เรื่อง แนวทางปฏิบัติกรณีการพ้นจากตำแหน่งกรรมการของบริษัทมหาชนจำกัดโดยผลของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ (ลงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๓)
ประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ------------------------------------------------------------------------------- |
ตามที่พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ กำหนดให้กรรมการและผู้บริหารของบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นต่อประชาชน หรือ บริษัทมหาชนจำกัดที่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องไม่มีลักษณะที่แสดงถึงการขาดความเหมาะสมที่จะได้รับความไว้วางใจให้บริหารจัดการกิจการที่มีมหาชนเป็นผู้ถือหุ้น ตามที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ประกาศกำหนด ซึ่งมีผลทำให้บุคคลที่มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวในบริษัทต่อไปไม่ได้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แจ้งข้อมูลบุคคลซึ่งพ้นจากตำแหน่งกรรมการของบริษัทโดยผลของกฎหมายดังกล่าวมายังกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการของบริษัทมหาชนจำกัด เป็นไปโดยถูกต้องตามกฎหมายและหลักธรรมาภิบาลธุรกิจ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ กรณีที่ได้รับแจ้งจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ว่า บุคคลใดพ้นจากตำแหน่งกรรมการโดยผลของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ ซึ่งเป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวต้องพ้นจากตำแหน่งกรรมการตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ ด้วย บริษัทมหาชนจำกัดมีหน้าที่ดำเนินการยื่นขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงกรรมการหรืออำนาจกรรมการแล้วแต่กรณี ภายใน ๑๔ วันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อ ๒ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เพิ่มข้อความท้ายหนังสือรับรองของบริษัทมหาชนจำกัดทุกบริษัทไว้ดังนี้ "กรณีที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรรมการและผู้บริหารจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๓๕ โปรดตรวจสอบรายละเอียดที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์" |
ประกาศ ณ วันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๓ |