กรมพัฒน์ฯ ขอความร่วมมือ สภาทนายความ และ สภาวิชาชีพบัญชี กำชับสมาชิกให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าจริง

กรมพัฒน์ฯ ขอความร่วมมือ สภาทนายความ และ สภาวิชาชีพบัญชี
กำชับสมาชิกให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าจริง กรณีขอยื่นจดทะเบียนจัดตั้ง/เปลี่ยนแปลงห้างหุ้นส่วนบริษัท
 
                                         กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอความร่วมมือ สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี ร่วมสร้างธรรมาภิบาล พร้อมลดความเสียหายและข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระหว่างภาคธุรกิจ โดยขอให้ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้าทนายความ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต หรือผู้ทำบัญชีที่เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี ที่เป็นผู้รับรองให้แก่ผู้ขอจดทะเบียน เพื่อป้องกันการสวมรอยเป็นบุคคลผู้จดทะเบียน
 
                                             นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า "นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ เตรียมลงนามในประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เรื่อง แจ้งเตือนบุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดจะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้ พ.ศ.2562 โดยสาระสำคัญ คือ ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้านายทะเบียน ในกรณีที่ไม่อาจลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียนได้ ให้ถือว่าลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนเป็นที่ถูกต้อง เมื่อผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้าบุคคลตามที่กำหนดในกฎกระทรวง และประกาศสำนักงานนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลาง ดังนั้น บุคคลที่ถูกกำหนดให้ผู้ขอจดทะเบียนสามารถลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้าได้ จะลงลายมือชื่อรับรองผู้ขอจดทะเบียนรายใด จะต้องปรากฏข้อเท็จจริงว่าผู้ขอจดทะเบียนรายนั้นได้ลงลายมือชื่อต่อหน้าบุคคลดังกล่าวจริง"
 
                                           จากประกาศฯ ฉบับดังกล่าว กรมฯ จึงได้ขอความร่วมมือไปยังนายกสภาทนายความ นายกเนติบัญฑิตยสภา และ นายกสภาวิชาชีพบัญชี ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้มีอำนาจควบคุมกำกับดูแลผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและผู้ทำบัญชี ให้กำชับผู้ประกอบวิชาชีพที่เป็นผู้รับรองผู้ขอจดทะเบียน ให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น เพื่อสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดแก่ภาคธุรกิจ รวมถึง ป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน และเกิดข้อขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตระหว่างภาคธุรกิจ"
 
                                         "การลายมือชื่อของผู้ขอจดทะเบียนที่ได้รับการรับรองจากบุคคลตามที่กำหนดในกฎกระทรวง กรมฯ ถือว่าลายมือชื่อนั้นถูกต้อง โดยที่นายทะเบียนไม่ต้องตรวจสอบลายมือชื่อที่ลงในคำขอจดทะเบียนอีก จึงอาจทำให้เกิดกรณีที่มีการปลอมแปลงลายมือชื่อบุคคลอื่นหรือใช้ชื่อบุคคลอื่นยื่นขอจดทะเบียนซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และเป็นเหตุให้คำสั่งรับจดทะเบียนอาจถูกเพิกถอนได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการสนับสนุนให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา 137 คือ แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 267 ผู้ใดแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
 
                                           "ดังนั้น กรมฯ จึงขอความร่วมมือจากผู้ประกอบวิชาชีพข้างต้นที่เป็นผู้รับรองรายมือชื่อผู้ขอจดทะเบียน โปรดดำเนินการให้ผู้ขอจดทะเบียนลงลายมือชื่อต่อหน้าเท่านั้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ภาคธุรกิจประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล และลดข้อพิพาท/ข้อขัดแย้งระหว่างกรรมการ หุ้นส่วน และภาคธุรกิจที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี" รองอธิบดีฯ กล่าวทิ้งท้าย
 
                                            ปัจจุบัน กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนดให้บุคคลที่ผู้ขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดจะลงลายมือชื่อต่อหน้าได้ ได้แก่ 1) พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งประจำการอยู่ในท้องที่ที่ผู้ขอจดทะเบียนมีภูมิลำเนาอยู่ 2) สามัญสมาชิกหรือสมาชิกวิสามัญแห่งเนติบัณฑิตยสภา 3) กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย 4) กรรมการหอการค้าไทย 5) กรรมการหอการค้าจังหวัด 6) กรรมการหอการค้าต่างประเทศที่จดทะเบียนในประเทศไทย 7) กรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 8) กรรมการสภาอุตสาหกรรมจังหวัด 9) กรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย 10) กรรมการสภาวิชาชีพบัญชี 11) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี 12) ผู้ทำบัญชีที่เป็นสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชีหรือขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี 13) หัวหน้าสำนักงานบัญชี หรือหุ้นส่วนผู้จัดการ หรือกรรมการของสำนักงานบัญชีที่ได้รับหนังสือรับรองคุณภาพสำนักงานบัญชีจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (สำนักงานบัญชีคุณภาพ) ซึ่งเป็นสมาชิกของสภาวิชาชีพบัญชี หรือขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพบัญชี ตามรายชื่อที่สำนักงานบัญชีคุณภาพได้แจ้งไว้ต่อนายทะเบียน 14) ผู้รับใบอนุญาตทำการเป็นผู้บังคับหลักประกัน ตามกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ"
 
********************************************
ที่มา : กองทะเบียนธุรกิจ                                    ฉบับที่ 36 / วันที่ 5 ธันวาคม 2562