พบพิรุธ... 'ธุรกิจท่องเที่ยว และค้าที่ดิน2 ราย' ส่อแววเป็นว่าที่นอมินี ณ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย

พบพิรุธ... 'ธุรกิจท่องเที่ยว และค้าที่ดิน2 ราย'
ส่อแววเป็นว่าที่นอมินี ณ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
 
                 กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประเดิมลงพื้นที่ตรวจนอมินีในภาคเหนือเป็นที่แรกของปี 59 (เชียงใหม่และเชียงราย) เช็ค 44 ธุรกิจที่จะส่อแววว่าที่นอมินี พบมีธุรกิจเข้าข่ายเอี่ยวนอมินีจำนวน 2 ราย เร่งดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก หากพบว่าเป็นนอมินีจริงจะส่งให้ DSI จัดการทางกฎหมายต่อไป
                 นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปี 2558 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่มีความเสี่ยงที่จะใช้ตัวแทนอำพรางในการประกอบธุรกิจนอมินี ซึ่งในปลายปี 2558 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) การลงพื้นที่ครั้งนั้นพบผู้กระทำผิดจำนวน 2 ราย เป็นธุรกิจให้เช่ายานพาหนะและธุรกิจขายปลีก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบในเชิงลึก
                ในปี 2559 กรมฯ ได้เพิ่มเติมจังหวัดและธุรกิจที่มีความเสี่ยงจะเกิดนอมินีให้ครอบคลุม มากยิ่งขึ้น พร้อมกำหนดแผนลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับ 3 หน่วยงานพันธมิตรคือ กรมการท่องเที่ยว กรมสอบสวนคดีพิเศษ และตำรวจท่องเที่ยวเช่นเดิม โดยเลือกจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายเป็นพื้นที่แรกของปีนี้ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบเมื่อวันที่ 27-29 มกราคม 2559 ที่ผ่านมานั้น พบว่า บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ประกอบธุรกิจมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามกฎหมาย อย่างเคร่งครัด และให้ความร่วมมือในการตรวจสอบด้วยดี
                สำหรับผลการลงพื้นที่ตรวจสอบในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายครั้งนี้ พบธุรกิจที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเป็นนอมินีจำนวน 2 ราย จากธุรกิจที่เข้าไปตรวจสอบจำนวน 44 ราย ใน 2 จังหวัดดังกล่าว โดยธุรกิจที่เข้าข่ายนอมินีทั้ง 2 ราย เป็นธุรกิจท่องเที่ยว 1 ราย (เชียงใหม่) และธุรกิจตัวแทนนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ 1 ราย (เชียงราย) เบื้องต้นกรมฯ ได้แจ้งให้กรรมการบริษัทจัดส่งเอกสารและหลักฐานเพื่อนำมาวิเคราะห์ตรวจสอบหาข้อมูลในเชิงลึก หากพบว่ากระทำผิดโดยเจตนา กรมฯจะส่งเรื่องต่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
                อย่างไรก็ดี แม้จะพบผู้เข้าข่ายเพียง 2 ราย แต่กรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดเพราะการ ลงพื้นที่ทุกครั้งกรมฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกฎหมายที่ต้องรู้และปฏิบัติตาม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการประกอบธุรกิจและป้องปรามไม่ให้มีการใช้ตัวแทนอำพรางในการทำธุรกิจอีกต่อไป กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงขอเตือนคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนหรือถือหุ้นแทน คนต่างด้าวได้หยุดการกระทำดังกล่าว เพราะหากตรวจพบจะมีความผิดทางกฎหมายซึ่งจะมีโทษจำคุกไม่เกิน ๓ ปี หรือปรับตั้งแต่ ๑๐๐,๐๐๐ - ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและยังมีโทษปรับรายวันอีกวันละ ๑๐,๐๐๐ - 50,000 บาท จนกว่าจะเลิกฝ่าฝืน
 
**************************************************
ที่มา : กองธรรมาภิบาลธุรกิจ                                                                                                       ฉบับที่ 22 / 23 กุมภาพันธ์ 2559