พาณิชย์ เตรียมขีดชื่อนิติบุคคล 2,768 รายเป็นสถานะร้าง เหตุ!! ไม่ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น เตือนประชาชนจะร่วมทำธุรกิจต้องเช็คข้อมูลให้แน่ใจก่อน

พาณิชย์ เตรียมขีดชื่อนิติบุคคล 2,768 รายเป็นสถานะร้าง เหตุ!! ไม่ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้น

เตือนประชาชนจะร่วมทำธุรกิจต้องเช็คข้อมูลให้แน่ใจก่อน

          กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ออกประกาศจะขีดชื่อนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวน 2,768 ราย เหตุ!! ไม่ชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นภายหลังจดทะเบียนเลิก รวมถึงกำหนดจะขีดชื่อนิติบุคคลจำนวนนี้ให้เป็นสถานะร้างสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ออกประกาศ ทั้งนี้ เพื่อปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน และปิดช่องว่างมิจฉาชีพที่จะนำความน่าเชื่อถือของนิติบุคคลไปหลอกลวงภาคธุรกิจและประชาชน

           นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างการปรับปรุงฐานข้อมูลนิติบุคคลให้เป็นปัจจุบัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจแก่ภาคธุรกิจและประชาชนที่เข้ามาตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล รวมถึง ป้องกันความเสียหายจากกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบอ้างความน่าเชื่อถือจากการจดทะเบียนนิติบุคคลไปหลอกลวงและแสวงหาประโยชน์ โดยนิติบุคคลนั้นไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายจริง ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2565 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกประกาศสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร เรื่อง จะขีดชื่อห้างหุ้นส่วนบริษัทออกจากทะเบียน จำนวน 2,768 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นนิติบุคคลที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร สำหรับนิติบุคคลที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด กรมฯ ได้ประสานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดให้ดำเนินการตรวจสอบและปฏิบัติในทิศทางเดียวกัน

        สำหรับนิติบุคคลจำนวน 2,768 ราย ที่จะถูกขีดชื่อในครั้งนี้ กรมฯ ได้พิจารณาจากมูลเหตุหรือข้อสันนิษฐาน คือ กรณีจดทะเบียนเลิกแล้วแต่ไม่มีตัวผู้ชำระบัญชีทำการอยู่ หรือไม่ได้จัดทำรายงานการชำระบัญชี หรือไม่ได้ยื่นจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีต่อนายทะเบียนภายในระยะเวลา 3 ปี นับแต่เลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท

          รมช.พณ. กล่าวต่อว่า หากพ้นกำหนดเวลา 90 วันนับแต่วันที่ออกประกาศ นิติบุคคลดังกล่าวจะถูกขีดชื่อออกจากทะเบียนและสิ้นสภาพนิติบุคคล เว้นแต่จะแสดงเหตุให้เห็นเป็นอย่างอื่น เช่น นิติบุคคลได้ยื่นรายงานการชำระบัญชีหรือยื่น            จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีแล้ว หรือหน่วยงานราชการขอระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียน เป็นต้น อย่างไรก็ดี แม้นิติบุคคลจะมีสถานะร้างและสิ้นสภาพการเป็นนิติบุคคลไปแล้ว แต่ความรับผิดชอบของหุ้นส่วนผู้จัดการ ผู้เป็นหุ้นส่วน กรรมการ ผู้จัดการ และผู้ถือหุ้น ยังคงมีอยู่ และอาจคืนสู่ทะเบียนได้โดยการร้องขอต่อศาลภายใน 10 ปี นับแต่วันที่นายทะเบียนขีดชื่อออกจากทะเบียน สำหรับประชาชนที่ต้องการจะตรวจสอบรายชื่อนิติบุคคลที่เข้าข่ายจะถูกขีดชื่อสามารถดูข้อมูลได้ที่เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th >> หัวข้อ คู่มือทำธุรกิจ >> เลือกจดทะเบียนธุรกิจ >> ประกาศถอนทะเบียนร้างและคืนสู่ทะเบียน

          การปรับปรุงฐานข้อมูลสถานะของนิติบุคคลถือเป็นภารกิจสำคัญที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินการต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของข้อมูลนิติบุคคล อันจะส่งผลต่อการวิเคราะห์การเจริญเติบโตในภาคธุรกิจ และตัดโอกาสการถูกหลอกลวงของประชาชนจากมิจฉาชีพ ดังนั้น ขอฝากไปยังนิติบุคคลต่างๆ ว่าจะต้องปฏิบัติตัวตามกฎหมายอย่างถูกต้อง ซึ่งการจัดทำงบการเงินประจำปีและยื่นต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าถือเป็นหน้าที่สำคัญของนิติบุคคล

 รวมถึง กรณีที่นิติบุคคลมีความจำเป็นต้องยุติประกอบธุรกิจ ก็ยังคงมีหน้าที่ในการจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีให้เสร็จสิ้นเช่นกัน ท้ายนี้ การศึกษาคู่ค้าหรือการเลือกลงทุนกับธุรกิจใดจำเป็นต้องตรวจสอบข้อมูลหรือสถานะของนิติบุคคลอย่างละเอียดรอบคอบก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาดหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยภาคธุรกิจและประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th >> บริการออนไลน์ >> DBD Datawarehouse+ หรือ แอปพลิเคชัน DBD e-Service โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ" รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้าย

 

#PoweredByDBD

****************************************

ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ                   ฉบับที่ 119 / วันที่ 25 สิงหาคม 2565