กรมพัฒน์ฯ เฟ้นหานักธุรกิจรุ่นใหม่ไป 'ปักธงธุรกิจในอาเซียน'ก่อนก้าวสู่ตลาดโลก
กรมพัฒน์ฯ เฟ้นหานักธุรกิจรุ่นใหม่ไป 'ปักธงธุรกิจในอาเซียน'ก่อนก้าวสู่ตลาดโลก
มั่นใจแฟรนไชส์ไทยเป็นทางลัด...ช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้มหาศาล
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดพิธีเปิดโครงการแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลกประจำปี 2559สร้างโอกาส นักธุรกิจไทยบุกตลาดแฟรนไชส์อาเซียน พร้อมรับฟังการสัมมนาปักธงแฟรนไชส์ไทย...ผงาดสู่ ASEAN ภายใต้โครงการฯ มีกูรูเป็นพี่เลี้ยงเทรนหนักตลอดหลักสูตรครอบคลุมธุรกิจแฟรนไชส์ต้องเตรียมความพร้อมก่อนเก็บกระเป๋าพาไปพบกับตลาดต่างประเทศจริงๆ เชื่อ...แฟรนไชส์ไทยจะขยายสู่อาเซียนได้อีกหลายแบรนด์
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีพันธกิจสำคัญในการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจทุกรูปแบบ รวมไปถึงธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีการบริหารจัดการธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์อย่างเป็นระบบ สามารถพัฒนาเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพเป็นที่ยอมรับและพร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศได้เพิ่มมากขึ้น โดยได้จัดทำ 'โครงการแฟรนไชส์ไทย สู่ตลาดโลกประจำปี 2559' ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าและสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่พร้อมและมีศักยภาพได้มีโอกาสร่วมงานเจรจาธุรกิจหรืองานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ในต่างประเทศ นับเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้ขยายเครือข่ายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังต่างประเทศ
และในวันนี้ (15 สิงหาคม 2559) ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้มีพิธีเปิดโครงการแฟรนไชส์ไทยสู่ตลาดโลกประจำปี 2559 โดยผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับ 7 สิทธิประโยชน์รอบด้านดังนี้ 1) Training & Coaching เตรียมพร้อมการเจรจาและการแสดงธุรกิจในต่างประเทศ 2) Simulation Exhibition การฝึกปฏิบัติจริง ในสถานการณ์จำลอง 3) Franchise Strategy การจัดทำแผนกลยุทธ์ 4) Operation Manual & Franchise Legal การทบทวน พัฒนาคู่มือปฎิบัติการและสัญญาแฟรนไชส์ 5) Consulting การให้คำปรึกษาแนะนำการพัฒนาแผนการตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ระยะ 3 ปี 6) Translation จัดทำสื่อการนำเสนอและการเจรจาธุรกิจ 3 ภาษาและ 7) Go Inter เดินทางร่วมงานเจรจาธุรกิจ และงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งนี้ ทางโครงการฯ ได้กำหนดประเทศเป้าหมายไว้ 5 ประเทศได้แก่ ประเทศอินโดนีเซีย, กัมพูชา, เวียดนาม, สปป.ลาว และจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีความนิยมสินค้าและบริการของประเทศไทยประกอบกับมีความมั่นใจในสินค้าไทยว่า มีคุณภาพดี จึงเป็นกลุ่มเป้าหมายที่แฟรนไชส์ไทยควรให้ความสำคัญ
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการสัมมนาภายใต้หัวข้อ "ปักธงแฟรนไชส์ไทย...ผงาดสู่ASEAN" โดย มีการวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการขยายธุรกิจแฟรนไชส์สู่ต่างประเทศ การเปิดมุมมองและเทคนิคต่างๆ ที่แฟรนไชส์ไทยสามารถนำไปปรับใช้เพื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศ ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแฟรนไชส์ในกลุ่มประเทศอาเซียนมาร่วมวงเสวนาเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาด้วย
การสร้างธุรกิจแฟรนไชส์ไทยให้มีความเข้มแข็งสามารถขยายธุรกิจไปตลาดต่างประเทศได้นับว่ามีความสำคัญต่อการสร้างความมั่งคั่งให้เศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นทางลัดที่จะช่วยสร้างรายได้เข้าประเทศได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งเชื่อว่าถ้ากรมฯ สามารถเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยให้ขยายไปต่างประเทศได้มากขึ้น จะสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศได้อีกจำนวนมาก ดังนั้นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในการสร้างเครือข่ายไปยังต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่องก็จะสร้างรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล โดยที่ผ่านมากรมฯ ได้ส่งเสริมและพัฒนาจนสามารถขยายเครือข่ายไปต่างประเทศสำเร็จแล้วถึง 25 กิจการ และสร้างตลาดได้ใน 29 ประเทศ
ผู้ประกอบธุรกิจที่สนใจสร้างแฟรนไชส์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1570 และกองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า หมายเลขโทรศัพท์ 025475953 อีเมล์ franchisegointer@gmail.com และ interspecial2559@gmail.com ทั้งนี้ สามารถติดตามข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ได้ที่ Facebook : ปักธงแฟรนไชส์ไทยผงาดสู่ ASEAN
**************************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ฉบับที่ 100 / 15 สิงหาคม 2559