กรมพัฒน์ฯ จับมือสมาคมการค้า และ e-Marketplace "สานพลังประชารัฐ" เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ และดันผู้ค้าออนไลน์สู่ระบบ สร้าง e-Commerce ไทยให้แข็งแรง!!

กรมพัฒน์ฯ จับมือสมาคมการค้า และ e-Marketplace "สานพลังประชารัฐ"
 เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อ และดันผู้ค้าออนไลน์สู่ระบบ สร้าง e-Commerce ไทยให้แข็งแรง!!
 
 
                         กรมพัฒนาธุรกิจการค้า บูรณาการตามนโยบายประชารัฐ ลุย!! งานด้าน e-Commerce ร่วมกับ พันธมิตร 14 สมาคมการค้า และ 8 ตลาดกลางออนไลน์ ส่งเสริมร้านค้าออนไลน์ให้น่าเชื่อถือ ด้วย 3 แนวทาง คือ แนะวิธีซื้อสินค้าออนไลน์อย่างมั่นใจ ดันพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เข้าระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย และสร้างรางวัลให้พันธมิตรเพื่อยกย่องหากสร้างยอดจดทะเบียนฯ สำเร็จ มั่นใจช่วยผู้ซื้อไร้กังวล ผู้ขายเพิ่มรายได้อย่างแน่นอน
                         นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพร้อมด้วย 14 สมาคมการค้า และ 8 ตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Marketplace) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา ว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อกำหนดแนวทางสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านค้าออนไลน์และผลักดันผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์ให้มาจดทะเบียน พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายมากขึ้น
                        ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบการขับเคลื่อนใน 3 แนวทาง ดังนี้ "สร้างความเข้าใจกับผู้ซื้อ และ ผู้ประกอบธุรกิจ" ด้วยการกระตุ้นให้ผู้ซื้อและผู้ขายสินค้าออนไลน์ตระหนักถึงการมีตัวตนและความน่าเชื่อถือของร้านค้า ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (ตรวจสอบได้ที่ www.trustmarkthai.com และ Application DBD e-Service) และเครื่องหมายรับรอง DBD Registered หรือ DBD Verified บนหน้าเว็บไซต์ ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์ทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลสามารถขอรับเครื่องหมายรับรองดังกล่าวได้ โดยกรมฯ จะพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดซึ่งจะเป็นการช่วยพัฒนาร้านค้าให้น่าเชื่อถือและยกระดับเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานต่อไป รวมถึงกรมฯ ยังได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการค้าออนไลน์ อาทิ งาน Thailand Online Mega Sale และ e-Commerce Day โดยงานดังกล่าวจะช่วยผู้ประกอบธุรกิจกระตุ้นยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ ที่ดีได้ในตลาดออนไลน์
                       นอกจากนี้ หัวใจสำคัญของแนวทางการขับเคลื่อนครั้งนี้คือ "การผลักดันให้สมาชิกใน e-Marketplace มาจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น" ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สมาคมการค้า และตลาดกลางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จะร่วมมือกันเผยแพร่ข้อมูลการจดทะเบียนฯ ผ่านทางช่องทางของแต่ละหน่วยงาน พร้อมชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่จะได้รับและผลเสียที่จะเกิดขึ้นหากร้านค้าไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ประกอบกับขณะนี้กรมฯ ได้วางแนวทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้กับผู้ประกอบธุรกิจ โดยอยู่ระหว่างการหารือกับกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นและสำนักการคลัง กรุงเทพมหานคร เพื่อกำหนดแนวทางที่เหมาะสม เช่น ในระยะสั้นอาจจัดให้มีศูนย์กลางในการรับคำขอจดทะเบียนพาณิชย์ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค หรือการยื่นคำขอทางไปรษณีย์ ส่วนในระยะยาวจะผลักดันให้มีระบบการจดทะเบียนทางออนไลน์ต่อไป และแนวทางสุดท้าย "การสร้างแรงจูงใจให้กับสมาคมการค้าและ e-Marketplace" โดยกรมฯ จะมอบรางวัลให้กับหน่วยงานพันธมิตรเพื่อประกาศเกียรติคุณหากสามารถผลักดันให้สมาชิกของตนมาจดทะเบียนฯ ได้ถึงร้อยละ 60 ของสมาชิกทั้งหมด ซึ่งกรมฯ จะมีพิธีมอบรางวัลในงานวันสถาปนากรมปี 2560 ซึ่งตรงกับวันที่ 16 มกราคม ของทุกปี
                      การประสานพลังประชารัฐในครั้งนี้ กรมฯ คาดหวังว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ซื้อสามารถจับจ่ายสินค้าทางออนไลน์ได้อย่างไร้กังวล รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าออนไลน์ได้เห็นถึงความสำคัญในการจดทะเบียนฯ มากขึ้น และใช้ e-Commerce เป็นช่องทางการขยายตลาดไปสู่สากลและสร้าง ขีดความสามารถทางการแข่งขันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
 
 -------------------------------------------------
ที่มา : กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์                                                                                                          ฉบับที่ 25/ 2 มีนาคม 2559