กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับธนาคารมิซูโฮขยายการให้บริการ e-Certificate

กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับธนาคารมิซูโฮขยายการให้บริการ e-Certificate
 
        นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่าปัจจุบันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เปิดให้บริการออกหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate) ผ่านธนาคาร ซึ่งได้นำเทคโนโลยี "ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ Digital Signature" มาใช้ เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 20 มกราคม 2555 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับภาคธุรกิจ โดยมีธนาคารพันธมิตรที่เปิดให้บริการ 6 ธนาคาร คือ กรุงเทพ กรุงไทย ออมสิน กสิกรไทย ไทยพาณิชย์ และธนชาต รวม 4,245 สาขา จากทั้งหมด 6,162 สาขาทั่วประเทศ และในวันนี้ (13 มกราคม 2559) กรมได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารมิซูโฮ และจะเริ่มเปิดให้บริการ e-Certificate เพิ่มเติม ประมาณเดือนมีนาคม 2559 ซึ่งจะมีธนาคารพันธมิตรที่เปิดให้บริการ e-Certificate รวมเป็น 7 ธนาคารให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ รวม 4,246 สาขา โดยให้บริการออกหนังสือรับรองเอกสารประเภทต่าง ๆ ดังนี้
             (1) หนังสือรับรองนิติบุคคลของห้างหุ้นส่วน บริษัทจำกัด และบริษัทมหาชนจำกัด
             (2) รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียน งบการเงิน และบัญชีรายชื่อของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทจำกัดมหาชน
             (3) หนังสือรับรองข้อความที่นายทะเบียนเก็บรักษาไว้ของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
            (4) รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียน และงบการเงิน การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
            (5) รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียน งบการเงิน ทะเบียนสมาชิกสมาคมการค้าและหอการค้า
        ประชาชาชนยื่นคำขอผ่านอินเทอร์เน็ตหรือที่ธนาคาร และสามารถรับเอกสารที่สาขาของธนาคารทั่วประเทศ ที่มีโลโก้ เปิดให้บริการในวันทำการ ตั้งแต่เวลา 8.30 น.-17.00 น.
        "วันนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ธนาคารมิซูโฮ ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำหนึ่งในสามของประเทศญี่ปุ่นร่วมกับพันธมิตรของกรมฯ มีความพร้อมจะเปิดให้บริการ e-Certificate ในเร็วๆนี้ โดยจะสามารถอำนวยความสะดวก แก่ผู้ประกอบการธุรกิจชาวญี่ปุ่นที่มาประกอบธุรกิจในไทย และทำให้ประชาชนผู้ใช้บริการประหยัดเวลาในการเดินทาง เป็นอย่างมาก ซึ่งการออกหนังสือรับรองและรับรองสำเนาเอกสารของนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Certificate) ผ่านธนาคารนั้น เป็นไปตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) ได้ออกประกาศรับรองระบบการพิมพ์ออก ในระบบหนังสือรับรองนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ทำให้เอกสารที่ออกโดยระบบดังกล่าวมีผลบังคับใช้เช่นเดียวกับต้นฉบับเอกสารทางราชการทั่วไป"
          ในปี 2558 มีผู้ใช้บริการรวมทั้งสิ้น 143,067 ราย โดยเฉลี่ย 589 รายต่อวัน รายได้ค่าธรรมเนียมกว่า 30 ล้านบาท แนวโน้มการขยายตัวของผู้ใช้บริการมีอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้นกว่า 23,000 ราย คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีจำนวน 119,417 ราย เป็นการใช้บริการในกรุงเทพฯ ร้อยละ 58 และส่วนภูมิภาคร้อยละ 42 ทั้งนี้ ผู้ประกอบการและประชาชนที่สนใจใช้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 1570 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมทาง www.dbd.go.th
 
************************************
ที่มา: กองข้อมูลธุรกิจ                                                                                                                   ฉบับที่ 6 / 13 มกราคม 2559