กรมพัฒน์ฯ จับมือ BOI และ สพร. อำนวยความสะดวกนักลงทุนชาวต่างชาติ
กรมพัฒน์ฯ จับมือ BOI และ สพร. อำนวยความสะดวกนักลงทุนชาวต่างชาติ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ได้แก่ BOI และ สพร. นำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกนักลงทุนต่างชาติ ง่าย ครบ จบในขั้นตอนเดียว หวัง!! กระตุ้นต่างชาติหอบเงินเข้ามาลงทุนในไทย เกิดการจ้างงานและเศรษฐกิจของประเทศเกิดการหมุนเวียน
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "ขณะนี้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) เดินหน้าพัฒนาการให้บริการแก่นักลงทุนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยนำระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก ซึ่งในปี 2563 นี้ กรมฯ มีแผนการออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Foreign Certificate) สำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ประกอบธุรกิจตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 และได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI โดยทั้ง 3 หน่วยงานจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน เป็นการให้บริการด้านอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร ได้แก่ การออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Foreign Certificate) การชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) และการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Digital Signature) เพื่อให้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติสามารถยื่นขอรับบัตรส่งเสริมการลงทุน BOI และหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้ ณ จุดเดียว ทั้งนี้ สำหรับการยื่นขอหนังสือรับรองฯ ตามขั้นตอนจะมีระยะเวลาในการออกหนังสือรับรองที่กฎหมายกำหนดไว้ไม่เกิน 30 วัน แต่สำหรับหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวแบบอิเล็กทรอนิกส์นี้จะใช้เวลาภายใน 3 วัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจที่สามารถทำธุรกรรมต่างๆ และประกอบธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาตได้ทันที"
"กรมฯ เห็นว่าการพัฒนาระบบการให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ซึ่งไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างชาติเท่านั้น แต่จะส่งผลต่อการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดการหมุนเวียน โดยปัจจุบันแนวโน้มการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากตัวเลขของนักลงทุนต่างชาติในปี 2562 มีนักลงทุนต่างชาติยื่นขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ตามที่ได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มูลค่าการลงทุนกว่า 169,000 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ขออนุญาตส่วนใหญ่ อาทิ ค้าส่ง รับจ้างผลิต บริการด้านคอมพิวเตอร์(ออกแบบพัฒนาซอฟต์แวร์ กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์) ฯลฯ เป็นต้น"
รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า "จากวิสัยทัศน์ของกรมฯ ที่จะเป็นผู้ให้บริการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบภายในปี 2564 ได้มุ่งมั่นในการพัฒนารูปแบบของการให้บริการ เพื่อให้มีความสะดวก รวดเร็ว ลดภาระค่าใช้จ่ายในการยื่นเอกสารและการเดินทาง ตลอดจนลดขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในเรื่องของการอำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุนต่างชาติ ทำให้ง่ายต่อการประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถออกหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวแบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ภายในเดือนเมษายน 2563 นอกจากนี้ ด้วยทิศทางการดำเนินการร่วมกัน ถือเป็นก้าวสำคัญของหน่วยงานราชการฯ ในการนำระบบเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และยกระดับภาครัฐให้มีความทันสมัย พัฒนาสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลได้อย่างแท้จริง ตลอดจนเป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการลงทุน และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของไทย"
**********************************************
ที่มา : กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ฉบับที่ 58 / วันที่ 4 กุมภาพันธ์2563