ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๓๙) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ (หลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการขอจดทะเบียน) (ลงวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๓๙)

กฎกระทรวง
ฉบับที่ ๖ (พ.ศ. ๒๕๓๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด
พ.ศ. ๒๕๓๕

-------------------------------------------------------------------------------

 

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๔ (๑) แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓ และข้อ ๔ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๓ ผู้ซึ่งต้องลงลายมือชื่อในรายการต่างๆ ในคำขอจดทะเบียนต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้านายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่
ในกรณีที่ไม่อาจลงลายมือชื่อต่อหน้านายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ไม่ว่าด้วยประการใด ๆ ผู้นั้นต้องลงลายมือชื่อต่อหน้าบุคคลดังต่อไปนี้ โดยมีหนังสือรับรองการลงลายมือชื่อของบุคคลดังกล่าวแสดงต่อนายทะเบียนด้วย เว้นแต่กรณีตาม (๒) ให้ผู้รับรองลงลายมือชื่อรับรองไว้ในคำขอจดทะเบียน

(๑) นายอำเภอ ปลัดอำเภอ ผู้อำนวยการเขต ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขต หรือ นายตำรวจซึ่งมียศตั้งแต่ร้อยตำรวจเอกขึ้นไป ซึ่งประจำอยู่ในท้องที่ที่ผู้ขอจดทะเบียนมีภูมิลำเนาอยู่
(๒) ทนายความหรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองลายมือชื่อไว้กับนายทะเบียนตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด
(๓) หัวหน้าคณะผู้แทนทางฑูต หัวหน้าคณะผู้แทนทางกงสุล หรือหัวหน้าสำนักงานสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งประจำอยู่ ณ ประเทศอื่น หรือเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับมอบหมายให้ทำการแทนบุคคลดังกล่าว สำหรับกรณีลงลายมือชื่อในต่างประเทศ
(๔) บุคคลซึ่งตามกฎหมายของต่างประเทศที่ผู้ขอจดทะเบียนมีภูมิลำเนาหรือ พำนักอาศัยไม่ว่าในฐานะใด ๆ มีอำนาจรับรองลายมือชื่อ ทั้งนี้ โดยมีคำรับรองของบุคคลตาม (๓) รับรองลายมือชื่อของผู้รับรองลายมือชื่อดังกล่าวด้วย
หนังสือรับรองลายมือชื่อของบุคคลตาม (๑) ต้องทำตามแบบที่นายทะเบียนกำหนด
ข้อ ๔ การยื่นคำขอจดทะเบียนให้ยื่นต่อนายทะเบียนหรือส่งโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงนายทะเบียน ณ กรมทะเบียนการค้า กระทรวงพาณิชย์ หรือยื่นต่อนายทะเบียนในจังหวัดที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทตั้งอยู่ก็ได้"

ข้อ ๒ ให้ยกเลิกความในข้อ ๘ ข้อ ๙ ข้อ ๑๐ และข้อ ๑๑ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๘ การขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิก่อนการขอจดทะเบียนเป็นบริษัทตามมาตรา ๑๙ วรรคสอง และมาตรา ๒๐ (๓) ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบหนังสือยินยอมของผู้เริ่มจัดตั้งบริษัททุกคนที่ให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธินั้นไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน
ข้อ ๙ การขอจดทะเบียนแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของบริษัทตามมาตรา ๓๑ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบข้อบังคับของบริษัทฉบับที่ได้แก้ไขเพิ่มเติมแล้วซึ่งจัดทำขึ้นใหม่ทั้งหมดไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน
ข้อ ๑๐ การขอจดทะเบียนบริษัทตามมาตรา ๓๙ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน

(๑) ข้อบังคับของบริษัท
(๒) สำเนารายงานการประชุมจัดตั้งบริษัท
(๓) หนังสือของสถาบันการเงินแสดงว่าได้รับชำระเงินค่าหุ้น โดยระบุจำนวนเงินที่ได้รับไว้ทั้งสิ้น ประเภท และเลขบัญชีเงินฝาก
(๔) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท
ข้อ ๑๑ การขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการตามมาตรา ๔๐ เกี่ยวกับทุนชำระแล้วหรือจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน
(๑) หนังสือของสถาบันการเงินแสดงว่าได้รับชำระเงินค่าหุ้น โดยระบุจำนวนเงินที่ได้รับไว้ทั้งสิ้น ประเภท และเลขบัญชีเงินฝาก
(๒) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น"

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อ ๑๒ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕

ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๖ ข้อ ๑๗ ข้อ ๑๘ และข้อ ๑๙ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๑๖ การขอจดทะเบียนลดทุนตามมาตรา ๑๔๒ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน

(๑) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท
(๒) หนังสือรับรองว่าได้มีการส่งหนังสือแจ้งมติการลดทุนไปยังเจ้าหนี้บริษัท
(๓) หนังสือรับรองว่าได้มีการลงโฆษณามติการลดทุนของบริษัทในหนังสือพิมพ์โดยระบุฉบับและวันที่ลงไว้ด้วย
ข้อ ๑๗ การขอจดทะเบียนควบบริษัทตามมาตรา ๑๕๑ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน
(๑) หนังสือบริคณห์สนธิและข้อบังคับของบริษัทที่ควบกันแล้ว
(๒) สำเนารายงานการประชุมร่วมกันของผู้ถือหุ้นของบริษัทที่ควบกัน
(๓) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท
(๔) หนังสือรับรองว่าได้มีการส่งหนังสือแจ้งมติการควบบริษัทไปยังเจ้าหนี้ของบริษัท
(๕) หนังสือรับรองว่าได้มีการลงโฆษณามติให้ควบบริษัทของแต่ละบริษัทในหนังสือพิมพ์โดยระบุฉบับและวันที่ลงไว้ด้วย
ข้อ ๑๘ การขอจดทะเบียนเป็นผู้ชำระบัญชีตามมาตรา ๑๖๑ (๑) หรือขอจดทะเบียนเลิกบริษัทตามมาตรา ๑๖๑ (๒) ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบสำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้น หรือคำสั่งของศาลที่แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีหรือที่ให้เลิกบริษัท แล้วแต่กรณี ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน
ข้อ ๑๙ การขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงผู้ชำระบัญชีตามมาตรา ๑๖๓ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบสำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นที่มีมติแต่งตั้งผู้ชำระบัญชีหรือคำสั่งของศาลที่แต่งตั้งผู้ชำระบัญชีใหม่ แล้วแต่กรณี ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน"

ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๑ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
"ข้อ ๒๑ การขอจดทะเบียนแปรสภาพบริษัทเอกชนตามมาตรา ๑๘๓ ผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารดังต่อไปนี้ไปพร้อมกับคำขอจดทะเบียน

(๑) หนังสือบริคณห์สนธิ เฉพาะรายการตามมาตรา ๑๘ (๑) ถึง (๕) และข้อบังคับของบริษัท
(๒) สำเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นที่มีมติพิเศษให้แปรสภาพบริษัทเอกชน
(๓) บัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท"

ข้อ ๖ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ ๒๔ แห่งกฎกระทรวง (พ.ศ.๒๕๓๕) ออกตามความในพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.๒๕๓๕
"ข้อ ๒๔ ในกรณีที่ต้องมีการส่งเอกสารเพื่อประกอบคำขอจดทะเบียนตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนี้ อธิบดีกรมทะเบียนการค้าอาจกำหนดให้ส่งเป็นข้อมูลในรูปแบบอื่นได้ ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกรมทะเบียนการค้ากำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา"

ข้อ ๗ กฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

ให้ไว้ ณ วันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๙
ชูชีพ หาญสวัสดิ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

 

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ คือ เนื่องจากการยื่นคำขอจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัดในปัจจุบันมีขั้นตอนที่ยุ่งยากและผู้ขอจดทะเบียนต้องแนบเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ขอจดทะเบียน จึงได้ปรับปรุงแบบพิมพ์คำขอจดทะเบียนขึ้นใหม่ ซึ่งจะทำให้ผู้ขอจดทะเบียนสามารถลงรายละเอียดตามรายการที่จำเป็นสำหรับการพิจารณาคำขอจดทะเบียนได้โดยง่าย และส่งผลทำให้เอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนบางรายการไม่มีความจำเป็นต่อการพิจารณาของทางราชการอีกต่อไป จึงสมควรยกเลิกรายการเอกสารดังกล่าวนั้นเสีย ซึ่งจะเป็นการลดภาระแก่ผู้ขอจดทะเบียนในการจัดทำเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนและสมควรแก้ไขเพิ่มเติมการกำหนดให้ต้องแนบเอกสารบางอย่างที่เห็นว่าจำเป็นต้องใช้เพื่อประกอบการพิจารณาคำขอจดทะเบียนจริงๆ และไม่เป็นการสร้างภาระให้แก่ผู้จดทะเบียนและเจ้าหน้าที่ในการเก็บรักษาเอกสารดังกล่าว นอกจากนั้น ได้กำหนดให้อธิบดีกรมทะเบียนการค้ามีอำนาจกำหนดให้ผู้ขอจดทะเบียนสามารถเลือกส่งเอกสารประกอบคำขอจดทะเบียนในรูปแบบอื่นได้เพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแกผู้ขอจดทะเบียนมากยิ่งขึ้นจึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้