กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับพันธมิตร 'ปฏิบัติการพิเศษ' ปราบนอมินี บุกพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา พบผู้ต้องสงสัย 1 รายใหญ่

กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับพันธมิตร 'ปฏิบัติการพิเศษ' ปราบนอมินี
บุกพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา พบผู้ต้องสงสัย 1 รายใหญ่
 
            กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานพันธมิตรลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษสงขลา ลุย!! ถอนรากนอมินี ตรวจสอบเจ้าของธุรกิจโรงแรมหรู รีสอร์ท อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เบื้องต้นพบมีพิรุธ เร่งส่งเรื่องให้ตำรวจสืบต่อ และกรมฯ จะตรวจสอบบัญชีเชิงลึก หาหลักฐานชี้ชัด พร้อมปรับแผนรุกขยายพื้นที่ตรวจสอบในเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
           นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ได้รับการประสานเพื่อ ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 5 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ รุดตรวจสอบ 5 บริษัทในเขตเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งทั้งหมดเป็นธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม รีสอร์ท อพาร์ทเม้นท์ และธุรกิจบริการอื่น อันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการถือครองที่ดินและมีมูลค่าการลงทุนสูง อีกทั้งเป็นธุรกิจที่มีชาวต่างชาติถือหุ้นร่วมกับคนไทยซึ่งเป็นธุรกิจต้องสงสัยว่าอาจจะมีคนไทยแอบแฝง เป็นนอมินี
           จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า พฤติกรรมของผู้ถือหุ้นคนไทยมีมูลเหตุให้เชื่อว่าน่าจะเป็นการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว อันเป็นความผิดตามมาตรา 36 แห่งพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กรมฯ จึงมอบหมายให้ผู้อำนวยการกลุ่มบริการทะเบียนธุรกิจและอำนวยความสะดวกทางการค้า (กลุ่ม บอ.) สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสงขลา ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวน สภ.สะเดา ดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อเนื่อง รวมทั้ง กรมฯ ได้ตรวจสอบการจัดทำบัญชีของบริษัททั้ง 5 ราย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีข้อบกพร่องในการจัดทำบัญชีซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้บริษัทเข้าชี้แจง หากพบว่ามีการกระทำความผิดตามพ.ร.บ. การบัญชี พ.ศ. 2543 จริงจะพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
            สำหรับอนาคตกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จะปรับปรุงแผนการตรวจสอบนอมินีให้ครอบคลุมจังหวัดที่เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษให้มากขึ้น สืบเนื่องจากการลงพื้นที่ตรวจสอบในครั้งนี้ทำให้กรมฯ ได้ทราบข้อมูลสำคัญของช่องทางการกระทำผิดในธุรกิจนอมินีว่า ปัจจุบันธุรกิจของชาวต่างชาติที่ต้องการจะใช้คนไทยเป็น นอมินีได้ขยายการลงทุนไปสู่จังหวัดที่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือชายแดนไทยที่มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จากเดิมจะเน้นที่การประกอบธุรกิจในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งกรมฯ ได้มีแผนตรวจสอบ นอมินีในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว
             สุดท้ายนี้ ขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวเพื่อให้ คนต่างด้าวประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งจะต้องได้รับโทษหนักคือ จำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ ๑๐,๐๐๐ - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
 
**************************************************
ที่มา : กองธรรมาภิบาลธุรกิจ                                                                                                        ฉบับที่ 32 / 11 มีนาคม 2559