ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้าว่าด้วยการจดทะเบียน

ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า
ว่าด้วยหลักเกณฑ์แลวิธีการในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ว่าด้วยสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๕๔



          โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขปรับ ปรุงระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้าว่าด้วยการจดทะเบียนสมาคมการค้า ฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันให้เหมาะสมยิ่งขึ้น รวมทั้งมีการนำหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติในการพิจารณาและออกคำสั่งทาง ปกครองที่ถูกต้อง ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมากำหนดไว้ด้วย นายทะเบียนกลางสมาคมการค้า จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

          ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า "ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๕๔"

          ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

          ข้อ ๓ ให้ยกเลิก
          (๑) ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า ว่าด้วยการจดทะเบียนสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๔๗
          (๒) ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า ว่าด้วยการจดทะเบียนสมาคมการค้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๒
บรรดาคำสั่ง ประกาศ และระเบียบอื่นใดในส่วนที่ได้กำหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ให้ใช้ระเบียบนี้แทน

หมวด ๑
บททั่วไป

          ข้อ ๔ ในระเบียบนี้
          "รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
          "นายทะเบียน" หมายความว่า นายทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัด และนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานคร
          "พนักงานเจ้าหน้าที่" หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙
          "สำนักงาน" หมายความว่า สำนักงานทะเบียนสมาคมการค้าประจำจังหวัดและสำนักงานทะเบียนสมาคมการค้าประจำ กรุงเทพมหานคร
          "การขออนุญาต" หมายความว่า การขออนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า
          "การขอจดทะเบียน" หมายความว่า การขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการ หรือการขอจดทะเบียนข้อบังคับ หรือแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมการค้า
          "การแจ้ง" หมายความว่า การแจ้งเลิกสมาคมการค้า หรือการแจ้งเสร็จการชำระบัญชีสมาคมการค้า
          "คำขอ" หมายความว่า คำขออนุญาตจัดตั้ง หรือคำขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการ หรือคำขอจดทะเบียนข้อบังคับหรือแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ หรือคำขอแจ้งเลิก หรือคำขอแจ้งเสร็จการชำระบัญชีของสมาคมการค้า

          ข้อ ๕ การขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้งที่ได้ยื่นต่อสำนักงานใด ให้นายทะเบียนสำนักงานนั้นพิจารณาสั่งการอนุญาต รับจดทะเบียน หรือรับแจ้ง หรือไม่อนุญาต ไม่รับจดทะเบียน หรือไม่รับแจ้งได้เองทั้งหมด
          คำขอใดมีปัญหาข้อเท็จจริง ปัญหาข้อกฎหมาย หรือมีการคัดค้านการขออนุญาต การขอจดทะเบียนหรือการแจ้ง นายทะเบียนสามารถตรวจพิจารณาสั่งการอนุญาต รับจดทะเบียน รับแจ้ง หรือไม่อนุญาต ไม่รับจดทะเบียน หรือไม่รับแจ้งได้เอง และเมื่อดำเนินการแล้ว ให้รายงานให้นายทะเบียนกลางสมาคมการค้าทราบภายในเจ็ดวัน นับแต่วันที่ได้พิจารณาสั่งการ
          คำขอใดที่นายทะเบียนไม่อาจพิจารณาสั่งการได้ ให้สรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และทำความเห็นแสดงเหตุผลเสนอตามลำดับชั้นถึงนายทะเบียนกลางสมาคมการค้าเพื่อ วินิจฉัยสั่งการ
          การขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้งใดที่ได้ยื่นต่อสำนักงานที่มิได้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในระเบียบ นี้ แต่นายทะเบียนพิจารณาเห็นควรอนุญาต หรือรับจดทะเบียน หรือให้รับได้ ให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามวรรคสามโดยอนุโลม

          ข้อ ๖ การขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้งใดที่นายทะเบียนได้พิจารณาสั่งการอนุญาต รับจดทะเบียน หรือได้รับไว้แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและภาพคำขอ พร้อมเอกสารประกอบ เข้าระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที

          ข้อ ๗ สำเนาเอกสารประกอบคำขอที่ยื่นต่อนายทะเบียน ให้ผู้ขออนุญาต ผู้ขอจดทะเบียน หรือผู้แจ้งอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง

          ข้อ ๘ ให้นำบทบัญญัติในมาตรา ๖๖ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาปรับใช้สำหรับคำขอใดที่ไม่ได้ยื่นภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดเพราะมี พฤติการณ์ที่จำเป็น อันมิได้เกิดจากความผิดของผู้มีหน้าที่ต้องจดทะเบียนหรือแจ้ง ถ้าผู้นั้นมีหนังสือขอขยายเวลาโดยแจ้งพฤติการณ์ที่จำเป็นต่อนายทะเบียนภายใน สิบห้าวัน นับแต่วันที่พฤติการณ์เช่นว่านั้นสิ้นสุดลง นายทะเบียนอาจขยายเวลาให้ได้ตามที่เห็นสมควร

          ข้อ ๙ในการขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้งตามระเบียบนี้ ให้ผู้ขออนุญาต ผู้ขอจดทะเบียน ผู้แจ้ง หรือผู้รับมอบอำนาจ ซึ่งเป็นผู้มาติดต่อแสดงบัตรประจำตัวของตน ต่อนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
บัตรประจำตัว ให้หมายถึง บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวข้าราชการ บัตรประจำตัวพนักงานองค์การของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หนังสือเดินทาง เอกสารใช้แทนหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวอื่นที่ทางราชการออกให้ หรือเอกสารอื่นที่ใช้แทนเอกสารดังกล่าวได้ตามกฎหมาย

          ข้อ ๑๐ การแก้ไข ขีดฆ่า หรือตกเติมคำหรือข้อความในคำขอและเอกสารประกอบใด ๆ ให้ผู้ขออนุญาต ผู้ขอจดทะเบียน ผู้แจ้ง หรือผู้รับมอบอำนาจจากบุคคลดังกล่าวโดยหนังสือมอบอำนาจได้ให้อำนาจไว้ เป็นผู้ลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข ขีดฆ่า หรือตกเติม
การแก้ไข ขีดฆ่า หรือตกเติมคำหรือข้อความในหนังสือมอบอำนาจ จะต้องให้ผู้มอบอำนาจลงลายมือชื่อกำกับการแก้ไข ขีดฆ่า หรือตกเติมนั้น


หมวด ๒
แบบพิมพ์และเอกสารที่ใช้ในการขออนุญาต การขอจดทะเบียนและการแจ้งของสมาคมการค้า

          ข้อ ๑๑ คำขอและเอกสารประกอบ ให้ใช้แบบพิมพ์ที่มีรูปแบบ ข้อความ และขนาดตามที่นายทะเบียนกำหนด โดยในการยื่นคำขอรวมทั้งเอกสารประกอบ ให้เป็นไปตามรายละเอียดประเภทของการขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้งที่กำหนดไว้ท้ายระเบียบนี้

          ข้อ ๑๒ การกรอกข้อความในแบบพิมพ์คำขอ และเอกสารประกอบที่ใช้ในการขออนุญาตการขอจดทะเบียน หรือการแจ้ง ให้ใช้พิมพ์ดีด หรือบันทึกข้อมูลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

          ข้อ ๑๓ เอกสารประกอบคำขอที่เป็นภาษาต่างประเทศ ให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทย และให้ผู้แปลรับรองความถูกต้องของคำแปลตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการ ทางปกครอง


หมวด ๓
การอนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า

          ข้อ ๑๔ การจัดตั้งสมาคมการค้าต้องขออนุญาตต่อนายทะเบียน โดยผู้เริ่มก่อการจัดตั้งจำนวนไม่น้อยกว่าสามคนซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา และเป็นผู้ประกอบวิสาหกิจตามความหมายในกฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า

          ข้อ ๑๕ ผู้ขออนุญาตจะต้องลงลายมือชื่อในคำขอต่อหน้านายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
การลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียนหรือพนักงาน เจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ผู้ขออนุญาตต้องแสดงบัตรประจำตัวพร้อมสำเนาหลักฐานดังกล่าว และให้นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกข้อความว่าได้เห็นต้นฉบับแล้ว และลงลายมือชื่อกำกับไว้ในสำเนาด้วย

          ข้อ ๑๖ ในการขออนุญาต ผู้ขออนุญาตต้องเสนอร่างข้อบังคับของสมาคมการค้า ที่จะขอจดทะเบียนไปพร้อมกับการขออนุญาต

          ข้อ ๑๗ เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนตั้งสมาคมการค้า และออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขออนุญาตแล้ว ให้รับจดทะเบียนข้อบังคับของสมาคมการค้านั้นไปพร้อมกัน และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งไปยังสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้าภายในสิบ ห้าวันทำการ เพื่อประกาศราชกิจจานุเบกษา

          ข้อ ๑๘ ในการพิจารณาความประพฤติของผู้ที่จะเป็นผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง ให้ผู้เริ่มก่อการแสดงหนังสือรับรองความประพฤติที่รับรองโดยพนักงานฝ่าย ปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่ประจำอยู่ ในท้องที่ที่ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งมีภูมิลำเนา ข้าราชการพลเรือนประเภทบริหาร ประเภทอำนวยการ ประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการซึ่งมีอายุงานตั้งแต่ห้าปีขึ้นไป หรือประเภททั่วไปตั้งแต่ระดับชำนาญงานขึ้นไป
ในกรณีที่ไม่มีบุคคลตามวรรคหนึ่งรับรอง ให้นายทะเบียนเป็นผู้ตรวจสอบความประพฤติของผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง โดยวิธีการตรวจสอบหรือให้ผู้เริ่มก่อการจัดตั้งแสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้ ว่าผู้เริ่มก่อการจัดตั้งนั้นมีความประพฤติดี

หมวด ๔
การจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการและแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ

          ข้อ ๑๙ การขอจดทะเบียนตั้งกรรมการชุดแรกของสมาคมการค้า ให้ผู้เริ่มก่อการอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อในคำขอ
ภายใต้ข้อบังคับของสมาคมการค้า ในการขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการ หรือการขอจดทะเบียนแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ ให้กรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนตามที่ได้จดทะเบียนไว้เดิมลงลายมือชื่อในคำขอ

          ข้อ ๒๐ ในการพิจารณาความประพฤติของผู้ที่จะเป็นกรรมการ หากที่ประชุมใหญ่สมาชิกไม่ได้ มีการลงมติรับรองความประพฤติของผู้ที่จะเป็นกรรมการไว้ ให้ผู้ที่จะเป็นกรรมการแสดงหนังสือรับรองความประพฤติที่รับรองโดยข้าราชการ พลเรือนประเภททั่วไประดับชำนาญงานขึ้นไป ประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการขึ้นไป ประเภทอำนวยการ และประเภทบริหาร หรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ซึ่งประจำอยู่ในท้องที่ที่ผู้จะเป็นกรรมการมีภูมิลำเนา อยู่ หรือจะมาแสดงตนต่อหน้านายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการสอบสวนถึงความประพฤติก็ได้

          ข้อ ๒๑ คำขอซึ่งมิได้มีการลง ลายมือชื่อเป็นไปตามข้อ ๑๙ นายทะเบียนจะรับจดทะเบียนได้ต่อเมื่อคำขอนั้นได้ลงลายมือชื่อโดยกรรมการ หรือผู้ที่จะเป็นกรรมการซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยมติที่ประชุมใหญ่ หรือมติที่ประชุมคณะกรรมการให้เป็นผู้ยื่นคำขอ และมีหลักฐานอันเป็นเอกสารประกอบการขอจดทะเบียน ดังต่อไปนี้
(๑) กรณีขอจดทะเบียนโดยอาศัยมติที่ประชุมคณะกรรมการ ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐานดังต่อไปนี้
ก. สำเนาหนังสือบอกกล่าวนัดประชุมคณะกรรมการที่มีระเบียบวาระที่เกี่ยวข้องกับ การขอจดทะเบียนพร้อมด้วยหลักฐานการส่งหนังสือบอกกล่าวนัดประชุมนั้น ไปยังกรรมการทุกคนหรือหลักฐานที่รับทราบการนัดประชุมของกรรมการทุกคนหรือ หลักฐานอื่นใดแล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
ข. สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการที่ปรากฏมติในเรื่องที่ขอจดทะเบียน
ค. สำเนาบัญชีรายชื่อซึ่งปรากฏลายมือชื่อกรรมการที่เข้าประชุม
(๒) กรณีขอจดทะเบียนโดยอาศัยมติที่ประชุมใหญ่สมาชิก ให้ผู้ขอจดทะเบียนส่งหลักฐานดังต่อไปนี้
ก. สำเนาหนังสือบอกกล่าวนัดประชุมใหญ่สมาชิกที่มีระเบียบวาระที่เกี่ยวข้องกับ การ ขอจดทะเบียน พร้อมด้วยหลักฐานการส่งหนังสือบอกกล่าวนัดประชุมนั้นไปยังสมาชิกทุกคน หรือหลักฐานที่รับทราบการนัดประชุมใหญ่สมาชิก หรือหลักฐานอื่นใดแล้วแต่กรณีตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ
ข. สำเนารายงานการประชุมใหญ่สมาชิกที่ปรากฏมติในเรื่องที่ขอจดทะเบียน
ค. สำเนาบัญชีรายชื่อซึ่งปรากฏลายมือชื่อสมาชิกที่เข้าประชุม

          ข้อ ๒๒ ในกรณีที่มีกรรมการหรือสมาชิกหรือผู้เกี่ยวข้องคัดค้านการจดทะเบียนใด ๆ เป็นหนังสือต่อนายทะเบียนก่อนที่จะได้รับจดทะเบียน ให้นำความในข้อ ๒๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม

          ข้อ ๒๓ เมื่อมีผู้คัดค้านการจดทะเบียนและนายทะเบียนพิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการกำหนดประเด็นข้อคัดค้านให้ชัดเจน หรือเพื่อทราบข้อเท็จจริงอื่นใดเพิ่มเติม ให้นายทะเบียนมีหนังสือลงทะเบียนไปรษณีย์ตอบรับ แจ้งประเด็น หรือรายละเอียดที่ต้องการทราบเพิ่มเติมไปยังกรรมการหรือสมาชิก โดยกำหนดเวลาให้ชี้แจงภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ลงในหนังสือ

          ข้อ ๒๔ การพิจารณาคำขอตามข้อ ๑๙ กรณีที่มีผู้คัดค้านการจดทะเบียน และรายชื่อสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมใหญ่ไม่ตรงกับรายชื่อสมาชิกตามสำเนา ทะเบียนสมาชิกที่นำส่งไว้ต่อนายทะเบียน จนเป็นเหตุให้เกิดประเด็นหรือข้อพิพาทเกี่ยวกับจำนวนสมาชิกผู้เข้าประชุม ใหญ่ หรือเกี่ยวกับสมาชิกภาพของสมาชิก ให้เป็นหน้าที่ของผู้ขอจดทะเบียน นำส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกฉบับล่าสุดที่มีรายชื่อสมาชิกเป็นปัจจุบันหรือฉบับ ที่ใช้อ้างอิงในการประชุมใหญ่ต่อนายทะเบียน และให้ถือเอาทะเบียนสมาชิกที่นำส่งใหม่ดังกล่าวนั้นเป็นหลักฐานในการพิจารณา
หากมีการโต้แย้งในความถูกต้องเกี่ยวกับจำนวนหรือสมาชิก ภาพที่ปรากฏตามสำเนาทะเบียนสมาชิกที่นำส่งไว้ต่อนายทะเบียน หรือที่นำส่งใหม่ตามความในวรรคหนึ่ง ผู้มีส่วนได้เสียอาจใช้สิทธิทางศาล เพื่อหาข้อยุติในข้อโต้แย้งนั้นก็ได้ และในระหว่างการพิจารณาไม่ปรากฏแก่นายทะเบียนว่าศาลได้มีคำสั่งห้ามนาย ทะเบียนรับจดทะเบียนไว้เป็นการชั่วคราว หรือมีคำสั่งศาลในทำนองเดียวกัน ก็ให้นายทะเบียนพิจารณาคำขอต่อไป

          ข้อ ๒๕ กรณีที่นายทะเบียนพิจารณารับจดทะเบียนหรือไม่รับจดทะเบียนคำขอใด ที่มีผู้คัดค้านการจดทะเบียนให้นายทะเบียนแจ้งสมาคมการค้าและผู้คัดค้านทราบ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิและระยะเวลาในการอุทธรณ์หรือโต้แย้งตามกฎหมายว่าด้วย สมาคมการค้า หรือตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ทั้งนี้ ตามที่กำหนดไว้ในหมวด ๑๑

หมวด ๕
ทะเบียนสมาชิก

          ข้อ ๒๖ สำเนาทะเบียนสมาชิกของสมาคมการค้าให้มีรายการและรูปแบบที่กำหนดไว้ท้ายระเบียบนี้
ให้สมาคมการค้ายื่นสำเนาทะเบียนสมาชิก ต่อนายทะเบียนภายในเก้าสิบวัน นับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาตหรือนับแต่วันที่สมาคมการค้าได้มีการรับสมาชิก ใหม่ หรือมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทะเบียนสมาชิก
การยื่นสำเนาทะเบียนสมาชิกต่อนายทะเบียน ตามวรรคสอง อาจจะส่งหรือยื่นสำเนาทะเบียนสมาชิก ในรูปแบบของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผ่นบันทึกข้อมูล (CD หรือ DVD) หรือจัดส่งสำเนาทะเบียนสมาชิกนั้นทางไปรษณีย์ ทั้งนี้ ให้สมาคมการค้าจัดทำหนังสือนำส่ง โดยต้องปรากฏลายมือชื่อของกรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนในหนังสือนั้น เมื่อนายทะเบียนรับสำเนาทะเบียนสมาชิกพร้อมหนังสือนำส่งไว้แล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและภาพเอกสารเข้าระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที

          ข้อ ๒๗ สำเนาทะเบียนสมาชิกที่สมาคมการค้านำส่งต่อนายทะเบียนนั้น ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้องตรงกับทะเบียนสมาชิกที่ สมาคมการค้าเก็บรักษาไว้

หมวด ๖
ตราของสมาคมการค้า

          ข้อ ๒๘ สมาคมการค้าจะมีตราของสมาคมการค้าหรือไม่ก็ได้ หากประสงค์จะมีตราของสมาคมการค้าก็ให้กำหนดรูปแบบของตราไว้ในข้อบังคับของสมาคมการค้า
ตราของสมาคมการค้าต้องไม่มีรูปแบบหรือลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(๑) เครื่องหมายตรามหาจักรีบรมราชวงศ์
(๒) พระบรมราชาภิไธย พระปรมาภิไธยย่อ ของพระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล และพระนามาภิไธยย่อของสมเด็จพระอัครมเหสีหรือสมเด็จพระยุพราช
(๓) พระบรมราชสัญลักษณ์ และพระราชสัญลักษณ์ ของพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสีและสมเด็จพระยุพราช
(๔) พระมหามงกุฎ มงกุฎขัตติยราชนารี หรือเครื่องราชอิสริยาภรณ์อื่นใดที่ใกล้เคียงกับมงกุฎ
(๕) ฉัตรต่างๆ อันเป็นลักษณะของเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศ
(๖) ตราแผ่นดิน ตราราชการ ตราครุฑพ่าห์ ธงหลวง ธงชาติ หรือธงราชการ เว้นแต่จะได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต
(๗) พระราชลัญจกร และลัญจกรในราชการ
(๘) เครื่องหมายกาชาด ชื่อกาชาด กาเยเนวา เครื่องหมายราชการ หรือเครื่องหมายใดๆ ที่ขัดต่อรัฐประศาสโนบายหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
(๙) เครื่องหมายราชการ องค์การ หน่วยงานของรัฐหรือองค์การระหว่างประเทศ ที่ขอสงวนไว้
(๑๐) สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ได้แก่ ช้างไทย ดอกราชพฤกษ์ และศาลาไทย

หมวด ๗
ชื่อของสมาคมการค้า

          ข้อ ๒๙ ชื่อของสมาคมการค้าต้องเป็นอักษรไทย โดยจะมีอักษรต่างประเทศกำกับไว้ท้ายหรือใต้ชื่ออักษรไทยด้วยก็ได้

          ข้อ ๓๐ ชื่อของสมาคมการค้าจะต้องไม่มีคำหรือข้อความใดๆ ดังต่อไปนี้
          (๑) พระนามของพระเจ้าแผ่นดิน พระมเหสี รัชทายาท หรือพระบรมวงศานุวงศ์ ในพระราชวงศ์ปัจจุบัน เว้นแต่จะได้รับพระบรมราชานุญาต
          (๒) ชื่อ กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงาน หรือองค์การของรัฐ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง
          (๓) ข้อความว่า "แห่งประเทศไทย" หรือข้อความที่มีความหมายในทำนองเดียวกัน
          (๔) ชื่อที่อาจก่อให้เกิดสำคัญผิดว่า รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม ส่วนราชการ ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานหรือองค์การของรัฐทั้งของประเทศไทยหรือต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศเป็นเจ้าของหรือผู้ดำเนินการ
          (๕) ชื่อที่ขัดต่อแนวนโยบายแห่งรัฐ หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
          (๖) ชื่อที่เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกับชื่อของสมาคมการค้าที่ได้ยื่นขอ อนุญาต หรือที่นายทะเบียนได้อนุญาตและรับจดทะเบียนไว้แล้ว

หมวด ๘
การส่งสำเนารายงานประจำปีและสำเนางบดุล

          ข้อ ๓๑ สมาคมการค้า ต้องจัดทำงบดุลให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบแล้วนำเสนอเพื่ออนุมัติต่อที่ประชุม ใหญ่ของสมาคมการค้าภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน นับแต่วันที่สิ้นปีการบัญชี ในการนี้ให้สมาคมการค้าจัดทำรายงานประจำปีแสดงผลการดำเนินกิจการเสนอต่อที่ ประชุมใหญ่ในคราวเดียวกับที่เสนองบดุลด้วยสำเนางบดุลของสมาคมการค้า ให้กรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้อง และประทับตราของสมาคมการค้าไว้ในสำเนางบดุลนั้นทุกหน้า

          ข้อ ๓๒ สมาคมการค้าต้องจัดส่งสำเนารายงานประจำปีและสำเนางบดุลที่ผ่านการอนุมัติจาก ที่ประชุมใหญ่ต่อนายทะเบียนภายในสามสิบวัน นับแต่วันที่มีการประชุมใหญ่
          การนำส่งสำเนารายงานประจำปีและสำเนางบดุลตามวรรคหนึ่ง ให้กรรมการอย่างน้อยหนึ่งคนเป็นผู้ลงลายมือชื่อในหนังสือนำส่งนั้น เมื่อนายทะเบียนได้รับไว้แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลและภาพ เอกสารเข้าระบบคอมพิวเตอร์โดยทันที
          งบดุลของสมาคมการค้าให้ระบุข้อความในงบดุลด้วยว่า ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่ครั้งใด เมื่อวันที่ เดือน ปีใด หากมิได้ระบุข้อความดังกล่าวไว้ต้องจัดส่งสำเนารายงานการประชุมใหญ่ที่ อนุมัติงบดุลนั้นไปพร้อมกับสำเนางบดุลที่นำส่งด้วย

หมวด ๙
การตรวจ คัดสำเนา หรือรับรองสำเนาเอกสาร

          ข้อ ๓๓ การขอตรวจ คัดสำเนา หรือรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสมาคมการค้า ให้ผู้ขอยื่นแบบตามแบบพิมพ์ที่กำหนดไว้ท้ายระเบียบนี้

          ข้อ ๓๔ การขอตรวจหรือคัดสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสมาคมการค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ของนายทะเบียน ในการอนุญาต การรับจดทะเบียน หรือการรับแจ้ง จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะมีคำสั่งศาลหรือได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
          ผู้ที่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนหรือ พนักงานเจ้าหน้าที่ให้ตรวจหรือคัดสำเนาเอกสารตามวรรคหนึ่ง จะต้องอยู่ในฐานะผู้ขออนุญาต ผู้ขอจดทะเบียน ผู้ชำระบัญชี ผู้คัดค้าน ผู้มีส่วนได้เสียจากคำสั่งของนายทะเบียน ผู้ซึ่งได้เข้ามาในกระบวนการพิจารณาของนายทะเบียน เนื่องจากสิทธิของบุคคลนั้นจะถูกกระทบกระเทือนจากคำสั่งของนายทะเบียน หรือผู้รับมอบอำนาจจากบุคคลดังกล่าว
          การขอตรวจ หรือคัดสำเนาเอกสารตามวรรคหนึ่ง ต้องทำเป็นหนังสือและระบุเอกสารที่จะขอตรวจหรือ คัดสำเนาโดยชัดเจน
          ความในข้อนี้มิให้ใช้บังคับแก่การขอตรวจเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องซึ่งกระทำเป็น ปกติในการขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือการแจ้ง

          ข้อ ๓๕ การรับรองสำเนาเอกสารเกี่ยวกับสมาคมการค้า ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงลายมือชื่อรับรอง โดยมีข้อความดังนี้

 
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เลขที่ . . . . . . . . . . วันที่ออกเอกสาร . . . . . . . . .
กระทรวงพาณิชย์
ขอรับรองว่าสำเนาเอกสารนี้ตรงกับฉบับที่สมาคมการค้าได้ยื่นไว้

. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
( )
พนักงานเจ้าหน้าที่

          ข้อ ๓๖ หนังสือรับรองความประพฤติของผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง หรือหนังสือรับรองประวัติกรรมการของสมาคมการค้าอันถือเป็นข้อมูลส่วนบุคคล นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่จะอนุญาตให้ตรวจ คัดสำเนา หรือทำการรับรองสำเนาเอกสารนั้นได้ต่อเมื่อได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจาก เจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ล่วงหน้าหรือในขณะนั้น

          ข้อ ๓๗ การยื่นขอใบอนุญาตสมาคมการค้าฉบับใหม่แทนฉบับเดิมที่สูญหายหรือถูกทำลายให้ กรรมการสมาคมการค้าหรือผู้รับมอบอำนาจโดยส่งหนังสือมอบอำนาจ ยื่นแบบตามแบบพิมพ์ที่นายทะเบียนกำหนดรูปแบบขึ้นท้ายระเบียบนี้

หมวด ๑๐
การเลิกและชำระบัญชีสมาคมการค้า

          ข้อ ๓๘ เมื่อปรากฏแก่นายทะเบียนว่า สมาคมการค้าใดไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ หรือหยุดดำเนินกิจการตั้งแต่สองปีขึ้นไป หรือสมาคมการค้าขาดส่งสำเนางบดุลและสำเนารายงานประจำปีต่อนายทะเบียนติดต่อ กันสามปี นับแต่ปีปัจจุบันย้อนหลังลงไป ให้นายทะเบียนมีหนังสือแจ้งกรรมการของสมาคมการค้านั้นมาชี้แจงข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการดำเนินกิจการ หรือส่งเอกสารเกี่ยวกับการดำเนินงานของสมาคมการค้า หรือนายทะเบียน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อาจเข้าไปตรวจสอบในสำนักงานของสมาคมการค้า เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงอันเกี่ยวกับการดำเนินกิจการของสมาคมการค้านั้น และหากข้อเท็จจริงปรากฏแก่นายทะเบียนว่าสมาคมการค้าไม่ได้ดำเนินกิจการหรือ หยุดดำเนินกิจการตั้งแต่สองปีขึ้นไปแล้ว ก็ให้รายงานเสนอตามลำดับชั้นถึงรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาสั่งให้เลิกสมาคมการค้า

          ข้อ ๓๙ เมื่อสมาคมการค้าได้เลิกกันด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง นอกจากกรณีที่รัฐมนตรีมีคำสั่งให้เลิกตามข้อ ๓๘ ให้สมาคมการค้านั้นแจ้งต่อนายทะเบียน ภายในกำหนดเวลาสิบห้าวัน นับแต่วันที่เกิดมีเหตุที่ทำให้เลิกและให้ผู้ชำระบัญชีอย่างน้อยหนึ่งคน ลงลายมือชื่อในคำขอแจ้งเลิกสมาคมการค้า

          ข้อ ๔๐ เมื่อนายทะเบียนได้รับทราบคำสั่งของรัฐมนตรีที่ให้เลิกสมาคมการค้า หรือได้รับการแจ้งเลิกสมาคมการค้าตามข้อ ๓๘ และ ๓๙ ให้นายทะเบียนทำการเพิกถอนใบอนุญาต และขีดชื่อสมาคมการค้าที่เลิกกันนั้นออกจากทะเบียน และให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งไปยังสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้าภายในเจ็ด วัน นับแต่วันที่นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตและขีดชื่อสมาคมการค้า เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา

          ข้อ ๔๑ การชำระบัญชีของสมาคม การค้าที่ได้มีการเลิกให้เป็นไปตามที่กำหนด ไว้ในข้อบังคับของแต่ละสมาคมการค้านั้น หรือเป็นไปตามบทบัญญัติ มาตรา ๓๙ และ ๔๐ แห่งพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙

          ข้อ ๔๒ เมื่อสมาคมการค้าได้เลิกกันแล้ว ให้ผู้ชำระบัญชีจัดทำรายงานการชำระบัญชียื่นต่อนายทะเบียนทุกระยะสามเดือน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปของบัญชีที่ชำระอยู่ จนกว่าจะเสร็จการชำระบัญชี

          ข้อ ๔๓ เมื่อการชำระบัญชีของสมาคมการค้าได้เสร็จสิ้นลงก็ให้ผู้ชำระบัญชีแจ้งต่อนาย ทะเบียน และให้ถือว่าสมาคมการค้านั้นได้ดำเนินการชำระบัญชีจนเสร็จสิ้นแล้ว

          ข้อ ๔๔ ในการรายงานการชำระบัญชีและการแจ้งเสร็จการชำระบัญชีของสมาคมการค้า ให้ผู้ชำระบัญชีอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อในแบบรายงานการชำระบัญชี หรือคำขอแจ้งเสร็จการชำระบัญชีแล้วแต่กรณี

หมวด ๑๑
การอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียน

          ข้อ ๔๕ การแจ้งสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า กรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ตั้งสมาคมการค้าหรือไม่รับจดทะเบียน การแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับของสมาคมการค้า ให้แจ้งคำสั่งเป็นหนังสือโดยระบุเหตุผลของการสั่งให้ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอจด ทะเบียนทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ทราบด้วยว่าผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอจดทะเบียนมีสิทธิอุทธรณ์คำ สั่งต่อรัฐมนตรีภายในสิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
          ในการอุทธรณ์คำสั่งตามความในวรรคหนึ่ง ผู้ขออนุญาตหรือผู้ขอจดทะเบียนจะยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อรัฐมนตรี หรือนายทะเบียน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ก็ได้ และให้ถือว่าวันที่ยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวเป็นวันที่ยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี

          ข้อ ๔๖ การแจ้งสิทธิอุทธรณ์คำสั่งนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทาง ปกครอง กรณีที่นายทะเบียนมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการ หรือไม่รับจดทะเบียนผู้ใดเป็นกรรมการของสมาคมการค้าหรือไม่รับการแจ้งเลิก หรือการแจ้งเสร็จการชำระบัญชีของสมาคมการค้า ให้แจ้งคำสั่งเป็นหนังสือโดยระบุเหตุผลของการสั่งให้ผู้ขอจดทะเบียนและ กรรมการผู้ที่ถูกปฏิเสธการรับจดทะเบียน หรือผู้ชำระบัญชีทราบ พร้อมทั้งแจ้งให้ทราบด้วยว่าผู้ขอจดทะเบียนหรือกรรมการดังกล่าว หรือผู้ชำระบัญชีมีสิทธิอุทธรณ์หรือโต้แย้งคำสั่งต่อนายทะเบียนภายในสิบห้า วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง

          ข้อ ๔๗ การแจ้งสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนตามข้อ ๔๕ และ ๔๖ ให้กระทำภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่มีคำสั่ง และให้กระทำโดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้
          (๑) แจ้งโดยวิธีส่งทางไปรษณีย์ตอบรับ
          (๒) ในกรณีที่คู่กรณีหรือผู้รับมอบอำนาจจากคู่กรณี ประสงค์จะมารับหนังสือแจ้งคำสั่งด้วยตนเอง ก็ให้คู่กรณีหรือผู้รับมอบอำนาจนั้นลงลายมือชื่อโดยระบุวันที่รับหนังสือ แจ้งคำสั่งไว้เป็นหลักฐานด้วย และให้ถือว่าได้รับทราบคำสั่งนั้นแล้ว
          (๓) แจ้งโดยวิธีอื่นใดตามที่กำหนดไว้ในหมวด ๔ แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.๒๕๓๙

          ข้อ ๔๘ คำอุทธรณ์หรือข้อโต้แย้งจะต้องทำเป็นหนังสือ โดยระบุข้อโต้แย้งและข้อเท็จจริงหรือ ข้อกฎหมายที่อ้างอิงให้ชัดเจน

          ข้อ ๔๙ เมื่อนายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับคำอุทธรณ์หรือโต้แย้งแล้ว ให้ดำเนินการ ดังนี้
          (๑) กรณีเป็นการอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีตามข้อ ๔๕ ให้นายทะเบียนพิจารณาสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและความเห็นเสนอตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีผู้มีอำนาจวินิจฉัย หรือดำเนินการตามที่รัฐมนตรีจะพิจารณาเห็นสมควร
          (๒) กรณีเป็นการอุทธรณ์ต่อนายทะเบียนตามข้อ ๔๖ ให้นายทะเบียนเป็นผู้พิจารณา หากเห็นด้วยกับอุทธรณ์ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ก็ให้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ได้วินิจฉัยไปแล้วได้ ถ้าไม่เห็นด้วยกับคำอุทธรณ์ กรณีอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนอื่นนอกจากนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำ กรุงเทพมหานคร ให้นายทะเบียนดังกล่าวสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พร้อมความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนกลางสมาคมการค้าเป็นผู้วินิจฉัย แต่หากเป็นกรณีอุทธรณ์คำสั่งของนายทะเบียนสมาคมการค้าประจำกรุงเทพมหานคร ก็ให้นายทะเบียนสรุปข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย พร้อมความเห็นเสนอปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้วินิจฉัย

บทเฉพาะกาล

          ข้อ ๕๐ บรรดาคำขอซึ่งได้ยื่นไว้ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้เป็นไปตามระเบียบที่ใช้บังคับอยู่ในขณะยื่นคำขอนั้น

          ข้อ ๕๑ คำขอที่ยื่นภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ ผู้ขออนุญาตจัดตั้ง ผู้ขอจดทะเบียน และผู้แจ้งจะใช้แบบพิมพ์เดิมที่แนบท้ายระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการ ค้าว่าด้วยการจดทะเบียนสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๔๗ ก็ได้

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๔
นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
นายทะเบียนกลางสมาคมการค้า

รายละเอียดคำขอและเอกสารประกอบตามประเภทของการขออนุญาต การขอจดทะเบียน หรือ
การแจ้ง แนบท้ายระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการใน
การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๕๔

ลำดับที่ ประเภทการขออนุญาต/
การขอจดทะเบียน/การแจ้ง
คำขอ รายการ เอกสารประกอบ
การขออนุญาตจัดตั้งสมาคมการค้า แบบ
ส.ห.๑
แบบ
ส.ห.๒
(๑) หนังสือรับรองความประพฤติของผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง (แบบ ส.ห. ๓)
(๒) ข้อบังคับ
(๓) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของ
ผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง (กรณีผู้เริ่มก่อการจัดตั้งมีสัญชาติไทย)
(๔) สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือ
เดินทางและสำเนาใบสำคัญถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร หรือ
หลักฐานการได้รับอนุญาตให้เข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการ
ชั่วคราวตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองรวมทั้งสำเนาใบอนุญาต
ทำงาน (กรณีผู้เริ่มก่อการจัดตั้งเป็นคนต่างด้าว)
(๕) หลักฐานการเป็นผู้ประกอบวิสาหกิจของผู้เริ่มก่อการจัดตั้ง
(๖) สำเนาหนังสือแสดงสิทธิการใช้สถานที่ตั้งสำนักงาน
(๗) แผนที่แสดงที่ตั้งโดยสังเขปพร้อมรูปถ่าย
(๘) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
การขอจดทะเบียนแก้ไขหรือเพิ่มเติมข้อบังคับ แบบ
ส.ห.๑
  (๑) ข้อบังคับที่ขอแก้ไข
(๒) สำเนารายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่มีมติ
(๓) สำเนาหนังสือแสดงสิทธิการใช้ที่ตั้งสำนักงาน
(กรณีแก้ไขที่ตั้งสำนักงาน)
(๔) แผนที่แสดงที่ตั้งโดยสังเขปพร้อมรูปถ่าย
(กรณีแก้ไขที่ตั้งสำนักงาน)
(๕) ใบอนุญาตฉบับเดิม (กรณีแก้ไขชื่อของสมาคมการค้า)
(๖) สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ขอจดทะเบียน
(๗) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
การขอจดทะเบียนตั้งหรือเปลี่ยนตัวกรรมการ แบบ
ส.ห.๑
  (๑) หนังสือรับรองประวัติกรรมการ (แบบ ส.ห.๖)
(๒) รายชื่อคณะกรรมการ (แบบ ส.ห.๗)
(๓) สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการหรือการประชุม
ใหญ่ครั้งที่มีมติ
(๔) สำเนาบัตรประจำตัวของผู้ขอจดทะเบียน
(๕) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
การแจ้งเสร็จการชำระบัญชี แบบ
ส.ห.๑
(๑) สำเนารายงานการประชุมใหญ่ครั้งที่มีมติ
(๒) ใบอนุญาตฉบับเดิม
(๓) สำเนาบัตรประจำตัวผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในแบบแจ้งเลิก
(๔) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี))
การแจ้งเสร็จการชำระบัญชี




แบบ
ส.ห.๑




(๑) รายงานการชำระบัญชีฉบับที่ . . . . . และสุดท้าย (แบบ ส.ห.๙)
(๒) สำเนาบัตรประจำตัวผู้ชำระบัญชีที่ลงชื่อในแบบแจ้งเสร็จ
การชำระบัญชี
(๓) หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)


         

 

แบบพิมพ์ที่นายทะเบียนกำหนดรูปแบบแนบท้าย
ระเบียบสำนักงานกลางทะเบียนสมาคมการค้า
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการปฏิบัติตามกฎหมาย
ว่าด้วยสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๕๔