มี.ค.60 ต่างชาติลงทุนไทยอีก 28 ราย มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 580 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 715 คน

มี.ค.60 ต่างชาติลงทุนไทยอีก 28 ราย
มีเงินลงทุนที่ใช้ในการประกอบธุรกิจ 580 ล้านบาท จ้างงานคนไทย 715 คน
 
                  นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเปิดเผยว่า ในการประชุมของคณะกรรมการฯ เมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม 2560 คณะกรรมการฯ ได้อนุญาตให้คนต่างด้าว 28 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งมีการนำเงินเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจกว่า 580 ล้านบาท และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 715 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ๆ และองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน
                   สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาต ได้แก่
                  1. ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม จำนวน 9 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 278 ล้านบาท ได้แก่ บริการทางบัญชี บริการให้กู้ยืมเงิน บริการให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและโรงงานบางส่วนพร้อมสาธารณูปโภค บริการให้คำปรึกษาแนะนำและบริหารจัดการภายในองค์กร บริการจัดการข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้า บริการทำการตลาดและส่งเสริมการขาย และบริการรับค้ำประกันหนี้โดยการจำนำหุ้น โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ สาธารณรัฐเกาหลี
                  2. ธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า จำนวน 8 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 242 ล้านบาท ได้แก่ บริการรับจ้างผลิตอุปกรณ์จับยึดชิ้นส่วนรถยนต์ (JIG) บริการจัดหาผู้ประกอบการด้านโรงแรมและสายการบินให้เข้าใช้พื้นที่และระบบงานเพื่อทำรายการจองห้องพักและตั๋วเครื่องบินบนเว็บไซต์ บริการบริหารจัดการเกี่ยวกับการซ่อมแซมและบำรุงรักษานาฬิกา บริการให้คำปรึกษาแนะนำด้านการผลิต บริการให้ใช้ช่วงสิทธิโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้เก็บและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลการทำธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าสถาบันการเงิน บริการให้ใช้ช่วงสิทธิรับชมเนื้อหารายการโทรทัศน์บนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันบนคอมพิวเตอร์ บริการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์และแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับการบริหารงานภายในองค์กร และบริการออกแบบและเทพื้นคอนกรีตด้วยเทคโนโลยีการกรอพื้นด้วยเลเซอร์ โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ ญี่ปุ่น และจีน
                  3. ธุรกิจบริการเป็นสำนักผู้แทน จำนวน 5 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 15 ล้านบาท เป็นการรายงานความเคลื่อนไหวทางธุรกิจเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจการลงทุนให้สำนักงานใหญ่ และเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าของสำนักงานใหญ่และบริษัทในเครือ รวมถึงการหาแหล่งจัดซื้อสินค้าในประเทศไทยให้สำนักงานใหญ่ โดยส่วนใหญ่เป็นคนต่างด้าวจากประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย และสิงคโปร์
                 4. ธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 26 ล้านบาท ได้แก่ บริการสำรวจข้อมูลทางธรณีวิทยาด้วยวิธีวัดคลื่นไหวสะเทือนขนาดเล็ก บริการบริหารจัดการ จัดซื้อจัดหา ออกแบบติดตั้งและทดสอบการเปลี่ยนโซ่ผูกเรือซึ่งตั้งอยู่ที่แหล่งก๊าซธรรมชาติ และบริการจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ระบบประมวลผลข้อมูลเรดาร์ โดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศสิงคโปร์ ฝรั่งเศส และอิตาลี
                 5. ธุรกิจค้าปลีก / ค้าส่ง จำนวน 3 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 19 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกอุปกรณ์ อะไหล่ และชิ้นส่วนสำหรับเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตกระดาษลูกฟูก การค้าปลีกเครื่องจักรที่ใช้ในกระบวนการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และการค้าส่งเคมีภัณฑ์สำหรับใช้ในอุตสาหกรรมโดยเป็นคนต่างด้าวจากประเทศจีน และสิงคโปร์
                  การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับการก่อสร้างพื้นคอนกรีตชนิดต่างๆ และการใช้เทคโนโลยีช่วยให้พื้นคอนกรีตมีคุณลักษณะและคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานสากล การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตเคมีภัณฑ์ประเภทสารไวนิลคลอไรด์โมโนเมอร์ วิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับขั้นตอน มาตรฐานการผลิต การเพิ่มระดับความสามารถและทักษะในการติดตั้งอุปกรณ์จับยึดชิ้นส่วนรถยนต์ และวิทยาการเฉพาะด้านเกี่ยวกับระบบการควบคุมระบบปฏิบัติการ และการอ่านแผนที่ของเรดาร์ทุติยภูมิ (SSR MODE S) และเส้นทางการบิน รวมทั้งการมีส่วนร่วมของบุคลากรไทยในโครงการพัฒนาการวิจัยและพัฒนาแอปพลิเคชันที่ได้มาตรฐานระดับสากลจากแอปพลิเคชันที่ใช้งานในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
                  ทั้งนี้ ในเดือนมีนาคม 2560 จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 8ในขณะที่เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 210 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 57 และเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนปรากฏว่า จำนวนธุรกิจที่ได้รับอนุญาตลดลง จำนวน 4 ราย คิดเป็นอัตราร้อยละ 12 ในขณะที่มีเงินลงทุนลดลง 256 ล้านบาท คิดเป็นอัตราร้อยละ 30 เนื่องจากในเดือนมีนาคม 2559 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจบริการออกแบบ จัดหาวัสดุและอุปกรณ์ ก่อสร้าง ติดตั้ง และทดสอบโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังงานลม ซึ่งเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง
                  อนึ่ง ในไตรมาสแรกของปี 2560 (มกราคม-มีนาคม 2560) คนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต จำนวน 69 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 1,387 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาสแรกของปี 2559 คนต่างด้าวได้รับอนุญาต จำนวน 95 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 2,078 ล้านบาท ซึ่งในปี 2559 ทั้งปี (มกราคม - ธันวาคม) คนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในประเทศไทยจำนวนทั้งสิ้น 352 ราย และมีเงินลงทุนทั้งสิ้น 7,443 ล้านบาท
 
*********************
ที่มา : กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ                                                                                     ฉบับที่ 39 / 27 มีนาคม 2560