พาณิชย์' เตรียมใช้เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั่วประเทศ เป็นพี่เลี้ยงผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย
พาณิชย์' เตรียมใช้เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ทั่วประเทศ เป็นพี่เลี้ยงผู้ประกอบการ SMEs รายย่อย
นำร่อง 10 จังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ หวังผลักดันให้เติบโตบนโลกธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง
กระทรวงพาณิชย์ สร้างความแข็งแกร่งให้ผู้ประกอบการรายย่อย ใช้เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เป็น พี่เลี้ยงพร้อมเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจแบบครบวงจรในรูปแบบพี่สอนน้อง นำร่อง 10 จังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุด ในประเทศ หวังผลักดันให้เติบโตบนโลกธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ขณะที่เครือข่ายธุรกิจฯ ก็ใช่ย่อย ผลงาน 3 เดือนที่ผ่านมาเข้าตาสุดๆ สร้างมูลค่าทางการค้าได้กว่า 2,000 ล้านบาท
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) เป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยเน้นที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายย่อย หรือ Micro SME ซึ่งมีจำนวนกว่า 2.3 ล้านราย แต่ Micro SME ของไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ คือ ไม่มีพี่เลี้ยงคอยให้คำปรึกษาแนะนำ ขาดเครือข่ายพันธมิตรและช่องทางการจำหน่ายสินค้า ขาดเงินทุนและแหล่งเงินทุนสนับสนุน ขาดโอกาสการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ รวมทั้ง ยังไม่มีหน่วยงานใดที่เข้ามาช่วยดูแลอย่างชัดเจน ทำให้ Micro SME ต้องเผชิญอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพ การดำเนินธุรกิจเป็นไปตามความสามารถของแต่ละบุคคล ส่งผลให้ Micro SME ของไทยประสบปัญหาขาดทุน และไม่สามารถยืนหยัดอยู่บนโลกธุรกิจได้ตลอดรอดฝั่ง"
"กระทรวงพาณิชย์ จึงมีนโยบายให้เครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงฯ และกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ เป็นพี่เลี้ยงให้แก่ Micro SME แบบครบวงจร เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะร่วมมือกับเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ดำเนินกิจการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ Micro SME ใน 10 จังหวัดที่มีรายได้น้อยที่สุดในประเทศ คือ แม่ฮ่องสอน นราธิวาส ปัตตานี กาฬสินธุ์ นครพนม ชัยนาท ตาก บุรีรัมย์ อำนาจเจริญ และน่าน และหลังจากนั้นจะได้ขยายไปจังหวัดอื่นต่อไป โดยร่วมกันดำเนินกิจกรรม ดังนี้ 1) "1 Biz Club จังหวัด 1 กลุ่ม Micro SME" โดยการอบรม/สัมมนา ให้คำปรึกษาธุรกิจ และร่วมประชุม/ระดมความเห็น เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน สร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้สู่มาตรฐานการประกอบธุรกิจ โดย MOC Biz Club แต่ละจังหวัดจะเข้าไปเป็นพี่เลี้ยง ที่ปรึกษาธุรกิจ และพัฒนากลุ่ม Micro SME อย่างใกล้ชิด ในลักษณะพี่สอนน้อง เพื่อยกระดับสินค้า/บริการ สร้างรายได้เพิ่มขึ้น"
"2) "คาราวานสินค้า Micro SME" โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจ สร้างโอกาสทางการตลาด ผ่านกิจกรรมแสดงและจำหน่ายสินค้าในรูปแบบคาราวานสินค้าในสถานที่ต่างๆ อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว ตลาดชุมชน โรงงาน/ นิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ โดย MOC Biz Club จะเชื่อมโยง Micro SME เข้าระหว่างกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมกลุ่มสร้างความแข็งแกร่งทางธุรกิจ จับคู่พันธมิตรทางธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาธุรกิจในทุกระดับ ทั้งนี้ คาดว่าทั้ง 2 กิจกรรมจะสามารถดำเนินการได้ประมาณปลายเดือนเมษายน 2561 นี้"
รมว.พณ.กล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้มีการพัฒนาต้นแบบร้านค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและร้าน MOC Biz Shop นำร่อง ขึ้นครอบคลุมทุกภูมิภาค ใน 15 จังหวัด ซึ่งจะเป็นร้านที่รวบรวมและขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเสริมสร้างให้เกิดความร่วมมือในระบบโซ่อุปทานระหว่างธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่น และสินค้าจาก Micro SME ให้เกิดการเกื้อกูลทางการค้าซึ่งกันและกัน ซึ่งจะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นไทยมีความเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป"
"อย่างไรก็ตาม MOC Biz Club หลายจังหวัดได้ขยายผลดำเนินการเป็นพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาให้แก่ Micro SME ภายในจังหวัดแล้ว โดยพาณิชย์จังหวัดเป็นแกนกลางในการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ในแต่ละพื้นที่ เพื่อร่วมกันคิด พัฒนา และดำเนินกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ Micro SME อย่างแท้จริง อาทิ เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจังหวัดขอนแก่น จัดงาน "เครือข่าย Biz Club ขอนแก่นสัญจร" นำผู้ประกอบการ Micro SME เข้าร่วมงานสัญจรไปจำหน่ายสินค้าและบริการตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง , เครือข่ายธุรกิจบิสคลับอยุธยาและเพชรบุรี ได้รวมกลุ่มหาบแร่แผงลอย ช่วยพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้สวยงาม สร้างอัตลักษณ์การแต่งกาย และสร้างช่องทางการจำหน่ายใน "ตลาดอยุธยาไนท์มาร์เก็ต และตลาดอิ่มสุข" หรือเครือข่ายธุรกิจบิสคลับอุดรธานีและมหาสารคาม เชื่อมโยงนำสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนเข้าไปจำหน่าย ณ สนามบินนานาชาติ และห้างสรรพสินค้าชั้นนำในพื้นที่ เพื่อขยายโอกาสทางการตลาด และเปิดประสบการณ์ด้านการประกอบธุรกิจที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น เป็นต้น"
"นอกจากนี้ ในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์นี้ จะได้นำคณะผู้แทนจากเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ร่วมหารือกับหน่วยงานต่างๆ ด้านการพัฒนา Innovation, Creative Economy และด้านการพัฒนาชุมชนฐานราก ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายและขยายการค้าซึ่งกันและกัน รวมถึงจะได้นำรูปแบบและแนวทางการส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบธุรกิจ Micro SME ของสหราชอาณาจักรมาปรับใช้ในการจัดทำยุทธศาสตร์ส่งเสริมพัฒนาสร้างความเข้มแข็งให้แก่ Micro SME ของไทย เพื่อยกระดับเศรษฐกิจและสร้างรายได้ของชุมชนฐานรากให้ดีขึ้น รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนทางการค้ากันในอนาคต"
"ขณะเดียวกัน ผลงานเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม - มีนาคม 2561) ได้ดำเนินกิจกรรมเชื่อมโยงธุรกิจหลากหลายโครงการ จนทำให้เกิดมูลค่าทางการค้าขึ้นจำนวนมากกว่า 2,000 ล้านบาท เช่น เครือข่ายธุรกิจบิสคลับจันทบุรี สามารถ 'ขยายธุรกิจออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน' จัดกิจกรรม Business Matching โดยใช้ประโยชน์จากภูมิประเทศที่เชื่อมต่อกับชายแดนและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่พัฒนาไปสู่เอกลักษณ์ด้านมหานครแห่งผลไม้ และเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจบิสคลับยะลาและปัตตานี ในการซื้อขายผลไม้จังหวัดชายแดนภาคใต้และภาคตะวันออก เพื่อส่งออกไปขายประเทศกัมพูชา เวียดนาม จีน มาเลเซีย สิงคโปร และอินโดนีเซีย หรือเครือข่ายธุรกิจบิสคลับอำนาจเจริญ จัดงานตลาดนัดชายแดนเชื่อมโยงการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน Amnat Charoen ASEAN Trade Link 2018 ซึ่งนำสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร และสินค้าชุมชนจาก ทั่วประเทศ เข้าร่วมเจรจาการค้ากับ ลาว เวียดนาม พม่า และกัมพูชา นอกจากนี้ ยังได้มีการเชื่อมโยงการค้าระหว่างเครือข่าย MOC Biz Club ด้วยกันทั่วประเทศ ทำให้ผลงานในช่วงที่ผ่านมาของเครือข่ายฯ เป็นที่น่าพอใจ และเมื่อได้ มีการพัฒนา Micro SME เชื่อมโยงเข้าร่วมเป็นเครือข่ายธุรกิจด้วยแล้ว คาดว่าจะทำให้มูลค่าทางเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน" รมว.พณ.กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อย (สสว.) ระบุว่า SME ทั้งประเทศของไทย มีจำนวน 3,004,679 ราย เป็นผู้ประกอบการรายย่อยและส่วนบุคคล จำนวน 2,285,731 ราย คิดเป็นร้อยละ 76.07 ของ SME ทั้งประเทศ โดยในจำนวนผู้ประกอบการรายย่อยฯ นี้ อยู่ในภาคการค้า 1,035,126 ราย (ร้อยละ 45.29) ภาคบริการ 851,306 ราย (ร้อยละ 37.24) และภาคการผลิต 399,299 ราย (ร้อยละ 17.47)
**********************************************
ที่มา : กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ฉบับที่ 79 / วันที่ 11 เมษายน 2561