กรมพัฒน์ฯ จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าต่อยอดแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เฟส 2 ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 500 ล้านบาท

กรมพัฒน์ฯ จับมือกรมส่งเสริมสหกรณ์ เดินหน้าต่อยอดแพลตฟอร์มกลาง 

"เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เฟส 2 ตั้งเป้ายอดขายทะลุ 500 ล้านบาท 

    

       กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและกรมส่งเสริมสหกรณ์ในฐานะประธานอนุกรรมการร่วมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เร่งเครื่องเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ตามนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) โดยการต่อยอดผลักดันกว่า 100 กลุ่มเกษตรกรนำสินค้าขึ้นจำหน่ายบนแพลตฟอร์มฯ ตั้งเป้ายอดขายทั้งในและต่างประเทศทะลุ 500 ล้านบาท 

     นางรวีพรรณ  ช้างเย็นฉ่ำ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2565   ตน และนายอัชฌา สุวรรณนิตย์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะผู้แทนประธานอนุกรรมการร่วมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วม เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต ครั้งที่ 1/2565 ณ ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้รายงานความสำเร็จของการดำเนินงานระยะนำร่องในปี 2564 ที่ผ่านมา โดยได้จัดให้มีแพลตฟอร์มกลางเป็นหน้าเฉพาะ "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" บนแพลตฟอร์ม Thaitrade.com ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และแพลตฟอร์ม Phenixbox.com ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) พร้อมทั้งคัดเลือกสินค้าจากสหกรณ์การเกษตรคุณภาพ 26 สหกรณ์ ขึ้นจำหน่ายเพื่อส่งเสริมขายในรูปแบบ B2B (Business to Business) ไปยังผู้ซื้อรายใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนไฮไลท์สำคัญของปีที่ผ่านมาคือการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Online Business Matching) ระหว่างสหกรณ์การเกษตรและผู้ซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เกิดคู่เจรจาธุรกิจรวม 100 คู่เจรจา เกิดมูลค่าการซื้อขาย 82,460,000 บาท ซึ่งผลเป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก"

    "สำหรับในปี 2565 นี้ คณะอนุกรรมการฯ พร้อมรับนโยบายของคณะกรรมการร่วมฯ ในการต่อยอด        ให้แพลตฟอร์มกลาง "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าเกษตรไทยที่ครอบคลุมสินค้าเกษตรหลากหลายประเภทมากขึ้น โดยเตรียมขยายกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรและสินค้าเกษตรไปยังกลุ่มอื่น ๆ ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม ได้แก่ กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มประมง และกลุ่มปศุสัตว์ มากกว่า 100 กลุ่มเกษตรกร     ซึ่งจะทำให้มีสินค้าที่หลากหลายที่มีคุณภาพและมาตรฐาน ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อทั้งในและต่างประเทศมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายทะลุ 500 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้วางแผนการโปรโมทแพลตฟอร์ม   ให้เป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่องการันตีสินค้าถูกตา ราคาถูกใจแน่นอน" รองอธิบดีฯ กล่าวเสริม

    สำหรับแพลตฟอร์ม "เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด" เป็นแพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมสินค้าเกษตร การันตีคุณภาพจากกลุ่มเกษตรกรที่คัดเลือกพิเศษโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำหรับนำมาจำหน่ายแบบบิ๊กล็อต B2B (Business-to-Business) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ สำหรับผู้ซื้อภายในประเทศที่สนใจสามารถเข้าชมสินค้าได้ที่ www.phenixbox.com/Thai_agricultural และสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ สามารถเข้าชมสินค้าได้ที่ www.thaitrade.com/online-exhibition/thai_agricultural โดยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร 0 2547 5961 สายด่วน 1570

#PoweredByDBD

***********************************************

ที่มา : กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์   กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                  ฉบับที่ 2 / 18  มกราคม 2565