กรมพัฒน์ฯ จัดเวิร์กช็อปยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ Strong เชิญกูรูให้ความรู้
กรมพัฒน์ฯ จัดเวิร์กช็อปยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ Strong เชิญกูรูให้ความรู้
กรีนโลจิสติกส์ และเทคโนโลยีในการให้บริการ หวังสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการ
พร้อมนำลงพื้นที่ศึกษาและดูของจริงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
น.ส.รัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ กำหนดจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการหัวข้อ "ยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ไทยให้ Strong" ในวันที่ 7-8 มีนาคม 2559 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ชั้น 6 ให้กับธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องประมาณ 100 ราย เพื่อให้ยกระดับธุรกิจโลจิสติกส์ของไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากล และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจจากการเปิดเสรีทางการค้าภายใต้กรอบประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) รวมทั้งการปรับตัวเพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากการเข้ามาของธุรกิจโลจิสติกส์ข้ามชาติที่มีความได้เปรียบด้านเงินทุนและเทคโนโลยีที่ทันสมัย
"กรมฯ ตั้งเป้าที่จะให้ความรู้ สร้างความเข้าใจแก่ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์เกี่ยวกับการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับแนวทางการรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นแนวโน้มใหม่ของโลกที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องรักษาสิ่งแวดล้อม หากธุรกิจไทยสามารถปรับตัวได้ก่อน ก็จะยิ่งเป็นการสร้างความได้เปรียบในการ ทำธุรกิจ ขณะเดียวกันจะเพิ่มความรู้ในการนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาและปรับปรุงระบบการให้บริการเพื่อสร้างโอกาสในการทำธุรกิจให้เพิ่มขึ้น ซึ่งในการให้ความรู้ด้าน Green Logistics โดยเชิญนายศุภมิตร ศรีสวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มหาวิทยาลัยบูรพามาให้ความรู้ ส่วนการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการโลจิสติกส์ ได้เชิญ ดร.คมน์ พันธรักษ์ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยศรีปทุมมาให้ความรู้ และยังได้เชิญผู้แทนจากกรมการค้าต่างประเทศ มาให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องรู้ก่อนการนำเข้า-ส่งออกสินค้า โดยเฉพาะแบบฟอร์มต่างๆ ที่ใช้ในการส่งออก เป็นต้น"
รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสัมมนาในห้องเรียนแล้ว กรมฯ ได้นำผู้ประกอบการโลจิสติกส์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกว่า 100 ราย ไปศึกษาดูงาน ณ สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับพิธีการศุลกากร กฎระเบียบ ขั้นตอนการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และวิธีการตรวจปล่อยสินค้า เพื่อให้ได้ดูขั้นตอนการปฏิบัติงานจริงและนำมาปรับใช้ในการประกอบธุรกิจได้ รวมทั้ง ผลักดันให้ผู้ประกอบการยกระดับตนเองสู่มาตรฐาน ISO เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มโอกาส ทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการไทยในระดับสากลต่อไป
****************************************
ที่มา : กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ ฉบับที่ 28 / 8 มีนาคม 2559