แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท

แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท

 
1. การยกเลิกชื่อที่จองก่อนครบกำหนดระยะเวลาที่ให้จองชื่อ
 
             กรณีชื่อที่นายทะเบียนอนุญาตให้จองแล้วทั้งที่เป็นการจองชื่อโดยทางอินเตอร์เน็ตหรือโดยการยื่นใบจองชื่อด้วยตนเอง หากผู้จองชื่อประสงค์จะขอยกเลิกชื่อที่จองนั้นก่อนครบกำหนดระยะเวลา 30 วันที่ให้จองชื่อ ผู้จองชื่อสามารถยื่นหนังสือขอยกเลิกชื่อที่จองพร้อมคืนหลักฐานใบจองชื่อได้ที่ฝ่ายจองชื่อนิติบุคคล สำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1 - 7 หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัด ในกรณีสำนักงานบริการจดทะเบียนธุรกิจ 1-7 หรือสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดเป็นผู้รับหนังสือขอยกเลิกชื่อที่จองและหลักฐานใบจองชื่อ ให้สำนักงานที่รับหนังสือดำเนินการโทรสารหนังสือขอยกเลิกและใบจองชื่อไปยังฝ่ายจองชื่อนิติบุคคลทันที ชื่อที่ได้มีการยกเลิกการจอง นายทะเบียนจะอนุญาตให้จองชื่อนั้นได้หลังจากวันที่ได้ยกเลิกแล้ว 5 วัน
 
2. การรับคำขอจดทะเบียนไว้พิจารณาในกรณีคำขอจดทะเบียนมีเอกสารประกอบไม่ครบถ้วนตามที่ระเบียบกำหนด
             ในกรณีที่เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนไม่ครบถ้วนตามที่ระเบียบกำหนดและผู้ขอจดทะเบียนหรือผู้รับมอบอำนาจ มีความประสงค์จะขอให้นายทะเบียนรับคำขอจดทะเบียนนั้นไว้ก่อนโดยจะนำส่งเอกสารประกอบที่ยังไม่ครบถ้วนนั้นให้นายทะเบียน ในภายหลัง ให้นายทะเบียนรับคำขอจดทะเบียนนั้นไว้ก่อนได้ เว้นแต่ในกรณีดังต่อไปนี้ที่ไม่อาจจะรับคำขอไว้ได้
             (1) เอกสารประกอบที่ยังไม่ครบถ้วนนั้นเป็นเอกสารประกอบที่มีนัยสำคัญ หาก ไม่มีเอกสารประกอบดังกล่าวแล้วนายทะเบียนจะไม่สามารถตรวจพิจารณาคำขอจดทะเบียนนั้นได้เลย เช่น คำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการและหรืออำนาจกรรมการที่ไม่ได้ลงชื่อโดยกรรมการผู้มีอำนาจทำการแทนบริษัทที่ไม่มีรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นที่มีมติเปลี่ยนแปลงกรรมการและหรืออำนาจกรรมการ และ

             (2) ผู้ยื่นขอจดทะเบียนไม่ยินยอมลงชื่อที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของนายทะเบียนซึ่งกำหนดให้ผู้ขอจดทะเบียนนำเอกสารประกอบที่ไม่ครบถ้วนมายื่นเพิ่มเติมภายใน 7 วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนรับคำขอไว้ เมื่อรับคำขอจดทะเบียนไว้แล้ว ให้นายทะเบียนกำหนดเลขคำขอจดทะเบียน (ซึ่งเป็นเลขคำขอจดทะเบียนแยกต่างหากจากเลขคำขอจดทะเบียนปกติ) และออกใบรับคำขอจดทะเบียนมอบให้แก่ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนด้วย ใบรับให้ทำตามตัวอย่างที่ 2 ท้ายแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการรับจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทนี้
 
3. การรับจดทะเบียนและการให้การรับรองตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนบริษัทที่เป็นตราดุนหรือตรานูน

              ในการรับรองเอกสารเกี่ยวกับตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีลักษณะเป็นตราดุนหรือตรานูน ซึ่งไม่สามารถจะทำให้ปรากฏรูปรอยดวงตราสำคัญนั้นบนเอกสารได้ ให้นายทะเบียนหมายเหตุในหน้าเอกสารที่รับรองว่า "ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนี้จดทะเบียนตราสำคัญเป็นตราดุนหรือตรานูน ซึ่งไม่สามารถจะทำให้ปรากฏรูปรอยดวงตราสำคัญบนเอกสารนี้ได้ หากประสงค์จะตรวจสอบรูปรอยดวงตราสำคัญดังกล่าว ให้ขอตรวจสอบจากแฟ้มทะเบียนเท่านั้น" สำหรับการขอจดทะเบียนดวงตราสำคัญของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีลักษณะเป็นตราดูนหรือตรานูนตั้งแต่วันที่แนวทางปฏิบัตินี้มีผลใช้บังคับเป็นต้นไป ให้นายทะเบียนระบุข้อความตามวรรคแรกไว้ใต้ดวงตราสำคัญดังกล่าวในขณะที่ได้รับจดทะเบียนด้วย
 
4. งบดุล ณ วันเลิกห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด

              นายทะเบียนจะพิจารณารับจดทะเบียนคำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีของห้างหุ้นส่วนและบริษัทได้เมื่อปรากฏว่า งบดุล  ณ วันเลิกที่ใช้ประกอบรายงานการชำระบัญชีและหรือคำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีมีลักษณะตามที่กำหนดไว้ดังต่อไปนี้ 

              (1) งบดุล ณ วันเลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นจะเป็นงบดุลที่แสดงฐานะ ณ วันที่ผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นตกลงและ มีผลให้เลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท หรือวันที่ที่นายทะเบียนได้รับจดทะเบียนเลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทนั้นก็ได้
              (2) งบดุล ณ วันเลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท จะต้องเป็นงบดุลที่ได้ผ่านการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีแล้วรายงานผลการตรวจสอบว่า งบดุลนั้นมีความถูกต้องโดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสังเกตใด ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของรายการในงบดุลซึ่งผู้สอบบัญชีไม่อาจที่จะตรวจสอบ ให้ความเห็น และหรือให้การรับรองความถูกต้องของงบดุลดังกล่าวได้
              (3) ในกรณีปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนบริษัทมีผลประกอบการในรอบปีบัญชีสุดท้ายซึ่งสิ้นสุด ณ วันเลิกห้างหุ้นส่วนบริษัท งบดุล ณ วันเลิกจะต้องมีงบกำไรขาดทุนและรายงานการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีที่ครอบคลุมถึงความถูกต้องของงบกำไรขาดทุนรวมอยู่ด้วย
 
5. การรับจดทะเบียนตั้งผู้ชำระบัญชีกรณีห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทเลิกกันโดยไม่ได้มีสัญญาหรือข้อบังคับกำหนดเรื่องการตั้งผู้ชำระบัญชีไว้

              5.1 คำขอจดทะเบียนเลิกและตั้งผู้ชำระบัญชีห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ที่ไมได้มีข้อสัญญาหรือข้อบังคับกำหนดเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีไว้ ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนเมื่อปรากฏว่า คำขอและรายการที่จดแจ้งในคำขอได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 ประกอบมาตรา 1252 แล้วดังนี้

              (1) มีการจดแจ้งให้หุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการทุกคนเป็นผู้ชำระบัญชี เว้นแต่ผู้เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการตาย
              (2) แบบรายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2) ได้ระบุรายละเอียดของหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการทุกคนซึ่ง เข้าเป็นผู้ชำระบัญชี พร้อมทั้งหุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการทุกคนที่เป็นผู้ชำระบัญชีได้ลงลายมือชื่อไว้
              (3) ระบุอำนาจผู้ชำระบัญชีเช่นเดียวกันกับอำนาจหุ้นส่วนผู้จัดการหรืออำนาจกรรมการตามที่ได้จดทะเบียนไว้ก่อนที่จะเลิกห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทในแบบรายการจดทะเบียนเลิก (แบบ ลช.2)
              (4) การลงลายมือชื่อผู้ชำระบัญชีผู้ขอจดทะเบียน ได้ให้หุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการทุกคนซึ่งเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีลงลายมือชื่อเป็นผู้ขอจดทะเบียนในคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชี(แบบ ลช.1)หรือให้หุ้นส่วนผู้จัดการหรือกรรมการซึ่งเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีคนหนึ่งคนใดเป็นผู้ลงลายมือชื่อในคำขอจดทะเบียนก็ได้
 
              5.2 คำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีที่ตั้งกรรมการบางคนหรือบุคคลภายนอกเป็นผู้ชำระบัญชีโดยข้อบังคับที่ จดทะเบียนไว้เดิมไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับเรื่องนั้นไว้ แต่ปรากฏว่ารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นเลิกบริษัทได้มีมติพิเศษให้แก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชี โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามารถตั้งกรรมการบางคนหรือตั้งบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่กรรมการเป็นผู้ชำระบัญชีบริษัทได้ และมีมติพิเศษให้เลิกบริษัทในคราวเดียวกันด้วย โดยมติพิเศษให้แก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีอยู่ในวาระก่อนมติพิเศษให้เลิกบริษัท ให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนคำขอจดทะเบียนดังกล่าวได้ เมื่อผู้ขอจดทะเบียนได้จัดทำคำขอจดทะเบียนเพื่อยื่นขอจดทะเบียนเป็นสองคำขอคือ คำขอจดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับการตั้งผู้ชำระบัญชีกับคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชี และให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนคำขอจดทะเบียนนั้นพร้อมกันได้โดยให้กำหนดเลขคำขอจดทะเบียนแก้ไขข้อบังคับไว้ก่อนคำขอจดทะเบียนเลิกชำระบัญชี
 
              5.3 สำหรับคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีที่ได้ตั้งกรรมการบางคนหรือบุคคลภายนอกเป็นผู้ชำระบัญชีโดยข้อบังคับ ที่จดทะเบียนไว้เดิมไม่ได้กำหนดเกี่ยวกับเรื่องนั้นไว้และนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้วก่อนที่แนวทางปฏิบัตินี้จะใช้บังคับ ให้นายทะเบียนรับรายงานการชำระบัญชีและรับจดทะเบียนคำขอจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีโดยการชำระบัญชีของผู้ชำระบัญชีตามที่ได้ จดทะเบียนไว้นั้นต่อไปจนเสร็จสิ้นได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้มีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงแก้ไขตัวผู้ชำระบัญชีใหม่