โคราชต้องเดินหน้าต่อ...วีรศักดิ์..ดึง กรมพัฒน์ฯ เยียวยาภาคธุรกิจและประชาชน

โคราชต้องเดินหน้าต่อ...วีรศักดิ์..ดึง กรมพัฒน์ฯ เยียวยาภาคธุรกิจและประชาชน
ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์รุนแรงในจังหวัดนครราชสีมา
และจะทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี...จนกว่าโคราชกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
 
                                             รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ เดินหน้าเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชน ดึงกรมพัฒน์ฯ ลงพื้นที่ฟื้นฟูขวัญกำลังใจชาวโคราช พร้อมสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมา และจะทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี...จนกว่าโคราชกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ประเดิมจัดกิจกรรมใหญ่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ นี้ ที่เทอร์มินอล 21 ...ถึงอย่างไรโคราชก็ต้องเดินหน้าต่อ...โชว์พลังสามัคคี...คนไทยไม่มีวันทิ้งกัน
 
                                            นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาจังหวัดนครราชสีมาเกิดเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งโดยส่วนตัวเป็นห่วงความรู้สึกของชาวโคราชเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในกระทรวงพาณิชย์เร่งฟื้นฟูเยียวยาภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างสุดสรรพกำลัง เพื่อให้ชาวโคราชสามารถเดินต่อไปได้ด้วยความแข็งแกร่ง พร้อมสร้างบรรยากาศที่ดีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง"
 
                                         "เบื้องต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาผู้ประกอบการ/ประชาชนทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยจะดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี มาตรการระยะสั้น ได้แก่ 1. มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ประกอบด้วย 1.1) จัดกิจกรรมออกบูธให้คำปรึกษาแนะนำ/ให้ความช่วยเหลือด้านการจัดทำบัญชีและการวางแผนทางภาษี โดยร่วมมือกับสำนักงานบัญชีคุณภาพในพื้นที่ จำนวน 2 สำนักงาน คือ บริษัท ขจรศรี (การบัญชี) จำกัด และ บริษัท สำนักงานธุรกิจการบัญชี จำกัด 1.2) ให้คำปรึกษาด้านการเงินและการให้เงินกู้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษเพื่อฟื้นฟูกิจการ โดยร่วมมือกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับกรมฯ ซึ่งกิจกรรมการให้คำปรึกษาฯ ดังกล่าวจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โดยตนจะเป็นประธานเปิดงานและเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการและประชาชนภายในศูนย์การค้าฯ ด้วย 2) ขยายระยะเวลาการนำส่งงบการเงินให้แก่นิติบุคคลที่มีสถานที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ ณ จังหวัดนครราชสีมาที่ต้องนำส่งงบการเงินในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม 2563 โดยขยายระยะเวลาที่ต้องนำส่งงบการเงินออกไปอีก 2 เดือน"
 
                                           ". มาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและเพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการ สร้างความเชื่อมั่นและเกิดการใช้จ่ายภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ซึ่งเป็นมาตรการระยะยาว ได้แก่ 2.1) จัดสัมมนาภายใต้โครงการ "บัญชี...ชี้ช่องรวย" โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตสามารถนับชั่วโมงพัฒนาความรู้ (CPD) ได้ 6 ชั่วโมง เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีและความเข้าใจในงบการเงิน ระบบภาษีอากรที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ การวิเคราะห์งบการเงินและการใช้ข้อมูลทางบัญชี กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ทำบัญชี ผู้สอบบัญชี และนิสิตนักศึกษา จำนวน 300 ราย 2.2) จัดกิจกรรม MOU ภายใต้โครงการนักบัญชีคุณภาพรุ่นใหม่ (Young & Smart Accountants) ร่วมกับสถาบันการศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 3 แห่ง ได้แก่ - ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ศูนย์กลางนครราชสีมา - ม.วงษ์ชวลิตกุล - วิทยาลัยเทคโนโลยีพนมวันท์ รวมถึง การจัดอบรมให้ความรู้การทำการค้าออนไลน์แก่ผู้ประกอบการ นิสิต นักศึกษา และผู้สนใจ เป็นการขยายช่องทางการตลาดให้กว้างและครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น 2.3 ดำเนินกิจกรรม/การอบรมสัมมนาที่กรมฯ กำลังจะจัดทั้งหมดตลอดปี 2563 ในจังหวัดนครราชสีมา ทั้งศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 ศูนย์การค้าใกล้เคียง โรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า หรือลานกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจโคราชกลับมาสดใสอีกครั้ง"
 
                                      นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอความร่วมมือหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนให้ร่วมดำเนินกิจกรรมของแต่ละหน่วยงานภายในจังหวัดนครราชสีมามากขึ้น เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของจังหวัด และสร้างความคึกคักให้แก่เมืองโคราช ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญที่จะทำให้เมืองโคราชสามารถเดินหน้าต่อไปได้ด้วยความแข็งแกร่ง นับเป็นความร่วมมือที่ยิ่งใหญ่ที่แสดงให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเห็นว่า "คนไทยไม่ว่าจะอยู่จังหวัดใดเมื่อเจอเหตุการณ์เดือดร้อน...คนไทยก็พร้อมที่จะรวมพลังช่วยเหลือและไม่มีวันทิ้งกัน" รมช.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
 
#วีรศักดิ์ดูแล #WeerasakTakeCare
 
***************************************
 
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                        ฉบับที่ 62 / วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2562