พาณิชย์' เปิดใช้งานระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร
พาณิชย์' เปิดใช้งานระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร
พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ระหว่างหน่วยงานรัฐ-เอกชนที่เกี่ยวข้อง
ทำให้จดทะเบียนสัญญาฯ ง่าย ตรวจค้น-บริการข้อมูลรวดเร็ว ชำระค่าธรรมเนียมสะดวกสบาย
อำนวยความสะดวกประชาชนเต็มที่ ฉลองครบรอบ 1 ปี กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ
พาณิชย์' เปิดใช้งานระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจร รองรับการปฏิบัติงานด้านทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจเต็มรูปแบบ พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลแบบเรียลไทม์ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับหลักประกันทางธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ทุกภารกิจด้านหลักประกันทางธุรกิจมีความคล่องตัว จดทะเบียนสัญญาฯ ง่าย ตรวจค้นและบริการข้อมูลรวดเร็ว ชำระค่าธรรมเนียมสะดวกสบาย หวัง!! อำนวยความสะดวกประชาชนเต็มที่ ฉลองครบรอบ 1 ปี กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า "ในฐานะที่ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลและบังคับใช้กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ได้ดำเนินการให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่องในลักษณะเรียลไทม์ (Real Time) และได้ให้บริการฯ ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา ล่าสุด กรมฯ ได้พัฒนาระบบการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเปิดให้บริการระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูป ลดขั้นตอนการจดทะเบียนฯ ทำให้การจดทะเบียนรวดเร็วขึ้น ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2560 นี้เป็นต้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชนทั่วไปอย่างเต็มที่"
ทั้งนี้ ระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการดำเนินการ ดังนี้ 1) ระบบลงทะเบียนสำหรับผู้ใช้งาน เช่น ผู้ให้หลักประกัน ผู้รับหลักประกัน ผู้บังคับหลักประกัน นายทะเบียน ทรัพย์ที่มีทะเบียน และหน่วยงานพันธมิตร โดยผู้ใช้งานดังกล่าวสามารถลงทะเบียนผ่านระบบได้ทันที 2) ระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ รองรับการยื่นคำขอจดทะเบียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่าน Web Application และ Web Services แบบ Host to Host และเจ้าพนักงานทะเบียนสามารถลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย Digital Signature ได้ทันที 3) ระบบทะเบียนผู้บังคับหลักประกัน รองรับการบริหารจัดการเกี่ยวกับการรับสมัคร การอบรม การชำระค่าธรรมเนียม การออกใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกัน การต่อใบอนุญาตฯ และการตรวจค้นข้อมูลผู้บังคับหลักประกัน 4) ระบบ Web Service/API รับ-ส่งข้อมูล สามารถเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานผู้รับหลักประกัน หน่วยงานทรัพย์มีทะเบียน และหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ 5) ระบบตรวจดูข้อมูลและบริการข้อมูลหลักประกันทางธุรกิจ สามารถตรวจค้นข้อมูลได้ตามสิทธิของผู้ใช้ เช่น ตรวจดูรายการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ตรวจค้นข้อมูลทรัพย์สินที่ได้จดทะเบียนเป็นหลักประกัน ตรวจค้นข้อมูลผู้ให้หลักประกัน ค้นข้อมูลผู้รับหลักประกัน 6) ระบบค่าธรรมเนียม สามารถรับชำระค่าธรรมเนียม จัดทำใบสั่ง และใบเสร็จรับเงินทุกประเภทแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
ซึ่งขณะนี้มีธนาคารที่ให้บริการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบ e-Payment ให้แก่หน่วยงานอื่นได้ จำนวน 6 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารธนชาต ธนาคารออมสิน และมีธนาคารที่ให้บริการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบ e-Payment ได้เฉพาะลูกค้าของธนาคารเอง จำนวน 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทหารไทย
อธิบดีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ข้อมูลการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจตลอด 1 ปี ที่ผ่านมา (ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 - 4 กรกฎาคม 2560) มีธุรกิจเอสเอ็มอียื่นคำขอจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ รวม 145,205 คำขอ มูลค่าทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกัน 2,671,146 ล้านบาท โดยสิทธิเรียกร้องประเภทบัญชีเงินฝากธนาคารเป็นทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 60.00 (มูลค่า 1,602,681 ล้านบาท) รองลงมาคือ สังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ เช่น สินค้าคงคลัง วัตถุดิบ เครื่องจักร รถยนต์ เรือ คิดเป็นร้อยละ 19.65 (มูลค่า 524,905 ล้านบาท) และสิทธิเรียกร้องประเภทอื่นๆ เช่น ลูกหนี้การค้า สัญญาจ้าง สัญญาซื้อขาย สัญญาเช่าซื้อ คิดเป็นร้อยละ 20.28 (มูลค่า 541,585 ล้านบาท) ทรัพย์สินทางปัญญา คิดเป็นร้อยละ 0.07 (มูลค่า 1,975 ล้านบาท)"
"อย่างไรก็ตามจากสถิติการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจดังกล่าว พบว่า ทรัพย์สินประเภทกิจการและทรัพย์สินทางปัญญา ยังไม่ได้นำมาจดทะเบียนหรือนำมาจดทะเบียนจำนวนไม่มาก เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่อีกทั้งหลักเกณฑ์วิธีการในด้านการประเมินราคายังไม่ชัดเจน กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงกำหนดจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การนำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ" เพื่อผลักดันให้เกิดต้นแบบของการนำกิจการมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ โดยกำหนดจัดอบรม ในวันที่ 7, 9, 11 สิงหาคม 2560 ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า อีกทั้งได้ดำเนินการจัดอบรมพัฒนาความรู้ผู้บังคับหลักประกัน เรื่อง การประเมินมูลค่ากิจการสำหรับ พรบ. หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ไปแล้วเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2560 ที่ผ่านมา"
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0 2547 5048 e-Mail : Stro@dbd.go.th หรือสายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th
***********************************************
ที่มา : กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ฉบับที่ 103 / 8 สิงหาคม 2560