พาณิชย์' เตรียมยกระดับสหกรณ์ร้านค้าทั่วประเทศเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ

พาณิชย์' เตรียมยกระดับสหกรณ์ร้านค้าทั่วประเทศเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ
ใช้เกณฑ์ 8 ด้าน เพิ่มจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรค้าขายร่วมกัน
ส่งเสริมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของคนไทยให้เข้มแข็ง กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง
 
                 กระทรวงพาณิชย์ ลุยสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากต่อเนื่อง เตรียมยกระดับสหกรณ์ร้านค้าทั่วประเทศเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจ ใช้เกณฑ์มาตรฐาน 8 ด้าน เพิ่มจุดแข็ง ปิดจุดอ่อน เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ธุรกิจ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรค้าขายร่วมกัน ส่งเสริมธุรกิจค้าส่งค้าปลีกของคนไทยให้เข้มแข็ง กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้มั่นคง
                นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่งค้าปลีกที่เป็นธุรกิจระดับท้องถิ่นที่มีความสำคัญระดับประเทศ ในปี 2559 ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกมีมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 1.83 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 13.9 ของ GDP ประเทศไทย เป็นอันดับ 3 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 32.6) และภาคการผลิต (ร้อยละ 27.7) เกิดการจ้างงานกว่า 2.9 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 27.5 ของการจ้างงานทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอันดับ 2 รองจากภาคบริการ (ร้อยละ 44.8)"
                "จากความสำคัญดังกล่าว กระทรวงฯ จึงเร่งผลักดันธุรกิจค้าส่งค้าปลีกซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่เคียงคู่คนไทยมาตั้งแต่อดีตให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับศักยภาพของผู้ประกอบการในแต่ละระดับ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ายกระดับการบริหารจัดการธุรกิจของสหกรณ์ร้านค้าทั่วประเทศซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งค้าปลีกประเภทหนึ่งให้เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจค้าส่งค้าปลีก โดยจะเน้นการบริหารจัดการสินค้าคงคลังเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มสัดส่วนของรายได้ให้มากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงฯ จะส่งผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ แก้ปัญหา และเพาะบ่มเชิงลึก ณ สถานประกอบการ"
                รมช.พณ. กล่าวเพิ่มเติมว่า "กระทรวงฯ จะใช้ 3 กิจกรรมในการส่งเสริมพัฒนาสหกรณ์ร้านค้า ประกอบด้วย กิจกรรมที่ 1 การสร้างองค์ความรู้ และเสริมสร้างศักยภาพด้านการบริหารจัดการ ได้แก่ การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ การสัมมนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การศึกษาดูงาน โดยจะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและความเป็นมืออาชีพในด้านการตลาด การปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้มีความทันสมัย"
                 "กิจกรรมที่ 2 การยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจค้าส่งค้าปลีก โดยได้มีการจัดทำเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพธุรกิจค้าส่งค้าปลีก 8 ด้าน สำหรับพัฒนาการบริหารจัดการโดยรวมของธุรกิจ ประกอบด้วย 1) ภาวะผู้นำ-การรวมกลุ่มและการวางแผนเชิงกลยุทธ์ 2) การมุ่งเน้นลูกค้าและตลาด 3) สารสนเทศและการวิเคราะห์ 4) การมุ่งเน้นทรัพยากรบุคคล 5) การจัดการกระบวนการทางธุรกิจและโลจิสติกส์ 6) การจัดการร้านค้าและการวางสินค้า 7) การอนามัยและความปลอดภัยในสถานประกอบการค้าส่ง และ 8) ผลลัพธ์ทางธุรกิจ ซึ่งเกณฑ์คุณภาพทั้ง 8 ด้านนี้ จะเป็นตัววัดผลที่สำคัญในการยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพที่สามารถเห็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
                 "กิจกรรมที่ 3 การเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ซึ่งเมื่อผู้ประกอบการสหกรณ์ร้านค้าที่ผ่านการสร้างองค์ความรู้ และผ่านการยกระดับธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพ ทั้ง 8 ด้านแล้ว กระทรวงพาณิชย์จะทำการเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างสหกรณ์ร้านค้ากับธุรกิจค้าส่งค้าปลีกและธุรกิจอื่นที่อยู่ในการส่งเสริมของกระทรวงฯ ให้สามารถบริหารการจัดซื้อและส่งเสริมกิจกรรมการตลาดร่วมกันเพื่อให้เกิดการเกื้อกูลกันระหว่างธุรกิจและเพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้มีการยิ่งขึ้น รวมทั้งจะมีการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ณ สถานประกอบการของธุรกิจต้นแบบที่มีจุดแข็งที่แตกต่างกันในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างจุดแข็งและปิดจุดอ่อนของธุรกิจ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่สหกรณ์ร้านค้าในระยะยาว"
                 รมช.พณ. กล่าวทิ้งท้ายว่า "ขณะนี้ มีร้านค้าส่งที่ผ่านการพัฒนายกระดับคุณภาพการบริหารจัดการ และสามารถเป็นร้านค้าต้นแบบได้ จำนวน 130 ราย 857 สาขา ร้านค้าปลีกเครือข่าย 20,081 ร้าน ครอบคลุมพื้นที่ 70 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสามารถลดต้นทุนการบริหารจัดการได้เฉลี่ยร้อยละ 5 - 10 และเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้เฉลี่ย ร้อยละ 15 โดยกระทรวงฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะพัฒนายกระดับฯ ร้านค้าส่งค้าปลีกเครือข่ายให้ครบทั้ง 77 จังหวัดได้ในปี 2561 ที่จะถึงนี้"
 
***************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า                                                                           ฉบับที่ 137 / วันที่ 2 ตุลาคม 2560