พาณิชย์ ยิ้มแรง! เฮฟต้าธุรกิจแฟรนไชส์ผลิตภัณฑ์ยูพีวีซีของไทยดังไกลไปต่างแดน

พาณิชย์ ยิ้มแรง! เฮฟต้าธุรกิจแฟรนไชส์ผลิตภัณฑ์ยูพีวีซีของไทยดังไกลไปต่างแดน
เซ็นสัญญากับ Ardeco สปป.ลาว ยาว 3 ปี พร้อมขยายสาขาเพิ่มอีกหลายแห่ง
 
                        กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยิ้ม! แฟรนไชส์ในการส่งเสริมจำนวน 27 ราย ขยายธุรกิจ ไปยังตลาดโลกแล้ว 30 ประเทศ ล่าสุด "เฮฟต้า" ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างยูพีวีซีของไทย นัดเซ็นสัญญา 3 ปี กับ Ardeco บริษัทที่ปรึกษาด้านสถาปัตยกรรม ออกแบบ และวิศวกรรมรายใหญ่ของ สปป.ลาว
                        นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ในวันนี้ (วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน 2559) ได้เป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายธุรกิจแฟรนไชส์ ระหว่าง บริษัท เฮฟต้า จำกัด ธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างยูพีวีซีของไทย กับ บริษัท อาร์เดคโค จำกัด (Ardeco) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาเกี่ยวกับสถาปัตยกรรม ออกแบบ และวิศวกรรม ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเซ็นสัญญาต่อเนื่อง 3 ปี และคาดว่าในอนาคตจะมีการขยายสาขาเพิ่มเติมอีก โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการกัมพูชาและเมียนมาร์ ทำให้จนถึงปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ไทย 28 ราย สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ จำนวน 30 ประเทศทั่วโลก แบ่งเป็น หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 18 บริษัท หมวดบริการ 3 บริษัท หมวดการศึกษา 2 บริษัท หมวดความงาม/สปา 1 บริษัท และหมวดค้าปลีก 4 บริษัท แสดงให้เห็นว่าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
                       "การลงนามในสัญญาของ บริษัท เฮฟต้า จำกัด ในครั้งนี้ ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์รายนี้ ซึ่งมีแฟรนไชส์ในประเทศอยู่แล้ว 12 สาขา ประสบความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งของธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่สามารถขยายธุรกิจไปสู่ตลาดต่างประเทศได้เพิ่มอีก 1 ราย โดยบริษัท เฮฟต้า จำกัด ผ่านการพัฒนาส่งเสริมจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภายใต้โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการสร้างธุรกิจเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ (Franchise Academy หรือ Franchise B2B รุ่นที่ 17) เมื่อปี พ.ศ.2558 และได้รับการคัดเลือกจากกรมฯ ให้ไปนำเสนอและเจรจาธุรกิจยังตลาดต่างประเทศมาแล้ว
                       ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีการดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สถาบันการเงิน และหน่วยงานพันธมิตรอื่นๆ หาพื้นที่เปิดตลาดแฟรนไชส์ไทยสู่ประเทศใหม่ๆ เพื่อขยายการส่งออกภาคบริการ และเพิ่มรายได้เข้าประเทศมากขึ้น ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ที่มุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐใช้หลักการขับเคลื่อนนโยบาย (Agenda) มากำหนดเป็นแนวทางการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน และให้มีการบูรณาการความร่วมมือกับภาคเอกชน มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งและสร้างความสมดุลในการพัฒนาเศรษฐกิจจากภายในสู่ภายนอก อันจะส่งผลต่อการสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนแก่ประเทศไทยในระยะยาว"
                       ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2559) ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยมีจำนวน 1,286 ราย แบ่งเป็น หมวดค้าปลีก 440 ราย (ร้อยละ 44.3) หมวดบริการ 251 ราย (ร้อยละ 25.2) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม 210 ราย (ร้อยละ 21) หมวดความงาม/สปา 53 ราย (ร้อยละ 5.3) และ หมวดการศึกษา 42 ราย (ร้อยละ 4.2) มีรายได้รวมทั้งสิ้นประมาณ 250,000 ล้านบาท
 
*************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ                                                                                         ฉบับที่ 128 / วันที่ 15 พฤศจิกายน 2559