กรมพัฒน์ฯ ร่วมกับ กีวี คมคม โปรดักส์ จัดงานเปิดตัว Thai SELECT-KOM KOM Food Journeyสร้างประสบการณ์ชิมอาหารบนเส้นทางนักปั่นทั่วไทย

กรมพัฒน์ฯ ร่วมกับ กีวี คมคม โปรดักส์ จัดงานเปิดตัว Thai SELECT-KOM KOM Food Journeyสร้างประสบการณ์ชิมอาหารบนเส้นทางนักปั่นทั่วไทย
 
          กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ บริษัท กีวี และคมคม โปรดักส์ จำกัด ผู้จำหน่ายมีดทำครัวชื่อดัง เปิดตัวกิจกรรม Thai SELECT- KOM KOM Food Journey ถ่ายทอดเรื่องราวอาหารไทยผ่านร้าน Thai SELECT การแสดงสุดประทับใจ และไฮไลท์เปิดตัวทีมปั่นจักรยานที่จะมาร่วมสร้างประสบการณ์ผ่านร้านอาหาร Thai SELECT 5 เส้นทางทั่วประเทศไทย ยกระดับมาตรฐานร้านอาหารไทยให้มีคุณภาพ ปลุกกระแสรักอาหารไทยใส่ใจสุขภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ พร้อมรองรับนักชิมมาสัมผัสประสบการณ์หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
 
          นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในวันนี้ กรมฯ ได้ร่วมมือกับบริษัท กีวี และคมคม โปรดักส์ จำกัด ผู้จำหน่ายมีดทำครัวชื่อดังของไทยกว่า 30 ปี จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม Thai SELECT- KOM KOM Food Journey ณ เรือสิริมหรรณพ ท่าเรือเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อช่วยผลักดันร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดให้เป็นที่รู้จักแก่ประชาชนในวงกว้าง และสร้างกระแสความภูมิใจในอาหารไทย ภายในงานมีการถ่ายทอดการเดินทางของอาหารไทยจากร้านบ้านขนิษฐา ร้านอาหารที่ได้รับ Thai SELECT ที่สร้างอัตลักษณ์อาหารไทยจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน และการแสดงจากนักแสดงชื่อดังมาร่วมสร้างความประทับใจและการจดจำในคุณค่าของอาหารไทย
 
          รองอธิบดี กล่าวต่อว่า ไฮไลท์ของกิจกรรมฯ คือ การเปิดตัวทีมนักปั่นจักรยานในชื่อ Thai SELECT- KOM KOM กว่า 30 คน พร้อมด้วย Influencer สายสุขภาพ สายการท่องเที่ยวและกีฬา ที่จะเข้าร่วมเส้นทางการแข่งขันจักรยานทั่วประเทศ โดยระหว่างเส้นทางการปั่นจักรยาน ทีมนักกีฬาจะหยุดแวะพักรับประทานอาหาร ณ ร้าน Thai SELECT เพื่อสัมผัสความประทับในรสชาติอาหารและคุณภาพงานบริการที่ดีจากร้าน Thai SELECT เบื้องต้นกำหนดช่วงเวลาการเดินทางระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 ใน 5 เส้นทางหลัก ได้แก่ สงขลา จันทบุรี กาญจนบุรี ระยอง สุโขทัย ซึ่งมีร้านอาหาร Thai SELECT รวมกว่า 66 ร้าน โดยมีร้านอาหารแนะนำ เช่น ร้านคีรีมันตรา กาญจนบุรี ร้านจันทรโภชนา จันทบุรี ร้านเทอราคอตต้า ระยอง ร้าน 12 หน่วยตัด สุโขทัย ร้านอาหารป่ายาง สงขลา พร้อมทั้งแนะนำเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหาร Thai SELECT เพื่อให้นักชิม ทั้งในและต่างประเทศได้รับทราบและเชิญชวนมาร่วมสร้างประสบการณ์ความอร่อยไปด้วยกัน
 
          ความร่วมมือในครั้งนี้ กรมฯ คาดหวังว่าจะช่วยสร้างการรับรู้ในร้านอาหาร Thai SELECT ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง สร้างประสบการณ์และความประทับใจในวัฒนธรรมอาหารไทยที่อยู่ในแต่ละภูมิภาคให้เกิดขึ้นแก่ผู้บริโภค อันเป็นการสร้างโอกาสการตลาดใหม่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างประเทศ รองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่กำลังจะดีขึ้นในอนาคต
 
          สำหรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เป็นการต่อยอดตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ที่ให้การส่งเสริมร้านอาหารไทยในต่างประเทศมาเกือบ 20 ปี และประสบความสำเร็จในต่างประเทศเป็นอย่างมาก กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงมีนโยบายนำตราสัญลักษณ์ Thai SELECT มามอบแก่ร้านอาหารไทยที่มีมาตรฐานเพื่อช่วยยกระดับธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศให้มีคุณภาพ และเป็นการช่วยแนะนำร้านอาหารไทยให้แก่นักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย ภายใต้แนวคิด "อาหารไทย ต้อง Thai SELECT" มีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราฯ แล้วจำนวน 987 ร้าน คาดว่าในปี 2564 จะมีร้านอาหารที่ได้รับตราฯ เพิ่มขึ้นอีกกว่า 100 ร้าน โดยการคัดสรรร้านเป็นไปอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้ร้านที่มีคุณภาพภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น รสชาติอาหาร รายการอาหาร วัตถุดิบ สุขอนามัย (Food Safety) การตกแต่งร้านภายนอก/ภายในและบรรยากาศร้าน รวมทั้งการบริการที่ดีเยี่ยม ประกอบกับร้านอาหารจะได้รับโอกาสในการโปรโมทผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ออฟไลน์และออนไลน์ของกรมฯ อาทิ นิตยสารบนสายการบิน และ Food Delivery เพื่อเพิ่มยอดขายกระตุ้นการบริโภคให้กับร้าน Thai SELECT ได้อีกทาง ทั้งนี้ ร้านอาหารที่สนใจสมัครเข้ารับการตราสัญลักษณ์ ThaiSELECTสามารถสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dbd.go.th หรือสายด่วน 1570 ทั้งนี้ ข้อมูลจากเกียรตินาคินภัทร (KKP Research) คาดว่าปี 2564 ธุรกิจร้านอาหารจะค่อยๆ ฟื้นตัวจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว คาดว่าจะมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 4.41-4.45 แสนล้านบาท รองอธิบดี กล่าวทิ้งท้าย
 
*****************************************
 
ที่มา : กองธุรกิจบริการ                                                                               ฉบับที่ 30 / วันที่ 17 ธันวาคม 2563