สัมมนาครั้งใหญ่!! ฟังกูรู เตรียมความรู้... ก่อนเริ่มใช้ 'กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ' ทางเลือกใหม่ ทางรอดธุรกิจไทยเข้าถึงเงินทุน

สัมมนาครั้งใหญ่!! ฟังกูรู เตรียมความรู้... ก่อนเริ่มใช้ 'กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ'
ทางเลือกใหม่ ทางรอดธุรกิจไทยเข้าถึงเงินทุน
 
         กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เชิญทุกภาคส่วนกว่า 1,300 คน เข้าร่วมรับฟังและเตรียมความเข้าใจเรื่อง กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ พบกูรูทั้งระดับโลกและระดับประเทศ พร้อมเข้าใจมุมมองของ SMEs ก่อนบังคับใช้จริง 2 ก.ค. 59 ... เชื่อ!! หาก SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนจะช่วยดัน GDP ไทยโตก้าวกระโดด
         นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากที่พระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ. 2558 ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 5 พ.ย. 58 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าในฐานะเป็นหน่วยงานรับจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ และเผยแพร่ข้อมูลการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ ได้เดินหน้าเต็มที่เตรียมความพร้อมทั้งโครงสร้างภายในองค์กรและเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับการให้บริการ จดทะเบียนดังกล่าว โดยอีกด้านหนึ่ง กรมฯ ได้เร่งสร้างความรู้ความเข้าใจกับหน่วยงานต่างๆ และบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกภาคส่วนพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 59 อย่างสมบูรณ์แบบ
        "ในวันนี้ (3 ธ.ค. 58) กรมฯ ได้จัดสัมมนาเรื่อง กฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ: ทางเลือกใหม่ SMEs เข้าถึงแหล่งทุน ณ ห้องแกรนด์ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็คฟอรั่ม ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีเพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจได้รับทราบแนวทาง รวมถึงโอกาสและประโยชน์ที่จะได้รับจากกฎหมายฉบับนี้ โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจได้แบ่งปันมุมมองทุกมิติทั้งในระดับโลกคือ 'ธนาคารโลก' มุมมองของ 'ภาครัฐ' และ 'ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ไทย' ซึ่งผู้เข้าสัมมนาจะได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากประเทศที่มีการใช้กฎหมายในลักษณะนี้แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ทราบถึงสาระของกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจที่เป็นตัวช่วยสำคัญให้ SMEs กว่า 2 ล้านรายที่ยังไม่เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มีโอกาสในการเติบโตสามารถขยายธุรกิจของตนเองต่อไป"
         สำหรับใจความสำคัญที่ถือเป็นไฮไลท์ของกฎหมายฯ คือ เมื่อผู้ให้หลักประกัน (ผู้ประกอบธุรกิจ) ต้องการจะขอกู้เงินจากผู้รับหลักประกัน (สถาบันการเงิน) เพื่อนำมาใช้ในกิจการ กฎหมายฉบับนี้ปลดล็อกข้อจำกัดของการจำนองโดย 'ขยายประเภททรัพย์สิน' ที่จะนำมาใช้เป็นหลักประกัน ครอบคลุมรวมไปถึงกิจการ สิทธิเรียกร้อง สังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินทางปัญญา และ 'ไม่จำเป็นต้องส่งมอบทรัพย์สิน' ที่นำมาเป็นหลักประกันอีกต่อไป แตกต่างจากการนำทรัพย์สินไปจำนำเช่นในอดีต ทำให้ธุรกิจยังสามารถเดินหน้าสร้างรายได้ด้วยการใช้ทรัพย์สินนั้นผลิตสินค้าหรือบริการได้อย่างต่อเนื่อง นับว่ากฎหมายฉบับนี้จะเป็นทางเลือกใหม่ของผู้ประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะ SMEs ที่ช่วยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนยิ่งขึ้น เพื่อจะได้นำไปต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อันจะเป็นการเพิ่มความสามารถและศักยภาพการแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจโลกอีกทางหนึ่งด้วย
 
-------------------------------------------------
ที่มา : กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ                                                              ฉบับที่ 118/ 3 ธันวาคม 2558