกฎหมายเพื่อให้นิติบุคคลต่างด้าวมีความเข้าใจพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
พ.ศ. 2542 ระเบียบขั้นตอนแนวทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
สาระสำคัญของกฎหมาย ธุรกิจที่ห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจ ตลอดจน โทษที่จะได้รับหากมีการฝ่าฝืนกฎหมาย
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
และกำกับดูแลให้ธุรกิจมีธรรมาภิบาลปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ท้ายนี้ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน
หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าว เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย
คนไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในลักษณะนอมินี รวมทั้ง กรรมการบริษัทก็ต้องรับผิดด้วย โดยมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 - 1,000,000
บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ 10,000 - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน" รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย
#SuperDBD
***********************************
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองธรรมาภิบาลธุรกิจ ฉบับที่156 / วันที่ 22 พฤศจิกายน 2565