พาณิชย์ เร่งเสริมศักยภาพธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ
พาณิชย์ เร่งเสริมศักยภาพธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์
หนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
จัดสัมมนาหลักสูตร "เพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทยด้วย Data Analytic โดยการใช้ MS
Power BI ครั้งที่ 1" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเชิงพาณิชย์และระบบโลจิสติกส์สมัยใหม่
มาช่วยพัฒนาสินค้าและบริการให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ
นายทศพล
ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยว่า การทำธุรกิจในปัจจุบัน
ไม่ใช่แค่มีแผนการตลาดดีเยี่ยม หรือมีทีมขายที่เก่ง แต่ยังรวมถึงการใช้ข้อมูลทางธุรกิจมาวิเคราะห์
เชื่อมโยงข้อมูล และใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีอยู่
ปัจจุบันธุรกิจได้ใช้ Data Analytics เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้มาช่วยด้านกลยุทธ์การตลาด กลยุทธ์การบริหารองค์กร
การวางแผนธุรกิจ การดูแลลูกค้า
เพราะหากธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูล หาความสัมพันธ์ของข้อมูลและความต้องการของคู่ค้า-ลูกค้า
นำมาใช้ประโยชน์จะทำให้ธุรกิจนั้นได้เปรียบคู่แข่งทันที
ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยต้องปรับตัวและเปลี่ยนวิธีคิดใหม่
ปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัยสอดคล้องต่อการเปลี่ยนแปลง
มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม รวมถึงข้อมูลสารสนเทศเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์และบริหารจัดการธุรกิจ
เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้สามารถแข่งขันได้
ดังนั้นการใช้ Data Analytics จึงถือเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการนำองค์กรสู่ความเป็นองค์กรแห่งอนาคต
การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อนำมาใช้ทำการตลาดยุคดิจิทัล (Digital Marketing) ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญลำดับต้นๆ
ในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
เพื่อรองรับธุรกิจยุคดิจิทัลที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงจัดสัมมนาหลักสูตร
เพิ่มศักยภาพโลจิสติกส์ไทยด้วย Data Analytic โดยใช้ MS Power BI ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 9 - 10
มีนาคม 2565
ณ โรงแรมแคนทารี อมตะ บางปะกง จังหวัดชลบุรี ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการบริหารธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ยุคดิจิทัล
การประยุกต์ใช้โปรแกรม BI (Business Intelligence) ด้านการเงินและการบัญชี ด้านการขาย ด้านงานบุคคล และด้านการบริหารทรัพย์สินในองค์กร เป็นต้น
ธุรกิจจะประสบความสำเร็จได้นั้น
นอกจากจะมีการวางแผนที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการต้องมีความตื่นตัว มีไหวพริบพร้อมแก้ปัญหา
และรับมือกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญคือการนำ "ข้อมูล" ที่มีอยู่มาใช้ในเชิงวิเคราะห์
เพื่อวางแผนในการพัฒนาองค์กร ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับลูกค้า
และหน่วยงานภายในองค์กรได้อย่างรวดเร็ว เสริมประสิทธิภาพการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น
อธิบดีกล่าวสรุป
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565) มีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ทั่วประเทศ
จำนวนทั้งสิ้น 31,243 ราย นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์จะได้รับการพัฒนาธุรกิจของตนเองได้อย่างถูกจุดและตรงตามความต้องการของตลาดยุคดิจิทัล
ผู้สนใจเข้าร่วมอบรม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนส่งเสริมธุรกิจโลจิสติกส์
กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5955 สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
#PoweredByDBD
******************************************************************
ที่มา
: กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ฉบับที่ 35 / วันที่ 9 มีนาคม 2565