การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2565 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
การจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนสิงหาคม 2565
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นายทศพล ทังสุบุตร
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนสิงหาคม 2565 โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ผลการจดทะเบียนธุรกิจ
ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนสิงหาคม
2565
- จำนวนธุรกิจจัดตั้งใหม่
มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ทั่วประเทศในเดือนสิงหาคม
2565 จำนวน 7,418 ราย
โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 24,393.41 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน
652 ราย คิดเป็น 9% รองลงมา คือ
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 489 ราย คิดเป็น 6% และอันดับ 3
คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 337 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ
- ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด
ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน
1 ล้านบาท มีจำนวน 5,032 ราย คิดเป็น 67.83%
รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 2,266 ราย คิดเป็น 30.55% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 105 ราย คิดเป็น 1.42% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 15 ราย
คิดเป็น 0.20% ตามลำดับ
ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนสิงหาคม 2565
- จำนวนธุรกิจเลิกประกอบกิจการ ประจำเดือนสิงหาคม 2565 มีจำนวน 1,941 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนเลิกประกอบกิจการจำนวน 12,503.99 ล้านบาท
- ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน
181 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 92 ราย คิดเป็น 5% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 60 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ
- ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,369 ราย คิดเป็น 70.53% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 471 ราย คิดเป็น 24.27% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 94 ราย คิดเป็น 4.84% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 7 ราย คิดเป็น 0.36% ตามลำดับ
ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่
ณ เดือนสิงหาคม 2565
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น (ณ
วันที่ 31 ส.ค. 65) ธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 849,410 ราย มูลค่าทุน 20.39 ล้านล้านบาท
จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 203,074 ราย คิดเป็น 23.91% บริษัทจำกัด จำนวน 644,971 ราย คิดเป็น 75.93% และบริษัทมหาชนจำกัด
จำนวน 1,365 ราย คิดเป็น 0.16% ตามลำดับ
- ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1
ล้านบาท จำนวน 502,894 ราย คิดเป็น 59.20% รวมมูลค่าทุน 0.44 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.16% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 253,874 ราย
คิดเป็น 29.89% รวมมูลค่าทุน 0.86 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.22% ช่วงถัดไปคือ
ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 75,608 ราย คิดเป็น 8.90% รวมมูลค่าทุน
2.07 ล้านล้านบาทคิดเป็น 10.15% และช่วงทุนมากกว่า
100 ล้านบาท จำนวน 17,034 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน
17.02 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.47% ตามลำดับ
การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าว
เดือนสิงหาคม 2565
- เดือนสิงหาคม 2565 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 58 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 39 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,647 ล้านบาท เป็นผลให้ในปี 2565 (มกราคม - สิงหาคม 2565) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น จำนวน 381 ราย เพิ่มขึ้น 15% เงินลงทุน 83,282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (มกราคม - สิงหาคม 2564)
- นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด 3 สัญชาติแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 14 ราย เงินลงทุน 3,927 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จำนวน 9 ราย
เงินลงทุน 49 ล้านบาท และสิงคโปร์ จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 96 ล้านบาท ตามลำดับ
*******************************
การให้บริการทางอิเล็กทรอนิกส์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เดือนสิงหาคม 2565
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล และ
พ.ร.บ. การอำนวยความสะดวก เพื่อลดต้นทุน ลดเวลา และลดการใช้กระดาษ
โดยพัฒนางานบริการทุกกระบวนการของกรมผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ใช้บริการยื่นขอรับบริการได้ทุกที่
ทุกเวลาได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว และประกาศกรมเรื่องการให้บริการในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
การบริการหนังสือรับรองข้อมูลนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์และผลักดันการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ได้ยกระดับการเป็นหน่วยงานรัฐบาลดิจิทัล โดยการใช้ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์
(Digital Signature) มาให้บริการ ซึ่งการบริการ e-Service เป็นการบริการขอหนังสือรับรองผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยในปี 2565 (ม.ค. - ส.ค.) มีจำนวนขอรับข้อมูล 2,453,736 ราย ซึ่งผ่านช่องทาง Self Pick up มีจำนวน 1,163,186
ราย, EMS จำนวน 297,051 ราย , Delivery จำนวน 17,491 ราย
และการออกหนังสือรับรองรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate
File) จำนวน 976,008 ราย และรองรับการให้บริการหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติและสมาคมการค้า
หนังสือรับรองภาษาอังกฤษ ทั้งนี้ การขอรับบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากผ่านทาง www.dbd.go.th แล้ว
สามารถขอรับบริการผ่านทาง Application DBD
e- Service ได้ทั้งระบบ Android
และ iOS
การให้บริการขอหนังสือรับรอง
และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคล ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ส่วนกลาง) และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้า เขต 1-6 ให้ขอรับบริการได้เฉพาะทางอิเล็กทรอนิกส์
(DBD e-Service) ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
(www.dbd.go.th) มาตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน
2563
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ขยายเวลาการลดอัตราค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน การขอตรวจเอกสาร
การขอสำเนาเอกสารพร้อมคำรับรอง
และค่าธรรมเนียมอื่นเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนและบริษัทลง 50% สำหรับห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด
ที่มีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เขตพัฒนาเฉพาะกิจ
(พื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลาเฉพาะในท้องที่อำเภอจะนะ
อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย และจังหวัดสตูล) ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่
31 ธันวาคม 2563 ให้ขยายไปสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2566
DBD e - Filing
การนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี 2564 ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2565 มีนิติบุคคลนำส่งงบการเงินแล้ว จำนวน 612,507 ราย คิดเป็น 80%
ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงิน โดยนำส่งผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD
e-Filing) จำนวน 609,251
ราย คิดเป็น 99% และนำส่งในรูปแบบกระดาษ จำนวน 3,256 ราย
คิดเป็น 1% กรมจึงขอประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจ สมาคมการค้า
หอการค้า ทียังไม่ได้นำส่งงบการเงินประจำปี 2564 ให้นำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD
e-Filing) เป็นหลัก เช่นเดียวกับ
การนำส่งงบการเงินของนิติบุคคลที่มีรอบปีบัญชีสิ้นสุดปี
ทั้งนี้การนำส่งงบการเงินและบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นสามารถนำส่งได้ทุกที่ ทุกเวลา
และสามารถตรวจสอบข้อมูลงบการเงินผ่าน DBD Data Warehouse หรือ
DBD Service ผ่าน Application ได้อย่างรวดเร็ว
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าทางธุรกิจ และสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลงบการเงินประกอบการทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างรวดเร็ว
โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าระบบ DBD e-Filing
จะเป็นหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนและสนับสนุนภาคธุรกิจไทยให้ก้าวสู่การค้าในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเป็นรูปธรรม
e-Certificate บริการระบบหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
ผ่านธนาคาร
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการพัฒนาต่อยอดระบบการให้บริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่ปี
2555 และผ่านการรับรองระบบพิมพ์ออกฯ จากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
(สพธอ.) จึงเป็นนวัตกรรมที่สามารถบริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง สะดวก
รวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
ทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับบริการ ณ
สาขาธนาคารใกล้บ้านที่เข้าร่วมโครงการได้รวมทั้งสิ้น 9
ธนาคาร จำนวน 3,226 สาขา
e-Secured จดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ได้เปิดให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร
ผ่าน Web Application และ Web
Service แบบ Host to Host และชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
(e-Payment) และออกใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt)
โดยเจ้าพนักงานทะเบียนลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) รวมถึงสามารถตรวจค้นข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ
ผ่านเว็ปไซต์ www.dbd.go.th และ Application : DBD
e-service ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
และผ่านเว็ปไซต์ Biz Portal ของสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
(สพร.)
ตั้งแต่ 4
กรกฎาคม 2559 จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2565 มีการจดทะเบียสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ
จำนวน 711,764 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 13,822,680
ล้านบาท
โดยมีการนำทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและใช้ประกอบธุรกิจมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจได้โดยไม่ต้อง
ส่งมอบทรัพย์สิน
สำหรับเดือนสิงหาคม
2565 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 6,846 คำขอ
มูลค่าทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกัน จำนวน 321,981 ล้านบาท โดยทรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ
มากที่สุด ได้แก่ สิทธิเรียกร้อง เช่น บัญชีเงินฝาก ลูกหนี้การค้า สิทธิการเช่า
คิดเป็นร้อยละ 93.58
(มูลค่า 301,315 ล้านบาท) รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ
เช่นเครื่องจักร สินค้าคงคลัง คิดเป็นร้อยละ 6.41 (มูลค่า 20,648 ล้านบาท) กิจการ มีการจดทะเบียน
คิดเป็นร้อยละ 0.01 (มูลค่า 18 ล้านบาท) ทั้งนี้
มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 522 คำขอ
และจดทะเบียนยกเลิกสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 3,233
คำขอ โดยมีผู้รับหลักประกัน จำนวนทั้งสิ้น
369 ราย
e-Registration การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
การจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2560 - 31 สิงหาคม 2565 มีการยืนยันการใช้งาน (Activate) จำนวน 148,230 ราย รับจดทะเบียน 162,492 ราย
ซึ่งกรมได้มีการเตรียมการพัฒนาระบบให้อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น
ทั้งด้านการยืนยันตัวตนนิติบุคคลและการใช้ระบบงาน รวมถึงการเชื่อมโยงเพื่อสร้างความพร้อมในการดำเนินธุรกิจให้แก่ SME ทั้งด้านการเงินและซอฟแวร์
รวมทั้งการให้บริการสำเนาเอกสารทะเบียนนิติบุคคลรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ของนิติบุคคลที่จดทะเบียนผ่านระบบ
e-Registration
นอกจากนั้นในวันที่
4 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา กรมได้เปิดบริการการจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์
ผ่านระบบ e-Registration ในสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 5 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี เชียงใหม่ ชลบุรี สุราษฎร์ธานี
อุดรธานี เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน
และนิติบุคคลที่มีสำนักงานแห่งใหญ่อยู่ในจังหวัดนั้น
DBD Connect เชื่อมระบบบัญชีสู่การยื่นงบการเงินออนไลน์ (DBD e-Filing)
กรมฯ ร่วมกับผู้ผลิตซอฟแวร์บัญชีชั้นนำของประเทศ
จำนวน 16 ราย (20 โปรแกรม) พัฒนาการเชื่อมโยงซอฟต์แวร์บัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
(DBD e-Filing) แบบอัตโนมัติ
ผ่านระบบ DBD Connect อำนวยความสะดวกการจัดทำบัญชีและงบการเงินสำหรับนักบัญชีให้สามารถนำส่งงบการเงิน ในรูปแบบ XBRL ที่เชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีพร้อมนำส่งงบการเงินผ่าน
DBD e-Filing ได้โดยตรง และไม่ต้องกรอกข้อมูลงบการเงินซ้ำ
การบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร
(Total Solution
for SMEs) และ e-Accounting for SMEs
Total Solution for SMEs เป็นการขับเคลื่อน SMEs
ด้วยนวัตกรรม โดยส่งเสริมให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในการบริหารจัดการธุรกิจที่ครบวงจรได้โดยง่าย เปลี่ยน Traditional SMEs เป็น Smart SMEs ซึ่งกรมได้รวบรวมโปรแกรมด้านการบริหารจัดการทั้ง
3 ภาคส่วนไว้ด้วยกันคือ โปรแกรมสำนักงาน (Office) โปรแกรมหน้าร้าน (POS) โปรแกรมบัญชี online (Cloud Accounting)
ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 25 โปรแกรม
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้แจกฟรี "โปรแกรม e-Accounting for
SMEs" ซึ่งเป็นโปรแกรมหน้าร้าน (POS)
ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการค้าขาย เช่น
มี Scanner เพื่อซื้อขายสินค้าในตัว
, มีฐานข้อมูลของสินค้ามากกว่า 10,000 รายการ เป็นต้น
โดยร้านค้าสามารถสมัครขอใช้งานโปรแกรม e-Accounting
for SMEs ได้ผ่านทางโครงการ Total Solution for SMEs หรือดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store ในระบบ Android
DBD Data Warehouse
กรมได้พัฒนาระบบสารสนเทศให้มีความสมบูรณ์หลากหลาย
และสามารถจัดทำผลวิเคราะห์
เพื่อเผยแพร่ข้อมูลธุรกิจ ประกอบด้วยข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลและวิเคราะห์งบการเงิน
ข้อมูลซัพพลายเออร์ลูกค้า คู่ค้าทางธุรกิจ ข้อมูลโอกาสทางธุรกิจ
ข้อมูลการลงทุนจากต่างชาติในนิติบุคคลไทย รวมทั้งข้อมูลสถิติการจดทะเบียนนิติบุคคล ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้ SMEs สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล
พร้อมทั้งนำข้อมูลธุรกิจไปสนับสนุนการตัดสินใจในการประกอบธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
โดยในเดือนสิงหาคม 2565 มีผู้ใช้บริการจำนวนทั้งสิ้น
1,015,385 ครั้ง และในปี 2565 (มกราคม
- สิงหาคม) มีจำนวนผู้ใช้งานสะสม 9,330,723 ราย
****************************
ที่มา
: กองข้อมูลธุรกิจ ฉบับที่ 133
/ 28 กันยายน 2565